วันนี้จะมาแกะกล่องน้ำหอมที่ใช้ในบ้านจาก Maison Berger Paris เป็นน้ำหอมแบบ ก้านกระจายความหอม และ แบบตะเกียงน้ำหอม ที่มาจาก Collection น้ำหอมของ Lolita Lempicka ดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่มีน้ำหอมในชื่อ และมีรูปร่างขวดเดียวกันนั่นเอง
เหมือนเป็นความบังเอิญที่กำลังหาข้อมูลของน้ำหอมจาก Lolita Lempicka กลิ่นที่มีชื่อเดียวกันนี้ เพราะได้น้ำหอมรุ่นเก่ามาลองกลิ่นพอดี ก็ไปเจอโฆษณาของ Maison Berger ที่มีขวดตะเกียงน้ำหอมรูปร่างเหมือนขวดน้ำหอมของ Lolita Lempicka อีกด้วย เลยเป็นที่มาของการแกะกล่องในครั้งนี้
Collection ของ Lolita Lempicka ออกมาในปี 2018 ที่ทำมาเป็นรุ่น Limited Edition ( Limited แบบที่ยังมีขายอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ) ออกมาในรูปแบบขวดแก้วรูปทรงผลแอ๊ปเปิ้ล ตามแบบฉบับขวดน้ำหอมผลแอ๊ปเปิ้ลสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์จาก Maison Berger นั้นวางจำหน่ายในรูปแบบตะเกียงน้ำหอม, แบบก้านกระจายความหอม, เทียนหอม มีสีให้เลือก 2 สี คือ สีม่วงใส และ แบบไม่มีสี น้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง และขวดแก้วกระจายความหอมนั้นก็มีกลิ่นชื่อเดียวกันคือ Lolita Lempicka มีโน้ตกลิ่น Ivy leaves, Star anise, Liquorice Flower, Violet Flower, Cherry, Orris, Tonka bean, Creamy Wood, Caramel, Cistus Labdanum
ทั้งสองชิ้นนี้ทำการสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ของ Maison Berger Paris ในไทยโดยตรง หลังจากทำการสั่งซื้อและจัดส่งมาก็ใช้เวลาเร็วปกติ ประมาณ 2-3 วัน ผ่าน J&T Express
ชิ้นแรกที่ได้มาเป็นแบบ Diffuser หรือก้านกระจายความหอม เรียกเต็มๆ ว่า Lolita Lempicka Violet Premium Scented Bouquet มาในกล่องลวดลายเถาไอวี่สีทอง พร้อมกับ Logo Lolita Lempicka และ ถุงผ้าลายดอกไม้สวยมากๆ จากเว็บไซต์ Maison Berger Paris เมื่อซื้อสินค้า 2,000.- บาทขึ้นไป
สไลด์กล่องด้านนอกออกจะเจอกล่องสีดำมาตรฐานที่เปิดมาจะเจออุปกรณ์ทั้งหมดจัดวางไว้ด้านใน ชอบตรงที่กล่องเป็นฝากล่องแบบแม่เหล็กนี่ละเอาไว้ใช้ต่อได้อีก
อุปกรณ์ที่มาในกล่องก็จะมี ตัวขวดน้ำหอมรูปแอ๊ปเปิ้ลสีม่วง ที่มีลวดลายใบไอวี่รอบขวด ขวดมาในถุงผ้าบุฟองน้ำกันกระแทก 1 ชิ้น ก้านไม้วิลโล่ว์สำหรับกระจายกลิ่น 1 กล่อง น้ำหอมสำหรับเติมขวดน้ำหอมกลิ่น Lolita Lempicka ขนาด 200ml 1 ขวด และกรวยพลาสติกสำหรับใช้เติมน้ำหอม 1 ชิ้น
การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่ใช้กรวยพลาสติกเติมน้ำหอมลงในขวดทั้งหมด แล้วก็ปักไม้สำหรับกระจายความหอมลงไปก็เสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นตัวแท่งไม้จะซึมซับน้ำหอมขึ้นมากระจายความหมอมให้เราตามต้องการ
ระยะเวลาที่ระบุไว้ว่าสามารถกระจายกลิ่นได้ถึง 4 สัปดาห์เลย แต่คิดว่าเมื่อใช้งานจริงๆ แล้วอาจจะอยู่ได้นานสุดแค่ 1-2 สัปดาห์ ส่วนตัวบล็อกยังไม่ได้เอามาใช้งานสำหรับรุ่นก้านกระจายความหอม เพราะยังไม่มีห้องที่เหมาะสมสำหรับใช้งาน ถ้าเอามาใช้งานคงจะเสียดายด้วยความที่ห้องไม่เหมาะกับการเก็บกลิ่นหอมสักเท่าไหร่ เลยกะเอามาใช้ประกอบฉากถ่ายรูปซะมากกว่า และเป็นของสะสมด้วย
ชิ้นต่อมาเลือกเอาแบบตะเกียงน้ำหอม ชื่อในเว็บเรียกว่า Lolita Lempicka Violet Gift Set ชิ้นนี้คิดอยู่นานเกือบเดือนว่าจะเอามาดีไหม ด้วยราคาที่สูงกว่ามาก และรูปร่างก็คล้ายเดิม แต่ด้วยความที่มันเป็นตะเกียงน้ำหอมและยังไม่เคยใช้งานอะไรพวกนี้มาก่อน ก็ตัดสินใจเอามาเก็บสะสมอีกชิ้น
โดยที่รุ่นแบบตะเกียงน้ำหอมนี้ยังคงมาในแพ็คเกจเดิมทั้งหมด ทั้งกล่องสไลด์ด้านนอก และกล่องสีดำฝาแม่เหล็กด้านใน โดยมีอุปกรณ์ที่ใช้งานแตกต่างกันนิดหน่อย หลักๆ ก็มี ขวดตะเกียงน้ำหอมมาในถุงผ้าสีดำ 1 ชิ้น น้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง กลิ่น Lolita Lempicka ขนาด 250ml 1 ขวด และ กล่องอุปกรณ์ที่มี ฝาครอบโปร่งลายฉลุใบไอวีสีทอง 1 ชิ้น, ฝาครอบทึบสีทอง 1, กล่องใส้ตะเกียง 1 กล่อง, กรวยพลาสติก 1 ชิ้น, คู่มือการใช้งานตะเกียงน้ำหอม 1 ฉบับ
โดยในรอบนี้ได้แถมถุงผ้าลายใบไม้มา 1 ใบ ลายสวย รู้สึกจะมี 4 ลาย แต่ลายที่ถูกใจมีแค่ 2 ลายแล้วก็ได้ครบทั้ง 2 ลายมาพอดี กับใส่โค็ดรับน้ำหอมสำหรับเติมตะเกียงน้ำหอมขนาด 500ml ฟรีอีก 2 ขวด เมื่อมียอดซื้อสินค้า 4,000.- บาทขึ้นไปอีกด้วย
ในส่วนการใช้งานของตะเกียงน้ำหอมนั้น ขั้นแรกก็เติมน้ำหอมในตะเกียงทั้งขวดที่มาพร้อมกับชุดตะเกียงขนาด 250ml นำไส้ตะเกียงใส่ในขวดพร้อมกดให้แน่นพอประมาณ ปิดฝาครอบทึบทิ้งไว้ให้ไส้ตะเกียงซับน้ำหอมประมาณ 20 นาที จึงเปิดฝาครอบทึบ จุดไฟทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที ตอนที่ลองจุดไฟครั้งแรกไฟลุกสูงสว่างมาก จนนึกว่ามันจะไหม้ตะเกียงไปซะแล้วแต่ก็ทนต่อตามคู่มือบอกไว้ว่าไฟจะเริ่มลดระดับลงใช้เวลาประมาณ 2 นาที แล้วค่อยเป่าให้ไฟดับ หลังจากนั้นนำฝาครอบโปร่งครอบครอบไว้ให้ตะเกียงทำงานกระจายความหอมในห้องประมาณ 30 นาที หรือตามความหอมที่ต้องการ
ซึ่งวิธีทำความหอมแบบตะเกียงนั้นใช้งานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ขนาดห้องที่ไม่ปิดทึบ หรือค่อนข้างโปร่งไม่เก็บกลิ่นสักเท่าไหร่ก็ยังได้กลิ่นหอมฟุ้งลอยมาตามลมชัดเจนดี ถ้าใช้ในห้องปกติก็น่าจะให้กลิ่นหอมติดทนนานขึ้นแน่นอน ทดลองใช้งานแบบตะเกียงน้ำหอมมาก็พอะบอกได้ว่ามันสามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 1 อาทิตย์เต็ม กับการจุดทุกวัน วันละประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้ง น้ำหอมที่มากับชุดก็หมดขวดลงพอดี ส่วนตัวคิดว่าถ้าจุดใช้งานทุกวันก็ถือว่าค่าใช้จ่ายนั้นก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ถ้าใช้ขวดน้ำหอมขนาด 500ml ก็ใช้งานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ราคาขวดละ 936.- บาท ก็ถือว่าราคาน่าคิดอยู่ แต่ของแบบนี้น่าจะเอาไว้ใช้ปรับอาคารเป็นครั้งคราว สร้างบรรยากาศให้ห้องน่าอยู่ขึ้นเป็นบางโอกาสก็ไม่เลวนะ
สรุปแล้วเป็นการแกะกล่องที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดจริงจังให้อ่านกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นการแกะกล่องที่บล็อกชอบมาก เพราะตัวตะเกียง และขวดน้ำหอมนั้นสวยเหมือนขวดน้ำหอมของจริง Lolita Lempicka มาก เรียกว่าถอดแบบออกมาเป๊ะๆ และมาในขวดที่ใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก อาจจะเรียกว่าแจกันเลยก็ได้ วัสดุ รายละเอียดต่างๆ ก็ใส่ใจทำออกมาได้ดีสมราคา ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นกลิ่นของ Lolita Lempicka นั้นก็ให้กลิ่นหอมแบบเดียวกับกลิ่นน้ำหอมเลย ที่เป็นกลิ่นหอมนุ่ม แนวเครื่องเทศหวานอบอุ่น แต่ไม่มีมิติ ความลึกของกลิ่น หรือความฉ่ำเท่ากับกลิ่นน้ำหอมจริงๆ กลิ่นหอมที่ได้นั้นก็หอมโอเค ส่วนตัวไม่ถึงกับหอมมากมาย แต่ก็ให้ความผ่อนคลายสบายใจตามคุณสมบัติของกลิ่นได้อยู่ ดั้งนั้นหากใครกำลังมองเครื่องหอมภายในบ้านที่คุณภาพดีลองดูที่ Maison Berger ด้วยเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจดีเลย
ข้อสังเกต: เมื่อเป่าไฟให้ดับไป แล้วนำฝาครอบโปร่งครอบไว้ ตัวฝาครอบโปร่ง และตัวไส้ตะเกียงจะร้อนมาก เนื่องจากตัวไส้ตะเกียงจะมีตัวเซรามิกที่ติดไฟคอยกระจายกลิ่นอยู่ ทำให้ต้องระวังในการเลือกพื้นที่วางตะเกียงพอสมควร หากกระดาษปลิวไปติดอาจจะเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ / ตอนน้ำหอมเหลือก้นขวด ไม่อยากจุดไฟใช้งานเพราะกลัวไหม้ก็เลยเปิดฝาครอบทึบให้น้ำหอมระเหยออกไปเองจนหมดขวดนั้น ตัวตะเกียงก็กระจายกลิ่นออกมาเองดีใช้ได้เลย เพราะด้วยน้ำหอมมีเบสเป็นแอลกอฮอล์อยู่แล้วการระเหยน่าง่าย แถมกลิ่นที่ได้แบบไม่จุดไฟนั้นออกไปทางหอมใส-สดชื่นกว่าแบบกลิ่นที่ถูกกระจายด้วยความร้อนอีก น่าจะเป็นอีกวิธีสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงจุดไฟในห้องได้อยู่นะ
แถมนิดกับตะเกียงน้ำหอม Maison Berger Paris x Lolita Lempicka มันมีรุ่นพิเศษออกมาด้วยในรุ่น Art Edition ที่เป็นขวดรูปทรงเหมือนรุ่นทั่วไป แต่ใช้คริสตัลในการผลิตตัวขวดตะเกียงที่มีความใหญ่กว่าปกติ เพิ่มเถาไอวีประดับตัวขวด และฝาครอบโปร่งที่ใช้สีทองขัดเงาแทนสีทองผิวด้านจากรุ่นปกติ ที่ผลิตแบบ Handmade ทั้งหมด โดยราคาของรุ่น Art Edition นั้นค่อนข้างสูงมาก ในรุ่น ตะเกียงน้ำหอม Lolita Lempicka Art Edition Lamp อยู่ที่ 48,270.- และในรุ่น ก้านกระจายความหอม Lolita Lempicka Art Edition Diffuser อยู่ที่ 39,270.-
จากราคาที่ไม่น่าคิดจะเอามาเก็บสะสมแล้วก็นึกสนุกอยากจะหาเถาไอวี่แบบรุ่นพิเศษมาใส่ให้กับตะเกียงอันที่มีบ้าง นึกแล้วก็ลงมือทำเอาเองซะเลย ใช้โครงลวดทำเป็นแกนตามรูปแบบไว้ก่อน แล้วใช้ดินปั้นแบบแห้งเองปั้นบนโครงลวดให้ดูเป็นเถาไอวี่แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ใบไอวี่ก็ปั้นโดยใช้ดินปั้นเหมือนเดิมปั้นตามรูปแบบใบไอวี่ตามจินตนาการ ประมาณ 3 ขนาด ทิ้งไว้ให้แห้ง พอทุกอย่างแห้งแล้วก็ติดกาวตามตำแหน่งในแบบ แล้วทาสีก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ดูเหมือนจะง่ายนะแต่ทำจริงไม่ง่ายอย่างที่คิด นั่งปั้นใบไอวี่ลองผิดลองถูกอยู่หลายสิบใบ สีทองที่ใช้ก็เหลืองอ๋อยเกินสีสองของตะเกียงไปหน่อยแต่ช่างมันก็ดูสวยอยู่ เถาไอวี่อันเดียวก็ใช้เวลารวมๆ แบบทำบ้างหยุดบ้างประมาณเกือบสองอาทิตย์เลย คิดว่าถ้าอารมณ์ดีๆ คงจะทำอีกอันให้ขวดก้านกระจายกลิ่น แต่ตอนนี้พักไว้ก่อน และนี่ละเรื่องที่เอามาแถมเล่าสนุกๆ
*เห็นว่าเดือนกันยายนนี้ทาง Maison Berger Paris ของไทยกำลังลดราคารุ่นตะเกียงน้ำหอม ของ Lolita Lempicka อยู่ด้วย เหลือแค่ 2,800.- เอง จากราคาหน้าเว็บ 4,000.- กว่าๆ เลย คุ้มอยู่นะ แต่ต้องซื้อผ่านทาง Facebook กับทาง Line เท่านั้นด้วย ใครสสนใจนี่เป็นโอกาสดีแล้ว!!