Perfume Blog: Vintage CHANEL Part 6 [N°5 EDT, N°19 Parfum] [Vintage Collection]

.

สวัสดีบล็อก! วันนี้มาพร้อมกับ CHANEL รุ่นเก่า 2 กลิ่นที่ได้มาเมื่อช่วงต้นปี ขวดแรก N°5 Eau de Toilette ที่มาในขวดเปลี่ยมเล็ก ฝาหมุนกลมที่เคยเห็นผ่านตามาในสมัยเด็กๆ รอบนี้ได้มาพร้อมกล่อง สภาพดีสวยมาก น้ำหอมเต็มขวดครบๆ เลย อีกกลิ่นที่ได้มาก็ N°19 Parfum ในขวดแก้วรูปร่างดั้งเดิมที่สวยอยู่แล้ว ได้มาพร้อมกล่องใน กล่องนอก เชือกคอขวดยังคงอยู่แว๊กซีลไม่มีแล้ว น้ำหอมพร่องไปนิดหน่อย โดยรวามสภาพยังดีมากๆ

เป็นสองขวดที่ได้มาในสภาพสวยครบกล่อง โดยเฉพาะขวดเหลี่ยมนี้นั้นหาครบๆ สภาพดีๆ และราคาไม่แพงค่อนข้างยากเลย ถึงขวดจะดูธรรมดาไม่สวยแต่มันก็เป็นเอกลักษณ์ความเรียบง่ายของ CHANEL ในยุคเก่าๆ ก็ทำให้มันน่าเก็บสะสมขึ้นมาอีกเยอะ

CHANEL N°5 Eau de Toilette 19ml

.

CHANEL N°19 Parfum 15ml

Perfume Blog: CHANEL N°5 Holiday 2021 Limited Edition

สวัสดีบล็อก! ครั้งนี้มาดู CHANEL N°5 Limited Edition เป็นชุดสำหรับ Holiday 2021 ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ โดยเป็นการนำ CHANEL N°5 ที่จะฉลองครบรอบ 100 ปี มาปรับเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่อีกครั้ง สำหรับจำหน่ายในช่วงเทศกาลสิ้นปี มาในธีม “ASK FOR THE MOON” หรือ “ปราถนาสิ่งล้ำค่าดั่งดวงจันทร์”

.

รอบนี้ทาง CHANEL มีสินค้าพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยนั่นคือ CHANEL N°5 THE CALENDAR หรือปฏิทินสินค้าที่นับถอยหลังสิ้นปีที่หลายๆ แบรนด์ทำมาจำหน่ายกันทุกสิ้นปี ในส่วน THE CALENDAR นั้นจะเริ่มในวันที่ 5 – 31 ซึ่งแตกต่างจาก ADVENT CARLENDAR ของแบรนด์อื่นส่วนใหญ่จะเริ่มจากวันที่ 1 – 24 วางจำหน่ายในราคา 26,000 บาท ผ่านช่องทาง Online แต่เหมือนจะขึ้นสถานะสินค้าว่าหมดตลอดเวลา อาจจะต้องเป็นการสั่งจากเคาน์เตอร์ หรือตามบูติคเพื่อซื้อแทนคิดว่างั้น

.

สินค้าที่อยู่ใน THE CALENDAR มีสินค้าขนาดขายจริงอยู่ประมาณ 4 – 5 ชิ้น นอกนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ฟรีจากการซื้อสินค้าซะมากกว่า ส่วนตัวชอบแพ็คเกจมาก รูปร่างขวดน้ำหอมสีขาวทำจากกระดาษแข็งด้านในจัดวางเป็นกล่องเล็กๆ ซ้อนกันเหมือนเล่นเกมส์น่าสนใจดี แต่ดูตัวสินค้าที่ได้กับราคาแล้วเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ เหมาะกับผู้ที่รักมาก และต้องการสะสมมากๆ เท่านั้นละ

.

สินค้าพิเศษอีกชิ้นก็คือ CHANEL N°5 GRAND EXTRAIT BACCARAT 2021ml หรือก็คือ CHANEL N°5 ความเข้มข้นแบบ Parfum ขนาด 2021มล มาในขวดคริสตัลบัคคาราต์ขนาดใหญ่ พร้อมแท่งคริสตัล และกล่องหุ้มด้วยหนังแกะ มีเพียง 55 ขวดทั่วโลก ในไทยเหมือนจะมีไม่กี่ขวดที่เข้ามา และก็มีคนซื้อไปแล้วด้วย 1 ขวด SA เล่าให้ฟังเมื่ออาทิตย์ก่อน

.

CHANEL N°5 EDP และ CHANEL N°5 L’EAU ขนาด 100ml ที่มาในแพ็คเกจใหม่รูปร่างคล้ายกับชุด FACTORY 5 ที่ฉลอง 100 ปี ไปเมื่อช่วงกลางปี แต่ชุดนี้จะเป็นแพ็คเกจกระดาษสีขาวที่ไม่มีแผงกระดาษสำหรับห้อยแล้ว แพ็คเกจเป็นรูปร่างขวดน้ำหอมเลย ประดับด้วยสัญลักษณ์ CC สีดำแบบ Wax Seal และฉลากชื่อกลิ่นที่มีหมายเลข 5 รุ่นพิเศษบนขวด

ต่อมาเป็นเครื่องสำอางค์ 2 ชิ้นที่มีแพ็คเกจรุ่นพิเศษ คือ อายแชโดว์ 4 เฉดสี มีกล่องเป็นรุ่นพิเศษเพิ่มหมายเลข 5 บนกล่อง พร้อมสัญลักษณ์น้ำหอม CHANEL N°5 บนเฉดสี และ ลิปสติก ที่แท่งลิปสติก และกล่องมีสัญลักษณ์หมายเลข 5 นอกนั้นสินค้าอื่นๆใน Holiday 2021 Collection ก็ยังคงเหมือนเดิมที่มีขายปกติ

.

สำหรับ Holiday 2021 Collection ชุดนี้ที่ยังคงธีมการเฉลิมฉลอง 100 ปี CHANEL N°5 อยู่นั้น ส่วนตัวคิดว่าก็งั้นๆ ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่สำหรับคนที่ชื่นชอบ และสะสม CHANEL N°5 อย่างตัวบล็อก เพราะหลายๆ ชิ้นก็เพียงแค่เปลี่ยนแพ็คเกจเท่านั้นเองไม่พิเศษอะไร แถมราคาเพิ่มขึ้นกว่าปกติอีก อย่างตัวน้ำหอมในแพ็คเกจพิเศษนี้ก็ราคาขึ้นไปถึง 6,950 บาท จากปกติขนาด 100ml อยู่แค่ 6,600 บาท สิ่งที่คิดว่าแปลกใหม่น่าสนใจก็คงจะเป็น THE CALENDAR นั่นแหละที่ทำออกมารูปร่างสวยดูดี แต่สินค้าด้านในดูไม่เหมาะกับแพ็คเกจ และราคาสักเท่าไหร่ เหมือนจะเป็นการซื้อของแถมที่ CHANEL แจกฟรีให้ลูกค้ากลายๆ ซะอย่างนั้นละ ส่วน CHANEL N°5 ขวดใหญ่นั่นก็ดีแต่คงไม่ใช่ทางของเราอีกนั่นแหละราคาคงหลายแสนเลย

แล้วคิดว่าบล็อกเลือกอะไรมาเก็บสะสมใน Holiday 2021 Collection ละ? สำหรับคนที่สะสม CHANEL N°5 แล้วก็ต้องเป็น CHANEL N°5 EDP ในแพ็คเกจพิเศษแน่นอน ชิ้นอื่นก็ข้ามหมดราคาพาแพงกันเหลือเกิน มาแกะกล่องกันดีกว่า

.

Collection นี้ตัวสินค้านั้นลงขาย Online มาตั้งแต่ช่วงกลาง-ปลายเดือนตุลาคม ก่อนแล้ว แต่ไม่ได้สั่ง Online หรอกได้ขวดนี้จากเคาน์เตอร์ประจำในห้างมาแทน ที่ตามเคาน์เตอร์ในห้างจะขายตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน วันที่ไปทางเคานต์เตอร์ยังไม่ได้จัดบูธของ Collection นี้เลย SA บอกว่าบูธจะจัดวันที่ 2 พฤศิกายน เลยไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศที่เคาน์เตอร์มาเลย

ตัวขวดน้ำหอมจะมาในถุงบับเบิ้ลกันกระแทกมีสติกเกอร์ชื่อกลิ่นแปะไว้ เหมือนสินค้าสำหรับทดลองที่แจกลูกค้าดูแปลกตาดี SA ก็บอกว่ากันขวดน้ำหอมเลอะระหว่างขนส่งเพราะมันเป็นกระดาษสีขาว

.

แกะออกจากถุงกันกระแทกก็จะเจอแพ็คเกจขวดน้ำหอมรุ่นพิเศษที่สวย ดูเรียบง่าย และดูพิเศษจนต้องเอามาเก็บสะสม ถึงแม้ตอนแรกคิดว่าคงจะไม่ได้เก็บชุดนี้แล้ว

.

สัญลักษ์โลโก้ที่มาในรูปแบบ Wax Seal ที่แทนสัญลักษณ์บนขวดน้ำหอมแบบ Parfum คล้องคอขวดด้วยเชือกแบบยางยืดและยางสีดำอีกเส้น

.

เปิดออกมาก็จะเจอ CHANEL N°5 ฉลากใหม่ด้านใน ตัวแพ็คเกจเป็นกระดาษแข็งหุ้มไปตามรูปร่างขวดน้ำหอมเหมือนเปลือกไข่มันให้ความรู้สึกดีมากเมื่อเห็น

.

ฉลากรุ่นพิเศษบนขวดน้ำหอมนั้นจะมีเลข 5 ปั้มนูน สีทองสำหรับรุ่น EDP ปกติ และสีเงินสำหรับรุ่น CHANEL N°5 L’EAU

.

เอาจริงๆ พอเห็นแพ็คเกจและขวดน้ำหอมใน Collection นี้ตัวจริงแล้วก็ค่อนข้างพอใจเลย ดูดี สวยเหมาะกับเป็นรุ่นฉลอง 100 ปี CHANEL N°5 มากกว่าช่วงรุ่น FACTORY 5 อีก ช่วงนั้นเหมือนของเล่นมากไปหน่อย ไม่ผิดหวังที่เลือกเอามาเก็บ สำหรับผู้ที่สะสมน้ำหอมที่สนใจแล้วคิดอยู่ก็แนะนำถ้ามีโอกาสเก็บได้ก็เอามาเลยเพราะจะมีโอกาสสักกี่ครั้งที่ CHANEL N°5 ครบ 100 ปี แล้วมีสินค้าฉลองออกมาให้เก็บอีก คงไม่มีแล้วละถ้าเลยสิ้นปีนี้ไป… เพราะมันจะกลายเป็น 101 ปี แทน

CHANEL N°5 HOLIDAY 2021 COLLECTION GALLERY

Perfume Blog: CHANEL N°22 Cologne + EDT [Vintage]

.

CHANEL N°22 ออกมาปี 1922 ตาม N°5 มาในปีถัดไป เป็นกลิ่นที่ให้โน๊ตหลักของดอกไม้สีขาว แสดงออกถึง White Look. ด้วยโน๊ตกลิ่นจาก Jasmine, Orange Blossom, Lilac, Rose, Aldehydes, Ylang-Ylang, Nutmeg, iris, Vanilla, Vetiver กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ปัจจุบันถูกเอาไว้ในไลน์น้ำหอม Les Exclusife de Chanel น้ำหอมชุดพิเศษที่ในขวดสี่เหลี่ยม ฝากลมสีดำเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็ฯรูปร่างขวดน้ำหอมของ CHANEL ในยุคก่อนหน้านี้ด้วย โดยครั้งนี้ได้ขวดรุ่นเก่ามาเป็นขวดเล็กๆ หน้าตาแปลกไม่มีป้ายชื่อสีขาวหน้าขวดอย่างขวดปกติเลยอยากเอามาเก็บ และเคยได้ยินว่ากลิ่น N°22 นั้นเป็นแฝดของ N°5 ที่หอมมากเหมือนกันเลยจะเอามาเปิดลองกลิ่นเป็นครั้งแรกดูว่ากลิ่นมันจะเป็นยังไง

รุ่น Cologne ให้กลิ่นหวานโปร่งใส กลิ่นคมๆ แนวกลิ่นดอก Ylang-Ylang ที่มีความเนียนฉ่ำ อมเปรี้ยวนิดปลายกลิ่นเหมือนกุหลาบ ให้ความหอมใสกำลังดี มีกลิ่นออกคาว อับๆ แบบกลิ่น Lily-of-the-Valley ชัดลอยคลอทำให้กลิ่นมันดูฉุน มีความเขียวทึบแบบเลอะๆ เป็นพื้นหลังมีเสน่ห์น่าดมมากแบบกลิ่นน้ำหอมเก่า ในรุ่นนี้ไม่รู้สึกถึงกลิ่นวนิลา กับ Aldehydes ที่เป็นจุดเด่นสักเท่าไหร่ รู้สึกได้แค่กลิ่นแนวดอกไม้หวาน-คาว เนื้อกลิ่นโปร่งใส ไม่เนียนนุ่มเท่าไหร่แต่เป็นกลิ่นที่รู้สึกสดชื่น บางเบา

CHANEL N°22 Eau De Cologne

ในรุ่น EDT ให้กลิ่นหอมละมุนของกลิ่นแนวดอกไม้ ที่ให้กลิ่นโปร่งโล่งมีเอกลักษณ์อย่าง Aldehydes ให้กลิ่นหอมนุ่มละมุน มีความหวานผสมกับกลิ่นฝุ่นๆ แบบกลิ่นแป้งหอมหรู ได้กลิ่นเนียนหวานแบบวนิลาแห้งๆ ตามสไตล์น้ำหอมยุคเก่า ให้อารมณ์กลิ่นวนิลาแบบ Shalimar ของ Guerlain แต่ไม่โปร่งใสหรือกลิ่นสว่างเท่า ส่วนเนื้อกลิ่นนั้นออกไปทางหวานนวล หนักๆ อย่าง N°5 รุ่นพี่

ลองกลิ่นดูแล้วรู้ได้เลยว่า N°22 เป็นพี่น้องกับ N°5 แน่นอน โดยเฉพาะในรุ่น EDT ขวดเก่านี้ให้กลิ่นหนา แน่น หวานทึบๆ ให้กลิ่นโปร่งซ่าจาก Aldehydes ที่โดดเด่น หอมนุ่มแบบแป้งหอมโบราณ มาในโทนเดียวกันเลยเว้นแต่ N°22 จะมีวนิลาหอมนุ่มเย็นๆ ที่โดดชัดออกมา ทำให้โทนกลิ่นไปทางแนวตะวันออกหรูๆ ชัดเจนมากขึ้น เป็นกลิ่นที่หอม และหรูหราอย่างที่รู้สึกได้ในครั้งแรกที่ลองกลิ่น แต่มีข้อสังเกตตรงที่กลิ่นมันหวานฝุ่นๆ พอกลิ่นแห้งไปแล้วจะออกแนวกลิ่นฉุนๆ ยิ่งกลิ่นมีความหวานนวลแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกฝุ่นอับๆ เข้าไปอีกแต่ยังหอมอยู่นะ แค่ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้ของน้ำหอมเก่าเวลาที่ฉีดไปแล้วเฉยๆ ส่วนตัวชอบรุ่น Cologne นะมันให้กลินแรง กลิ่นคมแบบดิบๆ ไม่นุ่มเนียนมากชัดเจนดี ถึงช่วงหลังจะให้กลิ่นแบบไม้กวาดทางมะพร้าวเปียกน้ำก็เถอะให้อารมณ์น้ำหอมเก่าชัดดี

CHANEL N°22 EDT 19ml

.

แถมนิดนึงได้แอบลองรุ่น EDT ในยุคปัจจุบันมากลิ่นมันยังคงให้อารมณ์คล้ายกันมากแต่ก็แตกต่างกันพอควร ให้กลิ่นที่บางกว่ามีความสดใส กลิ่นคมๆ ของ Lily-of-the-Valley คาวหน่อยๆ อมเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นฉ่ำเนียนของ Ylang-Ylang ยังคงชัดรู้สึกได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมที่ความอมเปรี้ยวเนียนในช่วงกลางของกลิ่น พร้อมกับวนิลาแห้งๆ โทนกลิ่นเย็นแต่อบอุ่นคลอมาในช่วงท้าย  แต่รู้สึกว่ากลิ่น Aldehydes เบาลงไม่ชัดเหมือน N°5 หรือว่าชินกลิ่นแล้วก็ไม่รู้ แต่อยากบอกตอนแรกที่ฉีดลงผิวกลิ่นมันหอมสดใส ฟุ้งๆ กลิ่นเหมือนแชมพูอะไรสักอย่างมาก แต่พอให้กลิ่นระเหยไปสักพักมันทำให้กลิ่นโดยรวมสว่างสดใสมากขึ้น ในรุ่น EDT ของบุคปัจจุบันก็เลิกผลิตไปอีก มีรุ่น EDP มาแทน ยังไม่ได้หามาลองไว้มีโอกาสจะหารุ่น EDP ใหม่ล่าสุดมาลองสักครั้ง

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Vintage CHANEL Perfumes Part 3 [N°5][Vintage Collection]

.

สวัสดีบล็อก! วันนี้กลับมากับชุดน้ำหอมเก่าอีกครั้ง ยังคงวนเวียนอยู่กับ CHANEL เหมือนเดิม และก็ยังคงเป็น CHANEL N°5 กลิ่นเดิมอีกด้วย แต่พิเศษตรงที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ขวดรุ่นเก่าขนาด 28ml หรือ 30ml มา ดีใจมากเพราะไม่เคยเห็นขนาด 28ml มาลงขายในตลาดมือสองไทยมาก่อน และได้มาถึง 2 ขวดพร้อมกัน

ขวดแรกมาพร้อมกล่องที่เป็นกล่องกระดาษแข็ง ข้างในมีกระดาษลูกฟูกกันกระแทกตามสไตล์แพคเกจเก่า ฉลากด้านหน้าเปลี่ยนสีตามกาลเวลาที่ถูกเก็บในกล่องแล้วคอขวดปิดไม่สนิทก็น่าจะเป็นเหตุนี้ละ อีกขวดขนาด 28ml เหมือนกัน หน้าตาขวดสภาพดีหน่อยแต่ไม่มีกล่องมาด้วย ทั้งสองขวดใหญ่นี้น้ำหอมยังคงมีปริมาณเยอะอยู่ เลยได้โอกาศเอาขวดแรกมาเปิดลองกลิ่นแล้วเล่าลงบล็อกลองกลิ่น CHANEL N°5 เทียบกับกลิ่นปัจจุบันไปเมื่อเดือนก่อน ขวดสุดท้ายเป็นขวดเล็กขนาด 7ml ได้มารอบเดียวกันสภาพดีมาพร้อมกล่องน่าจะเป็นรุ่นที่ไม่เก่ามาก

Vintage CHANEL N°5 Parfum 28ml #1

.

Vintage CHANEL N°5 Parfum 28ml #2

.

Vintage CHANEL N°5 Parfum 7ml #7

.

เทียบขนาดของแต่ละรุ่น แต่ละขนาด 7ml, 7.5ml, 14ml, 28ml จะเห็นว่าถึงจะขนาด 28ml ขนาดก็ของขวดก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร

.

เอาขนาดรุ่นเก่า 28ml มาเทียบกับรขนาด 30ml ในรุ่นปัจจุบันดูบ้าง ขนาดขวดรุ่นปัจจุบันจะใหญ่กว่านิดหน่อยแต่ขวดจะบางกว่าขวดรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด ตัวฝาแก้ว Stopper ด้านบนบนในรุ่นใหม่ก็ทำให้ดูเพียวบางลงเหมือนฝารุ่นแรกๆ ดูลงตัวขึ้นมากขึ้นเป็นเทคนิคการทำให้ขวดใหญ่อลังการสมราคาหลักหมื่นเขาละ

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL CHANCE EDT

.

CHANEL CHANCE EDT Twist and Spray 20ml x3

CHANEL CHANCE EDT เป็นกลิ่นที่เปิดตัวปี 2003 เป็นกลิ่นแนว Chypre Floral เป็นหนึ่งในชุดกลิ่นในขวดน้ำหอมหลากสีสดใสที่เป็นคอเลคชั่นที่นิยมกันมากหลังจากเปิดตัวมา โดยชื่อ CHANCE ในภาษาฝรั่งเศษหมายถึงความโชคดี มาในขวดทรงกลมที่สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่จะพาคุณไปสู่ความรื่นรมย์และชวนฝัน เป็นกลิ่นสัมผัสแห่งการพบเจอโอกาสใหม่ๆ ที่มีโน๊ตกลิ่นของ Pink Pepper, Jasmine, Amber และ Patchouli ให้กลิ่นหอมสดชื่นซาบซ่านอันมีเสน่ห์ มอบความสุขที่รื่นรมย์

กลิ่นเปิดมาแบบสดใส กลิ่นคมๆ ที่ให้ความฝาดนิดๆ หอมเย็นแต่ก็สดชื่น ในกลิ่นเปิดนั้นรู้สึกถึงความหวานที่ให้ความฉ่ำแบบกลิ่นสับปะรดสุก เป็นกลิ่นที่หวานสุกงอม คลอไปพร้อมกับกลิ่นแบบซีตรัสอมเปรี้ยวพร้อมความหอมเย็นซ่า จาก Patchoulie กลิ่นหลังจากผ่านไปสักพักจะออกเป็นกลิ่นแนวแป้งอมหวาน ที่ให้ความรู้สึกสะอาด จนเมื่อผ่านช่วงกลางของกลิ่นไปแล้วกลิ่นจะมีความหอมมันของ Musk ผสมความครีมนวลแบบ Vanilla ที่ออกไปทางกลิ่นแห้งโปร่งๆ เป็นให้เป็นกลิ่นติดผิวดูน่าซบ

CHANCE รุ่น EDT นี้เป็นกลิ่นที่ดูสดใสวัยรุ่น ในช่วงกลิ่นเปิดที่เป็นกลิ่นแนวผลไม้ฉ่ำหวาน ให้ความเป็นผู้ใหญ่ที่มาพร้อมกับความหอมเย็น สดชื่นจาก Patchoulie คลอด้วยกลิ่นดอกไม้บางเบาที่ให้ความเย็นโปร่งใส และหอมนุ่มครีมหวานเบาๆ ในช่วงเบสของกลิ่น ให้ความหวาน โปร่งเย็น ดูสะอาด และสดชื่นเหมาะกับทุกช่วงอายุก็ว่าได้ วัยเรียนก็ดูน่ารักแบบนักกิจกรรม วัยทำงานก็ทำให้ดูเป็นคนสดใสอารมณ์ดีน่าคุยด้วย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL ALLURE HOMME SPORT COLOGNE

.

CHANEL ALLURE HOMME SPORT COLOGNE Travel Spray 20mlx3

CHANEL ALLURE HOMME SPORT COLOGNE เปิดมาในปี 2007 เป็นน้ำหอมในกลุ่ม Citrus Aromatic สำหรับผู้ชาย เป็นกลิ่นที่เพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับผู้ชายที่ชอบทำกิจกรรมเกมกีฬา บุคคลที่ต้องการความเรียบง่ายและความผ่อนคลาย  ด้วยกลิ่นที่สดชื่น ดั่งลมหายใจแห่งพลัง จาก Citrus พร้อด้วย Elemi, Cedar และ White Musk มอบความนุ่มนวลบางเบา เป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับก่อนหรือผ่อนคลายหลังการทำกิจกรรมที่คุณต้องการ

กลิ่นเปิดกลิ่นแหลมหอมแบบกลิ่นผลไม้พวกซีตรัสที่ให้กลิ่นคมๆ สดชื่นมาก กลิ่นมีความเขียวแหลม หวานจางๆ กลิ่นฉ่ำแบบอมเปรี้ยวนิดๆ จนคล้ายกลิ่นตะไคร้หอม เมื่อกลิ่นผ่านไปสักพักเริ่มลดความแหลมของกลิ่นลงมีความหวานเขียวที่ให้ความรู้สึกหอมเย็นของเปลือกมะนาว เปลือกส้มชัดๆ เริ่มลอยขึ้นมาชัดขึ้นจนรู้สึกไปถึงเนื้อผิวของผลไม้อย่างนั้นเลย หอมกลิ่นดอกส้มที่ให้ความหวานบางเบาแต่มีความสดชื่นมาก จนมาถึงกลิ่นช่วงกลางนั้นจะออกแนวกลิ่นเครื่องเทศซ่าๆ โปร่งฟุ้งไปกับกลิ่นที่หวานนุ่มนิดๆ ติดเขียวใสหน่อยๆ ให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก โดยที่กลิ่นช่วงนี้จะอยู่ให้รู้สึกไปจนจบกลิ่น

กลิ่นนั้นให้ความฟุ้งกระจายที่ดีมากๆ ด้วยกลิ่นที่ใส คมๆ ช่วงแรกนั้นปะทะหน้าแบบสะใจ จนช่วงกลางของกลิ่นที่เริ่มมีความหวานนุ่มขึ้นกลิ่นก็จะฟุ้งพอประมาณตามช่วงเวลา ถึงจะระบุว่า COLOGNE แต่ความเข้มขั้นนั้นเป็นแบบ EDT นะ ดังนั้นความทนก็มีอยู่ไม่ใช่ฉีดแล้วกลิ่นก็หายไปเลยภายในชั่วโมงเดียว กลิ่นนี้ติดอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงได้ หลังจากนั้นไม่แน่ใจเพราะกลิ่นค่อนข้างโปร่งใส บางๆ จับกลิ่นไม่ค่อยได้ แต่ก็ถือว่าโอเคนะเหมาะสำหรับใช้ไปทำกิจกรรมต่างๆ ไม่รบกวนใครดี

เป็นกลิ่นที่ให้ความสดชื่น ใส โปร่งมากๆ ด้วยกลิ่นคมๆ ของผลไม้พวกซีตรัสที่เสริมความหวาน และกลิ่นเขียวสดใส มันทำให้เป็นกลิ่นที่เหมาะกับฤดูร้อนสุดๆ กลิ่นนี้เหมาะกับการใช้เวลาไปออกกำลังกาย หรือไปเที่ยวพักผ่อนในสภาพอากาศร้อนได้ดี กลิ่นไม่มีความฉุน อบอุ่นอะไรเลย มีแค่ความใสสดชื่นเท่านั้น แต่ถ้าคนไม่อินกับกลิ่นแบบนี้ก็อาจจะว่าเป็นกลิ่นตะไคร้หอมไล่ยุง หรือสเปรย์ดับกลิ่นกลิ่นมะนาวก็ได้

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL ALLURE HOMME EDT

.

CHANEL ALLURE HOMME เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 เป็นน้ำหอมผู้ชาย แนวกลิ่น Woody ที่มีโน้ตกลิ่นของ Mandarin ที่ให้ความสดชื่น Coriander, Cedar, Tonka, Cistus, Labdanum และ Black Pepper รวมกันมอบกลิ่นที่ให้ความสดชื่น มีชีวิตชีวา พร้อมความสะอาดอ่อนโยน และเย้ายวนน่าสัมผัส ดังคำบรรยายที่ว่า “Allure เปรียบดั่งเสน่ห์แห่งบุรุษและความแข็งแกร่งจากภายใน ผสานความสดชื่นจากพันธ์ไม้ มีชีวิตชีวาเผยถึงตัวตนของบุรุษที่ได้ใช้”

กลิ่นเปิดหอมกลิ่นแบบซีตัสสดชื่นให้กลิ่นหอมแหลม ที่มีกลิ่นหอมโปร่งแบบกลิ่น Lavender ให้ความหอมโปร่งสบาย เป็นกลิ่นเปิดที่ให้ความหอมเย็นตามสไตล์น้ำหอมผู้ชายที่คุ้นเคย พร้อมกลิ่นอมเปรี้ยวน่ากินจางๆ เป็นพื้นหลังในช่วงกลิ่นเปิด เมื่อผ่านไปสักพักเริ่มมีกลิ่นแนวพวกไม้หอมโปร่งเบา ที่ให้กลิ่นเย็นแทรกเข้ามาชัดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้จะรู้สึกถึงกลิ่นวนิลาที่หอมครีมมันๆ พร้อมความหวานที่ทำให้นึกถึงกลิ่นแนว Tonka Bean ให้ความหอมมันครีมนวลๆ แต่ก็ยังคงมีความหอมซ่าแนวกลิ่นอโรม่าของไม้หอมที่ให้ความรู้สึกเย็นตลอดเวลา

กลิ่นนั้นกระจายตัวแบบกำลังดีไม่แรง หรือไม่อ่อนจนเกินไป แต่ความฟุ้งของกลิ่นชัดเจน และฟุ้งตลอดช่วงเวลาของกลิ่นเลย กลิ่นติดทนค่อนข้างดีโดยเฉพาะกลิ่นช่วงกลางที่มีความหวานครีมแบบวนิลา หอมนวลๆ ติดผิวไปตลอดวันมันดีมาก และเหมาะสำหรับอากาศร้อน อีกด้วยให้กลิ่นหอมสบาย หอมเย็นเหมือนอยู่ในทุ่งหญ้าในบ้านสวนเลย

เป็นกลิ่นหอมที่ออกเป็นกลิ่นของผู้ชายค่อนข้างชัด มีความสดชื่น กลิ่นโปร่งเย็น ให้อารมณ์อาฟเตอร์เชฟในช่วงเริ่มต้น ออกครีมแบบวนิลานุ่มๆ ติดหวานหน่อยๆ พร้อมกลิ่นแนวไม้หอมเย็นที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ฉุน เป็นกลิ่นที่มีเสน่ห์ ให้อารมณ์ผู้ชายวัยทำงาน ที่ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น บุคลิกชิลๆ สบาย ง่ายๆ ดูเท่ห์ดี โทนกลิ่นนี้ให้อารมณ์แบบ ALLURE HOMME SPORT อยู่ด้วยกลิ่นครีมมันแบบ Tonka Bean และความโปร่งสบายสดชื่นแบบกลิ่น Lavender ที่รู้สึกใน Platinum Egoiste ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่หอมดูสบายในช่วงอากาศร้อน วันหยุดสบายๆ ไม่เร่งรีบ หรือจะใช้ในวันทำงานก็เข้าท่าใช้ได้ เป็นน้ำหอมผู้ชายอีกกลิ่นที่อยากให้ลอง

CHANEL ALLURE HOMME EDT 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL N°19 EDP

.

CHANEL N°19 เป็นน้ำหอมที่มีมาตั้งแต่ปี 1970 โดยชื่อน้ำหอมนั้นเป็นเลขวันเกิดของ COCO CHANEL เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Floral Green ที่มีโน๊ตกลิ่นของ Galbanum, Iris, Ylang-Ylang, Lily-of-the-Valley, Rose ทำให้ได้กลิ่นของดอกไม้และพันธ์ไม้เขียวขจีที่ให้ความหอมอันแตกต่างอย่างลงตัว

กลิ่นเปิดมาให้ความสดชื่นแบบกลิ่นติดเขียวฉ่ำๆ ที่มีความหวานนิดหน่อย ผ่านไปสักพักความเขียวเริ่มลดลงมาเป็นกลิ่นคลอไปกับความหวานแปร่งติดขม พร้อมกลิ่นอมเปรี้ยว กลิ่นซ่าเหมือนเครื่องเทศซ้อนกันทำให้เนื้อกลิ่นดูฉ่ำมีมิติ เมื่อกลิ่นแห้งไปสักพักมีความนวลแบบแป้งหอมอบอวลฟุ้งกระจายมากในกลิ่นช่วงนี้ ในกลิ่นช่วงกลางไปแล้วที่ให้ความหอมอวลแบบแป้งหอมก็จะมีกลิ่นแนวเครื่องเทศซ่าโปร่งๆ กลิ่นแบบหญ้าแฝกหวานแปร่งที่เริ่มลอยขึ้นมาชัดให้ความรู้สึกสาบๆ แต่ก็อบอุ่นในกลิ่นมากขึ้น

กลิ่นช่วงแรกเป็นกลิ่นเขียวที่ฉ่ำ สดชื่นที่กระจายตัวดีมาก และตลอดอายุของกลิ่นที่กระจายตัวดีแบบที่ได้กลิ่นฟุ้งขึ้นมาตลอดเวลา ถึงช่วงกลางของกลิ่นจะลดความโปร่งใสลง แต่กลิ่นยังคงฉ่ำดีอยู่ทำให้กลิ่นติดทนนานมากกว่า 6 ชั่วโมง ถือว่าเป็นกลิ่นที่ติดทนใช้ได้

CHANEL N°19 เป็นน้ำหอมกลิ่นเขียว ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีความโปร่งสบาย พร้อมกับความหอมฉ่ำแบบอบอุ่น ดูภูมิฐานมีระดับ เป็นกลิ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่น่าเกรงขาม หรือน่าเคารพ เหมาะสมกับชื่อเสียงที่คู่มากับ CHANEL N°5 ดั้งนั้นแนวกลิ่นยังคงเป็นน้ำหอมกลิ่นแรงเหมือนกัน กลิ่นฉ่ำแน่นเหมือนกัน ถึงจะปรับสูตรมาเป็นรุ่นปัจจุบันแล้วกลิ่นก็ยังคงสไตล์น้ำหอมยุคเก่าอยู่ ไม่ได้ดูเบาขึ้น หรับปรับเป็นกลิ่นยุคใหม่มากขึ้นเหมือน N°5 ที่รู้จักกัน

CHANEL N°19 EDP 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL N°5 EDP + Parfum [Vintage]

.

มาถึงกลิ่นดังที่เพิ่งครบรอบ 100 ปี ไปไม่นานนี้ CHANEL N°5 กลิ่นนี้ออกมาตั้งแต่ปี 1921 ในรุ่น Parfum, EDT และ Cologne ส่วนรุ่น EDP นั้นเพิ่งจะมีมาในปี 1986 นี่เอง เป็นกลิ่นที่มีความน่าสนใจ และประวัติยาวเหยียดที่หาอ่านได้ในหลายๆ เว็บไซต์ งั้นจะไม่ขอพูดถึง โดยเป็นน้ำหอมในแนวกลิ่น Floral Aldehyde ที่โน๊ตกลิ่นหลังก็ต้องเป็น Aldehydes, Ylang-Ylang, Jasmine, May Rose, Sandalwood และ Vanilla โดยถูกสร้างสรรค์ให้เป็น “น้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่มีกลิ่นอายความหอมของผู้หญิงอย่างแท้จริง มีเอกลักษณ์ และเปี่ยมพลัง”  อย่างที่บรรยายไว้ในเว็บไซต์ของ CHANEL

กลิ่นเปิดหอมโปร่งใสออกแนวซ่าๆ โปร่งๆ ตามสไตล์กลิ่น Aldehydes ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีความหวานแน่นของกลิ่นฟุ้งมาพร้อมๆ กัน เป็นกลิ่นเปิดที่แรงพอดูพร้อมด้วยกลิ่นหอมครีมมี่ของ Ylang-Ylang ที่รู้สึกได้ชัด จากกลิ่นที่เริ่มแห้งลงจะเริ่มมีความออกไปทางกลิ่นแป้งหอม นวล ที่ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นหอมคมแนวกลิ่นของดอกมะลิยามเช้า มีความติดกลิ่นหอมแบบหวานลึกๆ ฉ่ำๆ เขียวๆ ไม่ใช่หวานแบบสดใส หรือหวานขนม เป็นความหวานแบบผู้ใหญ่ เมื่อกลิ่นผ่านมาสักพักจะรู้สึกกลิ่นวนิลาบางๆ พร้อมกลิ่นหอมโปร่งซ่าแบบไม้หอมแห้งๆ ที่ให้ความรู้สึกแบบแป้งหอมฟุ้งๆ นวลๆ ไปจนจบกลิ่น

สำหรับกลิ่นในรุ่นเก่าเลือกขวดขนาด 28ml ที่เพิ่งได้มาไม่นานนี้มาลองกลิ่น ให้กลิ่นที่อยู่ในโทนเดียวกันเพียงแต่ช่วงกลิ่นเปิดนั้นกลิ่น Aldehydes ไม่แรงอย่างรุ่น EDP และออกไปทางหอมนุ่ม ครีมมี่มากๆ กลิ่นมีความหวานฉ่ำแบบชัดเจน เนื้อกลิ่นนุ่มหวานเนียนเหมือนปาดเนย มีกลิ่นเหมือนควันบางๆ อวลอยู่ในกลิ่นทำให้กลิ่นดูมีมิติกว่า โดยที่กลิ่นในช่วงกลางๆ จะเป็นกลิ่นแป้งหอมนวลฟุ้งๆ อวลๆ ที่มีความหอมฉ่ำของความหวานแบบกลิ่น Ylang-Ylang  และ Jasmine ที่รู้สึกได้ชัดมากๆ โดยพื้นหลังของกลิ่นมีความคาวนิดหน่อยแบบมีเสน่ห์ โดยกลิ่นช่วงนี้จะคล้ายกับรุ่น EDP ปัจจุบันแค่กลิ่นมันนุ่มละมุนกว่ามากๆ กลายเป็นว่ากลิ่น EDP ปัจจุบันเป็นกลิ่นที่ออกจะคม แห้งๆ ไปซะงั้น

กลิ่นทั้งสองนั้นช่วงแรกฟุ้งกระจายดีมากๆ มากจนกลัวคนอื่นจะฉุน แต่ก็โอเคอยู่ถ้าช่วงฉีดใหม่ๆ ไม่ไปเข้าใกล้ใครมาก แต่กลิ่นของรุ่น Parfum จะลดระดับมาลอยรอบๆ ตัวเราซะมากกว่าเพราะคิดว่าตามจุดประสงค์แล้วน่าจะเน้นที่ใช้เป็นกลิ่นติดตัวที่มีอายุยาวนานตามสไตล์ ส่วนความทนนั้นสามารถอยู่ได้เกือบทั้งวันสบายๆ หากสเปรย์จำหนวนที่เหมาะสม สเปรย์ถูกที่ที่เหมาะกับตัวเรา

ลองทั้ง 2 รุ่น ที่มีอายุต่างกัน 2 ช่วงเวลาแล้วโดยรวมยังคงเป็นกลิ่นเดียวกัน ต่างกันนิดๆ หน่อยๆ ตามความรู้สึกส่วนตัว และประสบการณ์เท่าที่มี แต่กลิ่นนี้ยังคงเป็นน้ำหอมกลิ่นที่แรง เข้าขั้นกลิ่นฉุนได้เลย ยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำหอม หรือคนในยุคใหม่นี้ ก็อาจจะคิดว่ากลิ่นนี้มันเป็นกลิ่นคุณแม่ กลิ่นคนแก่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคุณแม่ที่สวย มากประสบการณ์ รู้จักเลือก มีระดับ มีชั้นเชิงนะ ไม่ใช่กลิ่นผู้ใหญ่ธรรมดาแน่นอน ไม่แปลกใจที่กลิ่นนี้จะสร้างความแตกต่าง ที่มีความสดใหม่ และเป็นที่นิยมในยุคในั้นจนถึงปัจจุบัน

CHANEL N°5 EDP 50ml

.

CHANEL N°5 Parfum 28ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL FACTORY 5 + ลองสั่งซื้อผ่าน CHANEL e-Shop TH

วันนี้จะมาแกะกล่อง CHANEL N°5 FACTORY 5 COLLECTION เป็นคอเลคชั่นฉลองครบรอบ 100 ปี ของ CHANEL N°5 ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1921 จริงๆ ครบรอบ 100 ปี ไปแล้วเมื่อต้นพฤษภาคมโน่นแหละ แต่กิจกรรมเพิ่งจะเริ่มขึ้นต้นเดือนกรกฎาคมนี่เอง โดยจัดเป็นกิจกรรมที่จำกัดเวลาการจำหน่ายสินค้าในคอเลคชั่น FACTORY 5 ด้วย รู้สึกว่าประมาณ 4 รึ 8 อาทิตย์นี่แหละ เป็นเหตุผลทางการตลาดอ่ะนะ

.

FACTORY 5 COLLECTION มีแรงบันดาลใจจากของใช้ในชีวิตประจำวันที่นำเอา N°5 เข้าไปรวมอยู่ในนั้นเช่น โลชั่น สบู่ ออยล์ทาผิว อะไรแบบนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ CHANEL มีขายอยู่แล้ว (และบางตัวก็เลิกขายไปสักพักเลยได้โอกาสกลับมาขายใหม่) ในกลิ่นของ N°5 แต่มีการเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่ให้ดูเป็นวัสดุโรงงานมากขึ้น อย่างขวดน้ำมันหล่อลื่น ถังสี กระป๋องสังกะสี ถุงเติม กระป๋องชา ขวดผลิตภัณฑ์ในครัว อะไรแบบนั้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่ามัน FACTORY อย่างไร มาทำให้มันดูเป็นวัตถุดิบที่ยังไม่แปรรูปหน่ะเหรอ คงใช่ละมั้ง ด้วยการเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่ที่ดูเรียบง่ายด้วยสี ขาว-ดำ จากขวดเดิมที่เป็นแก้ว กลับไปเป็นพลาสติก หรืออลูมินัมแล้วปรับราคานิดหน่อย ขายเวลาจำกัดมันก็เชิญชวนซื้ออยู่นะ ถ้าดูดีๆ แล้วราคาต่อปริมาณที่ได้ในผลิตภัณฑ์ของคอเลคชั่นนี้ถือว่าคอนข้างแพงพอดู เทียบกับแพ็คเกจปกติที่มีจำหน่ายอยู่ เว้นแต่บางอย่างที่ยังคงจำหน่ายราคาเดิมแต่เปลี่ยนแพ็คเกจเฉยๆ ดังนั้นใครที่จะซื้อไปใช้งานอาจจะดูไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เหมาะกับนักสะสมซะมากกว่า

.

มีอย่างนึงที่พอทำเป็นคอเลคชั่น FACTORY 5 แล้ว ก็นำแพคเกจเดิมออกจากเว็บทันทีเลยนั่นก็คือ N°5 L’EAU EAU DE TOILETTE PURSE SPRAY ขนาด 7ml ที่ปกติจะมาแบบยกชุด ปลอกน้ำหอมและหลอดรีฟิว 3 หลอด ราคา 3,600 บาท นำกลับมาแยกขายเป็น ปลอกน้ำหอม+น้ำหอม 7ml ในแพ็คเกจแผงกระดาษเหมือนของเล่นในราคา 2,000 บาท ส่วนหลอดรีฟิวแยกขาย 3 หลอด ในแพ็คเกจแผงกระดาษที่ราคาเดิม 3,200 บาท แต่ไม่ให้หัวสเปรย์อันใหม่มาพร้อมเหมือนแพ็คเกจเก่า ยังดีที่ยังสามารถซื้อหลอดรีฟิวแบบมีหัวสเปรย์ใหม่ ขนาด 7ml x3 นี้ได้อยู่

.

โดยตัวบล็อกเลือกมา 2 ชิ้นในคอเลคชั่น FACTORY 5 นั้นคือ N°5 EAU DE PARFUM SPRAY ในแพ็คเกจแบบแผงกระดาษแข็ง ที่ทำจากเยื่อกระดาษที่ย่อยสลายได้ สีขาวขึ้นรูปร่างเป็นขวดน้ำหอม แบบแพคเกจกันกระแทกแบบในกล่องสินค้าทั่วไป ก็แน่ละทำไมจะไม่เลือกเอาน้ำหอม N°5 จากคอเลคชั่นครบรอบ 100 ปี ของน้ำหอม N°5 ละ ถึงจะมี N°5 อยู่แล้วแต่ก็ชอบแพ็คเกจมัน มันเรียบสวยดีเป็นสามมิติ ไหนๆ ก็สะสม N°5 อยู่แล้วก็น่าจะเก็บรุ่นครบรอบ 100 ปี สักชิ้น

.

อีกชิ้นที่เลือกมาก็ N°5 THE BATH TABLETS เม็ดฟู่ละลายสำหรับแช่อาบน้ำ ที่เพิ่งเคยเห็นในกลิ่น N°5 มาในแพ็คเกจกระป๋องใบชา หรือกระป๋องสังกะสี (มั้ง) มีคลิปเปิดปิดเหมือนขวดสุญญากาศ ด้านในเป็นเเม็ดฟู่สำหรับใส่อ่างอาบน้ำที่เป็นกลิ่น N°5 จำนวน 10 ชิ้น ตอนแรกเลือกระหว่าง N°5 THE BATH TABLETS กับ N°5 THE SHOWER GEL ที่เป็นแพ็คเกจกระป๋องสี ที่ดูแล้วน่าเอามาสะสมมากสุดด้วยตัววัสดุที่สามารถเก็บไว้ได้หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ด้านในหมดแล้ว พูดง่ายๆ ดูแปลกใหม่ และดูมีประโยชน์ สุดท้ายก็เลือก  N°5 THE BATH TABLETS นี่แหละ และน่าจะเป็นตัวเลือกที่ถูกใจด้วยเพราะตัวถังสีของ Shower Gel นั้นเป็นแค่กระดาษแข็งธรรมดา ถูกน้ำหรือความชื้นมากก็คงไม่สวยเท่าไหร่

.

โดยการที่จะซื้อคอลเลคชั่น FACTORY 5 สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดนั้นมีทางเดียวที่จะได้ก็ต้องสั่งซื้อ Online แต่มันก็ไม่ง่ายแบบนั้นเพราะ CHANEL ไทยยังไม่มีเว็บขาย Online ของตัวเอง ก็เลยทักไปถาม SA CHANEL ที่เคาน์เตอร์ประจำทาง SA บอกว่าตอนนี้ต้องสั่งผ่าน Line ของ CHANEL Beauty เท่านั้น แล้วก็แนะนำให้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ตัวบล็อกก็ลองทั้ง 2 ช่องทาง ทางไลน์ก็ทิ้งข้อความสอบถามไว้ ทางโทรศัพท์ก็ทิ้งข้อความเสียงไว้ แต่ก็มีแค่ทาง Line ที่ตอบกลับมาถึงจะใช้เวลานานหลายชั่วโมงไปหน่อย เป็นการส่งข้อความสั่งซื้อกลับไปมา ใช้เวลาไปประมาณครึ่งวันถึงจะได้ฟอร์มจ่ายเงิน เป็นการสั่งซื้อที่นานมากจริงๆ

มันตลกตรงที่วันต่อมาทาง CHANEL ส่ง SMS มาแจ้งประชาสัมพันธ์ว่าสามารถเข้าชมเลือกซื้อคอลเลคชั่น FACTORY 5 ได้แล้วทาง CHANEL e-Shop TH หน้าเว็บไซต์ Online จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ CHANEL ทำไมไม่บอกแต่แรกนะ เราก็กลัวแพ็คเกจใหม่หมดเห็น SA บอกว่าหมดไปแล้วรอบนึงจะมีสินค้าเข้ามาอีกวันถัดมาให้รีบติดต่อไปสั่งซื้อ เข้าไปในเว็บ e-Shop สินค้าก็มีพร้อมสั่งทุกชนิดนะ แต่ก็ได้สมัครบัญชี และสั่งซื้อ  N°5 THE BATH TABLETS ที่ลังเลในครั้งแรกไป 1 ชิ้น ลองดูก่อนว่าระบบสั่ง Online จะเป็นยังไง จะดีน่าประทับใจเหมือน Dior ไหม

.

วันที่สินค้าที่สั่งจาก Line CHANEL Beauty มาถึง ใช้เวลา ประมาณ 3 วัน นานหน่อยเพราะติดวันหยุด ส่งผ่านบริษัทขนส่ง TNT บริษัทขนส่งที่เคยได้ยินชื่นสมัยก่อนไม่คิดว่ายังมีอยู่ พัสดุส่งมาถึงในกล่องกระดาษสีน้ำตาลปกติทั่วๆ ไปเลย ไม่มีกล่องเฉพาะเหมือน Dior

.

เปิดมาก็เจอ ใบเสร็จการสั่งซื้อวางอยู่ชัดๆ ไม่มีซองอะไร มีถุงกระดาษในคอลเล็คชั่น FACTORY 5 มาให้ 1 ถุง มีพลาสติกกันกระแทกห่อถุงของขวัญมาให้ด้วย ดูพิลึกดี จริงๆ ก็ดูพิลึกตั้งแต่กล่องพัสดุแล้ว ถุงของขวัญเป็นกระดาษแข็งผูกริบบิ้นสีดำแบบที่ดูแปลกดี พอกางถุงออกมันก็จะแบนเป็นแผ่นกระดาษแผ่นเดียวเก็บง่ายดี

.

เปิดถุงออกก็เจอ แพ็คเกจน้ำหอมที่สั่งไป พร้อมกับแซมเปิ้ล N°5 1 ชิ้นถ้วน และแผ่นพับลายละเอียดสินค้าเป็นภาษาไทย 1 ฉบับ ก้นถุงมีกระดาษกันกระแทกสีขาว จบแค่นั้น น่าแปลกที่ไม่ใส่กล่องอย่างที่เคยเห็นกันมา และมีแซมเปิ้ลชิ้นเดียวอ่ะนะ แกะพัสดุเสร็จก็ทำให้รู้สึกรักการซื้อผ่าน Dior Online มากขึ้นเยอะเลย

ตัวน้ำหอมนั้นเป็นขวดแบบปกติทั่วไป โดยในคอลเล็คชั่นนี้จะเปลี่ยนแพ็คเกจจากกล่องเป็นแผงกระดาษรูปร่างขวดน้ำหอมเท่านั้น เป็นกระดาษแข็งขึ้นรูปผิวเนียนมาก ลูบไปไม่สะดุด เปิดกางออกมาได้สุดขวดน้ำหอมจะอยู่ในรอยขึ้นรูปของกระดาษแบบพอดี จะว่าไปก็เหมือนแผงกระดาษใส่ไข่ไก่เหมือนกัน

CHANEL FACTORY 5 N°5 EAU DE PARFUM SPRAY 100ml

.

.

มาถึงอีกชิ้น ชิ้นนี้สั่งจากเว็บ th-eshop.chanel.com ซึ่งเป็นเว็บจำหน่ายสินค้าแบบ Online ของ CHANEL ในไทย สินค้าในเว็บมีพอสมควร แต่ไม่มีทุกชิ้นเหมือนตามเคาน์เตอร์ปกติ และก็จำหน่าย FACTORY 5 Collection ด้วย เปิดจำหน่ายวันแรกวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เลยถือโอกาสสมัครและกดสั่ง N°5 THE BATH TABLETS ที่ลังเลตอนแรกไป 1 ชิ้น รอจัดส่งสักพักด้วยเพราะติดเสาร์อาทิตย์ เตรียมสินค้าประมาณ 2 วัน ในที่สุดก็ส่งมาถึงโดยขนส่ง DHL ในกล่องกระดาษสีน้ำตาลธรรมดาขนาดใหญ่ แอบลุ้นว่าต้องมาเป็นกล่องของขวัญแน่ เปิดออกมาก็ถูกต้องเป็นกล่องของขวัญกล่องขนาดกลางตามแบบมาตรฐาน พร้อมกับถุงกระดาษ FACTORY 5 ซองใบเสร็จสีดำอย่างที่ควรจะเป็น 

.

กล่องของขวัญเป็นแบบกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกลาง เปิดฝาออกก็เจอกระดาษทิชชูชาแนลกันกระแทกปิดด้วยสติ๊กเกอร์สีดำ ด้านในก็เป็นกระดาษพับกันกระแทกบุอย่างหนารอบกล่องใบชา N°5 THE BATH TABLETS มีถุงผ้าสีดำเล็กๆ ใส่แซมเปิ้ล 1 ชิ้น เป็นแซมเปิ้ลน้ำหอม N°5 L’EAU ขนาด 1.5ml ที่มาในแพ็คเกจของ FACTORY 5 ด้วย

.

พอได้เห็นของจริงกระป๋องใบช้านั้นทำจากโลหะทำสีแบบด้าน มีคลิบลวดสีดำเงาสำหรับล็อกฝากระป๋อง แค่เปิดฝาเท่านั้นกลิ่นหอมก็ฟุ้งออกมารุนแรง นี่ขนาดยังไม่ได้แกะห่อพลาสติกนะ แต่กลิ่นจะออกไปทาง N°5 L’EAU มากกว่าที่ออกแนวสดชื่นกว่า ไม่แรงเท่า N°5 ปกติ ตัวเม็ดฟู่ละลายน้ำนั้นอยู่แพ็คเกจพลสติกแยกเป็นชิ้นๆ 10 ชิ้น สะดวกต่อการใช้งาน และพกพา ตัวบล็อกไม่มีอ่างอาบน้ำคงเก็บเอาไว้ใช้ตอนไปเที่ยวเวลาพักโรงแรมที่มีอ่างอาบน้ำ แต่จะได้ใช้ก็คงอีกนานเลยละสถานการณ์โควิดช่วงนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่

CHANEL FACTORY 5 N°5 THE BATH TABLETS 10x17g

.

ถือว่าเป็นการลองสั่งจากเว็บออนไลน์ครั้งแรกจาก CHANEL และสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างที่คิด ที่คิดไว้ก็คงเทียบกับเว็บออนไลน์ของ Dior ที่สั่งซื้อบ่อยมาก ทำให้พอจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง แต่มีข้อสังเกตที่ตอนนี้ทางของ CHANEL สั่งซื้อกี่บาทก็ตามก็ยังคงมีแซมเปิ้ลแถมแค่ 1 ชิ้น ไม่ได้มีให้เลือก หรือเพิ่มขึ้นตามยอดที่สั่งซื้อ และก็ไม่มีของพรีเมี่ยมเสริมด้วยนะ จากเท่าที่ลองกดดูเล่นๆ  ดังนั้น Dior ยังเป็นอันดับต้นๆ ที่แจกของแบบจริงจังกว่ายี่ห้ออื่นถ้าเป็นการซื้อผ่านทาง Online

คราวหน้าถ้านึกจะกดชิ้นไหนมาอีกก่อนหมดเวลาคอลเลคชั่น FACTORY 5 จะมาเขียนเล่าอีกที


Update: 20 / 07 / 2021

.

มาต่ออีกครั้งกับการสั่งซื้อผ่านทาง eshop ครั้งนี้บังเอิญ หรือโชคดีไม่รู้เจอ N°5 L’EAU THE MYSTERY BOX รีสต๊อกกลับเข้ามาก็เลยกดไป 1 ชิ้น จ่ายเงินเรียบร้อยปุีบหมดสต๊อกปั๊บ คงถือว่าโชคดีละมั้งนะ โดยที่ก่อนหน้านี้ได้กด N°5 THE BODY LOTION ไปก่อนแล้วด้วยความที่ตัวหลอดครีมนั้นดูมีความสอดคล้องกับประวัติของ CHANEL ในอดีตอยู่บ้าง เลยเลือกตัว Lotion มา เพราะคิดว่าน่าจะเอามาเก็บ และแบ่งใช้ได้บ้างสักหลอด เลยดูเหมือนสั่งมาหลายครั้ง แซมเปิ้ลเลยได้แค่น้ำหอม 1.5ml ออเดอร์ละชิ้น คิดว่าถ้าสั่งรวมๆ กันน่าจะได้กระเป๋าตาข่าย N°5 สีขาวอย่างที่เห็นกันในอินเตอร์เน็ตบ้างละมั้ง เหมือนเห็นบาคนโพสอยู่ว่าได้กระเป๋ามาแล้วก็เอามาปล่อยต่อด้วยราคาที่แพงมากๆ ไม่ใช่แค่กระเป๋านะที่ปล่อยต่อ สินค้าในชุด Factory 5 ก็เอามาปล่อยต่อราคาเพิ่มขึ้นอีก 2-3 พันเลย แพงมากเลย

CHANEL FACTORY 5 N°5 L’EAU THE MYSTERY BOX

.

ตัว Myster Box มาในกล่องแยกสีขาว พร้อมถุงของขวัญใส่น้ำหอมแซมเปิ้ลในถุงผ้า เหมือนกับออเดอร์ก่อนหน้า

.

แกะออกมาก็จะมีตัวครีมทามือรูปไข่ 1 ชิ้น ตะไบเล็บที่ทำจากกระจก 1 ชิ้น ผ้าขนหนูอัดก้อน 1 ชิ้น ถุงผ้าหูรูดสีขาวอย่างดี 1 ชิ้น ชุดนี้ใครๆ ก็ว่าคุ้มค่าเพราะตัวครีมทามือก็ราคา 2,000 กว่าบาทแล้ว เกินมาอีกนิดหน่อยได้ตะไบ กับผ้าขนหนู เขาว่าคุ้ม ก็คุ้มละมั้งอันนี้แล้วแต่ความเห็นของแต่ละคน ส่วนตัวคิดว่ามันก็แพงอยู่ดี

CHANEL FACTORY 5 N°5 THE BODY LOTION 20×5

.

ชิ้นต่อมาเป็นตัว Lotion หลอดเล็ก มาในกล่องกระดาษแข็งคุณภาพดี ที่ด้านในมีหลอดบีบโลหะแยกหลอด 5 หลอด รูปร่างดูเรียบง่ายด้วยสีขาว ตัดเส้นและตัวหนังสือสีดำ อย่างที่บอกเลือกโลชั่นแบบหลอดขนาดเล็กมาเพราะมันมีความเป็น Vintage CHANEL ที่ในยุคก่อน CHANEL ได้เคยทำครีมแบบหลอดออกมาจำหนายในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ จริงๆ น่าจะเป็นหลอด Body Cream หลอดใหญ่ที่จะดูใกล้เคียงมากที่สุด แต่คิดว่าถ้าเอามาคงไม่กล้าใช้ เพราะเป็นหลอดเดี่ยวๆ เก็บไปก็คงบุบและไม่กล้าใช้งาน เลยเลือกเอาแบบหลอดเล็กที่เป็น Lotion เอามาเป็นรุ่นเสมือนขนาดมินิ ที่สามารถแบ่งมาใช้งานจริงได้ด้วยสักหลอดสองหลอด ที่เหลือก็เก็บสะสมไว้

.

โดยกลิ่นยังคงไปทางแนวกลิ่นของ N°5 L’EAU เนื้อครีมที่เหลวไปหน่อยสำหรับในหลอดบีบแบบนี้ แค่กดก็ทะลักออกมาจากหลอดแล้ว แต่ก็ทำให้ทาไปบนผิวนั้นง่าย ซึมเร็วหอมนานชอบมาก

CHANEL FACTORY 5 COLLECTION

Perfume Blog: CHANEL Pour Monsieur EDT

.

CHANEL Pour Monsieur เปิดตัวเมื่อปี 1955 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Chypre หรือแนวกลิ่นเขียวอันเป็นที่นิยมในยุคนั้น เป็นน้ำหอมที่มอบความรู้สึกสง่างาม สุขุมล้ำลึก ราวกับผ้าสักหลาดสีเทาที่ห่อหุ้มขวด โดยเป็นน้ำหอมผู้ชายเพียงกลิ่นเดียวที่สร้างขึ้นในช่วงที่ COCO CHANEL ยังมีชีวิตอยู่ โดยได้แรงบรรดาลใจจากชายอันเป็นที่รัก ที่นำโดยกลิ่น Sicilian Lemon และ Tunisian Neroli ให้ความหอมสดชื่นแนวซีตรัส และความนุ่มลึกจากพันธ์ไม้หอม เรื่องราวของชายอันเป็นที่รักนั้นในเว็บไซต์ของ CHANEL บรรยายไว้ด้านล่างนี้

แรงบันดาลใจ – น้ำหอมกลิ่นแรกเพื่อสุภาพบุรุษ, กาเบรียล ชาเนล ได้รับแรงบันดาลใจจากชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก บอย คาเพล, แกรนด์ดยุคดมิทรี พัฟโลวิช และ ดยุคแห่งเวสต์มินสเตอร์ เรื่องราวความรักอันตราตรึงใจทั้ง 3 ครั้ง 3 บุรุษผู้มีความเป็นธรรมชาติ สง่างาม ไร้ซึ่งมายา ที่บ่มเพาะความทรนงในศักดิ์ศรีตน ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความจริงใจและจิตวิญญาณอย่างเต็มเปี่ยม – POUR MONSIEUR สื่อผสานความเรียบง่ายอย่างลุ่มลึก ความโก้เก๋ในแบบฉบับหนุ่มอังกฤษ ชายผู้มีรูปลักษณ์อันน่าหลงใหลและเสน่ห์อันสง่างามสูงส่ง ภาพลักษณ์ของบุรุษผู้อยู่เหนือกาลเวลา

กลิ่นเปิดมาแบบกลิ่นมะนาว มะกรูด พวกซีตรัสคมๆ หอมอมเปรี้ยวใส สดชื่นมาก มีกลิ่นอุ่นๆ คล้ายกลิ่นตะไคร้หอมคลอมาในกลิ่นคมๆ ของมะนาว สักพักกลิ่นจะเริ่มเข้มขึ้นเป็นกลิ่นหอมเข้มแบบกลิ่นเครื่องเทศ ไม้หอมอะไรสักอย่าง กลัวกลิ่นเขียวนุ่มทึบเหมือนตะไคร่น้ำชื้นๆ พร้อมความหวานเลอะๆ แบบหญ้าแฝกกลิ่นคลาสสิคเลยทีเดียว อารมณ์แบบกลิ่นบ๊วยเค็มที่เปียกน้ำ มันให้ความหอมเย็นสุขุม ติดเขียวนิดๆ รู้สึกสะอาด เบา สบาย สดชื่นดีมากๆ

เป็นกลิ่นแนวซีตรัสที่ให้อารมณ์คลาสสิค ซึ่งก็หมายความว่ากลิ่นมันค่อนข้างเป็นน้ำหอมยุคเก่าที่ให้กลิ่นแนวสมุนไพร อโรม่าชัด กลิ่นคม มีความเขียวออกเข้ม แต่สดชื่น นึกถึงไปร้านตัดผมสมัยเด็กเลยเวลาได้กลิ่นแบบนี้ เพราะกลิ่นมันให้อารม์อาฟเตอร์เชฟ กลิ่นสบู่ หรือครีมโกนหนวด ใช่แล้วกลิ่นมันให้ความรู้สึกสะอาด สบาย ชิลๆ มองไปเห็นตัวเองในเสื้อกล้ามสีขาวตัวหลวม กางเกงนอนขายาวตัวโปร่งนั่งเก้าอี้หน้าระเบียง อ่านหนังสือพิมพ์ กับกาแฟยามเช้าแบบนั้นเลย ที่เริ่มมีแสงแดดใสๆ ส่องมาโดนรำไร รู้สึกดีมาก

กลิ่นช่วงแรกกระจายตัวดีนะแต่ก็จางเร็ว คงเป็นเพราะกลิ่นค่อนข้างใส แต่กลิ่นช่วงกลางไปแล้วกลินนนวลๆ นุ่มติดผิวเป็นกลิ่นที่กระจายตัวไม่มาก กลิ่นอยู่ได้ 3 – 4 ชั่วโมงที่รู้สึกได้ชัด หลังจากนั้นก็ต้องตั้งใจดมจริงๆ ถึงจะได้กลิ่นบนผิว

เป็นนน้ำหอมผู้ชายที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงตั้งแต่อดีต และยังคงผลิตมาจนถึงปัจจุบันอีกกลิ่นที่ยังหามาลองกลิ่นได้ ส่วนตัวคิดว่ามันหอมคลาสสิค หอมเหมือนความหลังในวัยเด็กเลยทำให้กลิ่นนี้พิเศษขึ้นอีกเยอะ

CHANEL Pour Monsieur EDT 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#PerfumeFriday

Perfume Blog: CHANEL ALLURE EDT

.

ALLURE EDT เปิดตัวเมื่อปี 1996 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นดอกไม้ที่แสดงออกถึงผู้หญิงที่หวาน สง่างาม ประกอบด้วยดอกไม้ 6 ชนิด สะท้อน 6 มุมมอง แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของผู้หญิงแต่ละคนที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

กลิ่นเริ่มมาเป็นกลิ่นแนวดอกไม้นวล ตุ่นๆ ไม่ใส่ กลิ่นทุ้มนุ่ม เป็นกลิ่นดอกไม้ที่มีความครีมมี่ หอมมัน แต่ก็รู้สึกเหนียว เหนอะๆ ไปในเวลาเดียวกัน ช่วงแรกมีความหอมวนิลาโปร่ง แห้งฟุ้งขึ้นมาในกลิ่นชัดเจนเลยทีเดียว เมื่อผ่านไปสักพักความหวานเริ่มจับตัวรวมกันในกลิ่นทำให้มันเริ่มฉ่ำแน่นขึ้น กลิ่นหอมดอกไม้ หวานนวลเริ่มชัดขึ้น ชัดจนเริ่มรู้สึกแสบจมูก ในความฉ่ำนั้นมีความเปรี้ยวนิดๆ อยู่ลึกๆ ในกลิ่นให้รู้สึกที่น่าจะเป็นกลิ่นดอกกุหลาบทึบๆ แต่กลิ่นยังคงมีกลิ่นวนิลาแห้ง แบบแป้งๆ ฟุ้งอบอวลอยู่ไม่ได้หายไปไหน ทำให้คราวนี้มีทั้งหวานแบบเกือบจะแสบจมูก และหอมมันของวนิลาแบบแป้งฝุ่นตลบอบอวล

เป็นกลิ่นที่ไม่เหมือนกับอะไรที่พอจะนึกออก แค่บอกได้แค่ว่ามันคือน้ำหอม น้ำหอมที่ให้ความรู้สึกว่ากลิ่นนี้เป็นนน้ำหอมจริงๆ อ่ะนะ หรือเพราะยังไม่เคยไปเจออะไรที่จะพอเอามาเทียบกลิ่น ว่ากลิ่น ALLURE มันเหมือนกับอะไร

กลิ่นช่วงแรกอาจจะไม่ฟุ้งเท่าไหร่ พอปล่อยสักพักกลับฟุ้งตลบอบอวล แต่ก็แอบทำเอาแสบจมูกอยู่บ้าง กลิ่นฝุ่นๆ หอมๆ แบบนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำหอมที่กลิ่นชัดเจนดี ที่ให้รู้ว่ามีวนิลา กับกลิ่นดอกไม้ที่ระบุไม่ได้ว่าดอกอะไร ซึ่ง ALLURE นี้ก็เป็นแค่รุ่น EDT ที่กลิ่นมันแรงทนดีใช้ได้เลย

CHANEL ALLURE EDT 50ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#PerfumesFriday

Perfume Blog: CHANEL Twist and Spray น้ำหอมขนาดพกพา

วันนี้จะมาเล่าต่อจากครั้งก่อนที่แวะไปเอาแซมเปิ้ลน้ำหอมใหม่ของ CHANEL (Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfum) ด้วยเหตุนี้มันเลยกลายเป็นต้นเหตุของการไปได้น้ำหอมขวดเล็กสำหรับพกพาหรือที่ทาง CHANEL เรียกว่า “Twist and Spray” กับของอีกนิดๆ หน่อยๆ มาในครั้งนี้

.

จากแค่ตอนแรกกะจะไปเอาแค่ของฟรีมาลองกลิ่น กลับได้น้ำหอมขวดพกพากลับมาซะหลายกลิ่นแต่ก็เพราะดันไปเห็นขวดพกพาของ ALLURE Homme 3 กลิ่นวางเรียงกันอยู่รู้สึกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน เคยเห็นแต่ขวดพกพาของ Bleu De Chanel แค่กลิ่นเดียว ที่ขวดสเปรย์มาในรูปทรงเดียวกัน คือ ทรงกระบอกกลม บิดตรงกลางเพื่อเลื่อนหัวสเปรย์ขึ้นเหมือนกัน แต่ของ ALLURE Homme สีมันโดนใจตรงรุ่นกลิ่น ALLURE Homme Sport Cologne ที่เป็นสีโครมเงินวาววับนี่ละ และก็ยังไม่เคยลองกลิ่นนี้เหมือนกันเลยทำให้อยากเอามาด้วย

.

ส่วนตัวแล้วตัวบล็อกก็แอบสะสมน้ำหอมที่ออกแบบมาสำหรับพกพาแบบนี้อยู่ด้วย มีเก็บหลายกลิ่น หลายยี่ห้อบ้างแล้ว เพราะขวดพกพาแบบนี้แต่ละยี่ห้อก็จะออกแบบมาให้พิเศษกว่าปกติหน่อยๆ ทำให้มันดูน่าสะสมขึ้นมาทันที ทำให้ในครั้งนี้ถือโอกาสเก็บรุ่นพกพา Twist and Spay มาหลายกลิ่น กลิ่นที่เอามาครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นกลิ่นที่หลายคนคงเคยอ่านลองกลิ่นในบล็อกมากันบ้างก็คงไม่เล่าเรื่องกลิ่นอีก ส่วนกลิ่นไหนยังไม่เคยลองกลิ่นลงบล็อกก็จะทยอยเล่าลงบล็อกไปเรื่อยๆ

มาว่ากันที่ตัวน้ำหอมขนาดพกพา Twist and Spray ของ CHANEL ที่เห็นหลักๆ จะเป็นขนาด ขวดรีฟิล 20ml 3 ขวด พร้อมปลอกหมุน 1 ชิ้น ใน 1 กล่อง ตัวปลอกหมุนจะเป็นปลอกโลหะทำสี เคลือบเงา หรือ เคลืบด้าน แล้วแต่กลิ่น ด้านในเป็นโครงพลาสติกสำหรับหมุนขวดสเปรย์ขึ้นลง

.

และขนาดใหม่เรียกว่า Mini Twist and Spray ขนาดขวดรีฟิล 7ml 3 ขวด พร้อมปลอกหมุน 1 ชิ้น ใน 1 กล่อง ตัวปลอกหมุนจะมีขนาดเล็กลงมาก แต่ปลอกยังคงเป็นโลหะทำสี ด้านในเป็นโครงพลาสติกเหมือนเดิม กลิ่นที่ทำมาในขนาด Mini นั้นเท่าที่เห็นจะมี COCO Mademoiselle EDP, N°5 EDP, N°5 l’eau EDT กลิ่นอื่นๆ ยังคงเห็นมีแต่ขนาดใหญ่ 20ml

ด้านราคาขนาด Mini 7ml จะห่างจากขนาด 20ml ประมาณ 1800 บาท ดูแล้วเหมือนจะไม่มากแต่เมื่อมองจากราคาสุทธิแล้วขนาด Mini นี้ดูน่าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า ถึงแม้ว่าคิดกันจริงๆ ชุดขนาด 20ml ที่เพิ่มเงินขึ้นอีกนิดจะดูคุ้มค่ากว่าด้วยซ้ำไป

.

และครั้งนี้ก็ได้น้ำหอมกลิ่นใหม่ๆ เอาไว้มาลองกลิ่นลงบล็อกด้วย กลิ่นแรก Pour Monsieur EDT 100ml เป็นกลิ่นในตำนานน้ำหอมผู้ชายที่มีชื่อเสียงกลิ่นนึงเคยได้ยินมาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เคยลองกลิ่น อีกกลิ่นคือ ALLURE HOMME EDT 100ml กลิ่นนี้อยากลองเพราะเหมือนจะเป็นเป็นกลิ่นแนววนิลาแนวผู้ชาย มันจะเหมือนกับเวอร์ชั่นของผู้หญิงไหมเลยเอามาลองกลิ่นด้วยอีกขวด

.

อย่างต่อมาเป็นของที่คิดว่าไม่น่าจะเอามาได้ แต่ก็ได้มาแล้ว มันคือ N°5 l’eau ON HAND CREAM ขนาด 50ml และ ALLURE TENDER HAIR MIST ขนาด 35ml

.

N°5 l’eau ON HAND CREAM ขนาด 50ml เป็นครีมทามือกลิ่น N°5 l’eau กลิ่นสดใส่ โปร่งเบาสบายอีกมุมของ N°5 ที่ดูจากรูปทรงแล้วเหมือนเป็นของที่ไม่น่าใช้งานเท่าไหร่ รูปทรงรี กลมๆ ไข่ๆ แต่พอลองบีบครีมมาลองทาดูเท่านั้นแหละ อยากใช้ขึ้นมาทันที เป็นความคิดจากคนที่มือแห้งเป็นขุยบ่อยๆ ลองใช้ เนื้อครีมเบาไม่เหลว ทาแล้วรู้สึกมือชี้นขึ้น ถึงแม้จะทิ้งความมันไว้ที่มือแต่ถูไปถูมาสักพักก็จะหายไป ตามด้วยกลิ่นหอมของ N°5 l’eau ที่อยากเอามือป้องจมูกแล้วดมตลอดไป คือมันก็ดีแหละ แต่มันก็ยังสู้ครีมทามือของ L’Occitane ไม่ได้ที่ของยี่ห้อนี้ทำให้มือชุ่มชื้นยาวนานกว่า และราคาถูกกว่ามากๆ ด้วย

.

อีกอย่างเป็นน้ำหอมสำหรับผม ALLURE TENDER HAIR MIST ขนาด 35ml ได้มาเพราะขวดสวยขนาดเล็กน่ารักดี ขวดแก้วขุ่นใส ฝาสีเงินแถบสีทองตัดกันสวยดี กลิ่นนั้นหอมเบาๆ ของวนิลานุ่มให้ความรู้สึกอบอุ่นดี เป็นกลิ่นที่เบาแต่กลิ่นติดยาวนานใช้ได้

.

ที่สำคัญได้กระจก 2 ด้านแบบตลับมาด้วย เป็นของที่หายากจริงๆ หามานาน เคยเจอที่ขายในร้าน Online ราคาแพงบ้าง ไม่แพงบ้างก็ไม่น่าไว้ใจเจอของปลอมซะส่วนใหญ่ ครั้งนี้ไปได้มาเป็น 2 ชิ้นสุดท้าย จะได้เอามาใช้อันเดิมที่สภาพดูไม่จืดเท่าไหร่สำหรับคนอยู่ระหว่างการจัดฟันกระจกนั้นสำคัญมากโดยเฉพาะหลังทานอาหาร จากคนที่ไม่ค่อยส่องกระจกพอจัดฟันกลับส่องมากกว่าเดิมอีก

.

รอบนี้ได้สินค้าทดลองมาเป็นพวกครีมบำรุงผิวที่พนักงานให้มาแบบจัดชุดให้ไปทดลองใช้กันเลย ให้มาแบบบางอย่างเนี่ยรวมแล้วปริมาณเกือบครึ่งนึงของขนาดจริงแล้ว พนักงานที่นี่ให้มาสะใจมาก แต่ก็อยากบอกว่าลองใช้ขนาดทดลองมาอาทิตย์กว่าๆ แล้วมันก็ดีเลยนะ อาจจะคิดไปเองแต่มันเหมือนจะได้ผลที่เห็นได้ชัดเจน เนื้อผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างไม่มีความมันมากด้วย สำหรับคนผิวมันเสี่ยงสิวอันนี้ถือว่าโอเคเลย แต่ถ้าใช้หมดคงไม่ได้ไปหามาใช้ต่อเพราะราคาของแต่ละตัวนั้นแพงมาก

Perfume Blog: ลองกลิ่น CHANEL Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfume

สวัสดีบล็อก! วันนี้จะมาเล่าเรื่องลองกลิ่นน้ำหอมใหม่ CHANEL Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfume จะเรียกว่าใหม่ก็ไม่เชิง เพราะกลิ่นนี้มันมีมานานแล้วและก็เป็นกลิ่นที่ขายดีของ CHANEL ด้วย กลิ่นนี้เลยน่าจะเป็นอีกเวอร์ชั่นของ Coco Mademoiselle มากกว่าที่จะเป็นกลิ่นใหม่น

เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงต้นเดือนมี SMS จาก CHANEL ส่งมากด Link เข้าไปดูก็เจอผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีบอกให้ไปรับผลิตภัณฑ์น้ำหอมกลิ่นใหม่ลองได้ที่เคาน์เตอร์ประจำของเราด้วยอีกต่างหาก เหมือนบังเอิญที่ตอนนั้นก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้างพอดี ถือโอกาสลองแวะเข้าไปดูที่เคาน์เตอร์สักหน่อย ไปถึงก็เจอเทศกาล Coco Mademoiselle เต็มเคาน์เตอร์เลย พร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นก็คือ CHANEL Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfume

.

CHANEL Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfume วางตัวไว้ในฐานะน้ำหอมกลิ่นบางเบา สดชื่นในช่วงฤดูร้อน สำหรับเส้นผม และร่างกาย มาในขวดแบบกระป๋องสเปรย์ทรงกระบอกสูง พร้อมกับเจลอาบน้ำและสระผมแบบหลอดอีกอย่างนึง เอาจริงๆ ส่วนตัวเห็นแล้วก็ไม่ได้อยากซื้อขึ้นมาเลย แน่นอนเพราะรูปร่างบรรจุภัณฑ์ของมัน สำหรับคนอื่นอาจจะว่ามันดีที่เป็นกระป๋องสเปรย์สวยอะไรแบบนี้ สำหรับบล็อกแล้วซื้อน้ำหอมเพราะรูปร่างขวดเป็นหลักพอเจอกระป๋องสเปรย์ที่เหมือนสเปรย์ดับกลิ่นแบบนี้ก็ไม่ชอบเท่าไหร่

.

ราคาก็ 3,500 กว่าบาท สำหรับปริมาณ 100ml. ถือว่าราคาโอเคไม่แพงมากนัก แต่ก็ยังแพงอยู่ดีละ มาลองกลิ่นกันดีกว่า

.

Coco Mademoiselle L’eau Brume De Parfume ขนาดทดลองที่ไปรับมาก็ได้มาเป็นแบบหลอดสเปรย์เล็กๆ ขนาดน่าจะ 1.5ml เหมือนกับน้ำหอมทดลองทั่วไป

กลิ่นหอมแบบกลิ่นปกติละ หวานๆ กลมๆ ดูเป็นน้ำหอมผู้หญิงดี แต่กลิ่นมีความเบา ไม่ฉ่ำ หวานแน่นๆ แบบกลิ่นปกติ กลิ่นนี้รู้สึกว่ากลิ่นมัน “หอมมัน” นวลขึ้นมากกว่าปกติด้วยสังเกตได้ กลิ่นก็ฟุ้งแบบเบาๆ ไม่ฟุ้งสะใจเหมือนรุ่นปกติ ผ่านไปสักชั่วโมงก็เริ่มจางเป็นกลิ่นติดผิวที่ติดนานพอดูจนหายไปเองตอนไหนก็ไม่รู้

รวมๆ แล้วก็ยังคงเป็น COCO Mademoiselle นั่นแหละ กลิ่นยังหอมน่ากินเหมือนเดิม แค่เป็นเวอร์ชั่นนุ่มนวล บางเบา กลิ่นดูลดความหวานลง ลดความฉ่ำ แต่กลิ่นมันหอมลงตัวดีนะ หอมแนวดอกไม้หวานเบา ใส สดชื่น ไม่มีกลิ่นแบบพัชชูลีเข้มๆ เหมือนในแบบ EDP ทำให้มันเหมาะกับการฉีดได้บ่อยๆ ในอากาศช่วงฤดูร้อน

สิ่งที่แตกต่างในด้านรูปร่างหลักๆ ก็น่าจะเปลี่ยนจากขวดแก้วเป็นกระป๋องสเปรย์เหมาะแก่การพกพาไปฉีดทุกสถานที่ ฉีดบ่อยๆ ตามลักษณะที่ CHANEL พยายามโฆษณานั่นแหละ ว่าแต่ว่ากระป๋องมันก็ใหญ่อยู่นะใหญ่กว่าสเปรย์น้ำหอมทั่วไปอีต่างหาก และหน้าตาดูธรรมดาเหมือนสเปรย์ระงับกลิ่นกายที่มีขายอยู่แล้วอีกต่างหาก ไม่เชิญชวนให้น่าซื้อตรงไหนเลย ถึงจะบอกว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ดก็เถอะ ถ้าเป็นขวดสวยๆ ขนาดเล็ก พกพา หรืออะไรก็ว่าไปค่อยน่าซื้อกว่านี้หน่อย

สำหรับคนที่ชอบ COCO Mademoiselle EDT แต่ไม่ชอบความเข้มของกลิ่นแบบ EDP น่าจะชอบ แถมได้ปริมาณ 100ml กับราคาถูกกว่าอีกต่างหากน่าสนใจ ไปลองกลิ่นกันดูนะ

Pefume Blog: Vintage Collection: [Mini Review] Christian Dior Dior Star EDT, CHANEL Allure Parfum

ครั้งก่อนเคยได้เอา Christian Dior รุ่นเก่าๆ ที่มีและได้มาเอามาลงรวมกันในบล็อกไปบ้างแล้ว วันนี้เอาอีกขวดที่เพิ่งได้มาเมื่ออาทิตย์ก่อนสดๆ ร้อนๆ มาลงเพิ่มอีกกลิ่น กลิ่นนี้เป็นหนึ่งในกลิ่นที่ออกมาพร้อมๆ กับกลิ่นอื่นที่ทำดีไซน์ขวดขี้เหร่สุดเท่าที่เคยเห็น Dior ทำมาของน้ำหอมช่วงต้นปี 2000 เป็นน้ำหอมที่ทำมาเฉพาะขนาด 50ml. ดูจากหน้าตาขวด กับแพ็คเกจแล้ว ดูน่าจะทำมาเจาะกลุ่มวัยรุ่นในสมัยนั้นละ และกลิ่นที่ออกมานกลุ่มน้ำหอมนี้จะเป็นกลิ่นดอกไม้เป็นส่วนใหญ่ ที่ให้กลิ่นหอมสดใส เหมาะกับทุกๆ วัน แต่ละกลิ่นจะมีความหอมแตกต่างกันไปแต่ยังคงโทนเดียวกันถ้าใครเคยลองกลิ่นนะ  ลองดูหน้าตาแพ็คเกจของแต่ละกลิ่นตามรูปด้านล่างแล้วเพลีย ไม่เหมือน Dior เลย เหมือนน้ำหอมก๊อปจากต่างประเทศมากกว่า

กลิ่นที่เพิ่งได้มาคือ Dior Star edt. ได้มาแค่ตัวขวดเท่านั้น ไม่มีกล่องมาด้วย ปริมาณน้ำหอมมีเหลือแค่ครึ่งขวดเลยได้มาในราคาที่ถูกมาก แบชโค้ดขวดนี้คือ 5D01 เอาไปเช็คในเว็บคร่าวๆ กระประมาณปี 2015 ซึ่งก็ไม่นานนี้ ขวดมาในรูปทรงเดิมที่ดูทื่อๆ กับการเคลือบสีเงินวาววับ ที่มีเจาะรูปดาวอยู่ด้านหน้า กับโลโก้ที่ดูไม่เหมือนว่าเป็นน้ำหอม Dior ของแท้สักเท่าไหร่ ถ้าเห็นแบบไม่เคยรู้ว่ามีกลิ่นนี้ออกมาจริงๆ คงคิดว่าเป็นน้ำหอมปลอมจากต่างประเทศแน่ เอาจริงๆ ก็ไม่ชอบดีไซน์ขวดในช่วงนั้นเลยมันดูเชยๆ ดูราคาถูก เหมือนน้ำหอมปลอม แต่ในเมื่อได้มาขวดนึงแล้วทำไมจะไม่เก็บขวดอื่นๆ ที่เจอละ เลยเป็นที่มาของการเก็บน้ำหอมชุดนี้

ว่าด้วยเรื่องกลิ่น ขวดนี้ลองสเปรย์มาลองกลิ่นดูสักหน่อย กลิ่นแนวน้ำหอมดอกไม้โปร่งๆ กลิ่นหอมใส ให้ความรู้สึกถึงพวกกลิ่นดอกกุหลาบ ดอกโบตั๋นแนวๆ นี้ ที่ทำให้รู้สึกว่ากลิ่นมันหอมถูกใจนิดนึงก็ตรงที่มันติดกลิ่นเขียวคมๆ ชัด โดยเฉพาะช่วงที่แห้งแล้วกลิ่นมันให้ความรู้สึกกลิ่นเขียวที่สดชื่นมากๆ แต่กลิ่นก็จางไปอย่างรวดเร็วติดไม่ทนเลย

Christian Dior Dior Star EDT 50ml. – Batch Code 5D01

ต่อมาอีกขวดที่ได้มาคือ CHANEL Allure Parfum เจอลงประกาศในเว็บขายของมือสองแบบพอดิบพอดี ที่คนขายเพิ่งลงขายในราคาที่ถูกมาก ตัวขวดยังอยู่ในสภาพใหม่ แว๊กซ์ซีล และเชือกผูกคอขวดยังอยู่สมบูรณ์ แต่มีสภาพฝาขวดถูกหมุนเบื้ยวอยู่ คงเป็นเพราะเจ้าของเก่าพยายามเปิดขวดละมั้ง แต่ก็จัดการบิดกลับไปเข้าที่ให้อยู่ในสภาพเดิม ขวดนี้ปริมาณน้ำหอมยังเต็มขวด มีมาพร้อมกล่องครบๆ ได้มาเก็บเพิ่มอีก 1 ขวด จากกลิ่นนี้เคยได้มานานแล้ว 1 ขวด ถือโอกาสเอามาลงรวมกันที่นี่เลยละกัน

.

CHANEL Allure Parfum 15ml. – Batch Code 0902

อีกขวดที่ได้มาก่อนหน้าที่ได้มาแค่ขวดอย่างเดียว ไม่มีกล่องมาด้วย ปริมาณน้ำหอมเหลือพอสมควรขวดนี้ได้มาราคาค่อนข้างสูงเพราะหายาก เขาบอกมาแบบนั้น แต่ก็ยังไม่เคยเอามาลองลิ่นจริงจัง แค่ลองแต้มดูกลิ่นหอมนวล กลิ่นหอมวนิลาบางๆ ที่ให้ความรู้สึกเย็น กลิ่นนุ่มละมุน บางเบา ช่วงกลิ่นเปิดมีความหอมโปร่งๆ คล้ายน้ำหอมหอมยุคเก่าบอกไม่ถูกว่าเป็นกลิ่นของอะไร แต่กลิ่นโดยรวมคล้ายกับ Dior Addict EDP เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกดูภูมิฐานดีมากๆ

Vintage CHANEL Allure Parfum 15ml – Batch Code: 5405

ขวดนี้ได้มาช่วงกลางปีก่อนได้มาแค่ขวดอย่างเดียวไม่มีกล่อง เช็คโค้ดดูว่าเป็นโค้ดของปี 2020 แต่ก็คงไม่น่าจะใช่เพราะได้มาก็กลางปีแล้วคงเป็นก่อนหน้านั้น จากข้อมูลเขาว่าหมายเลข Batch Code นั้นจะใช้ซ้ำทุก 8 ปี ทำให้ขวดนี้น่าจะอยู่ในช่วงปี 2012 ละมั้ง

Perfume Blog: CHANEL COCO EDP

CHANEL COCO EDP เป็นน้ำหอมกลิ่นแนว Oriental Spicy เปิดตัวในปี 1984 เป็นน้ำหอมอีกกลิ่นที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์แบบ CHANEL ได้อย่างชัดเจนอีกกลิ่นหนึ่ง ด้วยกลิ่นที่มีความเป็นกลิ่นเครื่องเทศที่เด่นชัด ที่มาพร้อมกับความอบอุ่นของ Amber และ Vanilla กลิ่นมีความโดดเด่นมากแต่ไม่มีชื่อเสียงเท่าไหร่ ด้วยที่ว่าไม่มีการโฆษณามากเหมือนกับกลิ่นอื่นๆ

คำบรรยายกลิ่นจากเว็บไซต์ CHANEL มีว่า “สัมผัสความหอมของซิทรัสจาก Sicilian Mandarin กลิ่นหอมที่เป็นกลิ่นกลางจาก Jasmine และ May Rose Absolutes เติมเต็มด้วยสัมผัสแห่ง Ylang-Ylang จาก Comoros และ Tunisian Orange Blossom การผสมผสานที่น่าหลงใหลมอบสัมผัสความหอมอันมีชีวิตชีวาของ Indonesian Patchouli, Tonka Note และ Benzoin”

กลิ่นเปิดมาอบอุ่น หอมนวลๆ มีกลิ่นเหมือนกานพลู ให้กลิ่นที่ออกไปทางเครื่องเทศหวาน ซ่า ตามมมาด้วยกลิ่นคล้ายกุหลาบ ดอกมะลิ ผสมกับผลไม้สุกที่มีกลิ่นหวานอมเปรี้ยว ซึ่งกลิ่นทั้งหมดนั้นออกไปทางกลิ่นแป้งหอม เป็นกลิ่นที่หอมโปร่ง โล่ง แต่ก็ติดนวลแบบแป้งหอมที่เป็นเอกลักษณ์

กลิ่นหอมอบอุ่น ดูหรูหรา และเป็นกลิ่นที่บ่งบอกความเป็น Classic CHANEL ได้ชัดเจนอีกกลิ่นหนึ่งเลยทีดียว กลิ่นยังคงทำให้นึกถึงเทศกาลสงกรานตร์เหมือนกับตอนที่ลองกลิ่นตัว Vintage Parfum ครั้งก่อน คงด้วยกลิ่นคล้ายดอกมะลิแทรกในกลิ่น กับกลิ่นโดยรวมที่ทำให้นึกถึงแป้งหอมช่วงเวลารดน้ำดำหัวของเทศกาลสงกรานต์

กลิ่นฟุ้งกระจายตัวดีมากๆ ลมพัดมาทีไรก็ได้กลิ่นหอมลอยมาให้รู้สึกตลอด หลังจากกลิ่นเปิดจบไปแล้วจะเป็นกลิ่นหอมอุ่นๆ นวลๆ ฟุ้งไปตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะส่วนที่ฉีดบนเสื้อนั้นกลิ่นติดทั้งวันจริงๆ จะว่าไปกลิ่นมันทำให้รู้สึกสงบ มีสมาธิดีเหมือนกันนะ เวลากลิ่นลอยมาตามลมมันให้ความรู้สึกสงบแบบมีความสุข เพราะแบบนีหละเลยชอบกลิ่นนี้มากๆ อีกกลิ่นหนึ่งของ CHANEL

CHANEL COCO EDP 50ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Daily Blog: วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 อาทิตย์แห่งการซื้อของออนไลน์ [iPhone12 Pro Max Pacific Blue, ซื้อของ IKEA, Vintage CHANEL COCO Parfum]

สวัสดีบล็อก! วันนี้จะมาเล่าเรื่องอาทิตย์ที่ผ่านๆ มาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรียกว่าเป็นอาทิตย์ของการซื้อของ Online ก็ไม่ผิดสักเท่าไหร่ เป็นความบังเอิญรึเปล่าไม่รู้ที่นึกอยากจะมาสั่งซื้ออะไรหลายๆ อย่างในอาทิตย์เดียวกัน

อย่างแรกเลยนึกอะไรสักอย่างไม่รู้ไปเปิดดูเว็บ AIS แล้วเจอหน้าสั่งจองเครื่อง iPhone12 และเป็นวันสุดท้าย เลยกดเข้าไปหาจองสักเครื่อง ดูรุ่น Pro Max ความจุ 256GB สีเงิน ตอนแรกยังกดได้ เพราะความลังเลเลยปิดไป พอตัดสินใจจริงๆ ว่าจะซื้อแล้วกลับเข้าไปอีกทีหมดแล้วทุกสีในความจุนี้ ทำไงได้ไปดูความจุ 512GB ยังมีให้กดได้ทุกสี เลือกสีเงิน กดจ่ายเงินระบบเด้งไปมา ค้างไป สรุปกดจ่ายเงินไม่ได้บอกสินค้าไม่พอ แต่หน้าเว็บก็ขึ้นให้กดจองปกติไม่ได้บอกว่าหมดนี่ ลองกดสองสามครั้งก็ไม่สำเร็จ จนถอดใจ แล้วไปลองกดสีน้ำเงินดูเล่นๆ กดจ่ายเงินซิจะจ่ายได้ไหม อ้าวจ่ายได้เฉย สรุปได้ iPhone12 Pro Max 512GB สีน้ำเงิน Pacific Blue มาแบบงงๆ ก็ดีใจนะกดได้ เอามาใช้คู่กับ iPad Pro ที่ยังไม่มีวีแววที่จะส่งมาสักที

ที่อยากเปลี่ยนจากเครื่องเก่า Note20UL มาใช้ iPhone ก็เพราะเรื่องการแจ้งเตือนเป็นหลักเลย Note20 หรือ Android รุ่นใหม่ๆ มันไม่ค่อยแจ้งเตือนเป็นปัจจุบัน วางไว้เฉยๆ ฝันไปเถอะจะอัปเดทแจ้งเตือนอะไร ต้องจับขึ้นมาก่อนถึงจะเด้งแจ้งเตือนรัวๆ  รู้สึกว่าจะเป็นระบบประหยัดพลังงานอะไรสักอย่างของระบบ Android เป็นมาตั้งแต่ Note10 แล้ว ลองปิดระบบประหยัดพลังงาน ปิดการหยุดทำงาน เปิดระบบแรงสุดแล้ว ก็ยังเหมือนเดิมน่าเบื่อมากๆ เรื่องกล้องนี่ก็ส่วนนึง ถ่ายปกติก็สวยนะ แต่ถ่ายใกล้ๆ แล้วมันเบลอไปหมดเพราะขนาดเซ็นเซอร์รุ่นใหม่มันใหญ่ ก็เข้าใจ แต่มันไม่เวิร์คสำหรับเราที่ชอบถ่ายอาหารไง ชัดแค่จุดเดียวส่วนอื่นเบลอไปหมด แถมกล้องก็โฟกัสช้ากว่า ไม่แม่น เท่า Note10 ด้วย เล่ามามีแต่ข้อเสียข้อดีก็มี แต่พอแล้วอยากเปลี่ยนมาใช้อะไรง่ายๆ ไม่ต้องคิดเหมือนแต่ก่อนบ้างเลยกลับมาที่ Apple เหมือนเดิม และรูปร่างมันก็ตรงสเป็คเหมือนสมัย iPhone4 iPhone5 ที่เป็นกล่องๆ แบนๆ ชอบมาก ก็ถือโอกาสเปลี่ยนเลยแล้วกันครั้งนี้

ถึงเวลากำหนดส่งมอบเครื่องวันที่ 27 พ.ย. 63 ในเน็ตก็คึกคักเลยทีเดียว มีทั้งส่งมอบเวลาเที่ยงคืน 1 นาที รับตอนตีสามด้วย อะไรประมาณนั้น เราก็ลุ้นว่าจะมาวันไหนดันไปกดจองวันสุดท้ายด้วย ถ้าตามคิวเราน่าจะช้าสุด ในทวิตเตอร์ก็มีมาบ่นทั้งดีใจที่ได้เร็ว บ่นที่ไม่ได้รับทั้งที่จองวันแรก เยอะแยะมากมาย ของเรานี่โชคดีที่ส่งเมล์ไปสอบถาม AIS ว่าขอระบุวันที่จัดส่ง ถ้านานจะได้ยกเลิก มีเจ้าหน้าที่โทรกลับมาอย่างรวดเร็วและสถานะการจัดส่งก็ขึ้นและก็มาถึงเราวันที่ 28 พ.ย. 63 เร็วมากสำหรับการที่สั่งจองวันสุดท้ายนะ แกะกล่องมาก็เจอตัวเครื่องสีฟ้าหม่นๆ ดูสวยดี แต่อยากได้สีเงินมากกว่า แปลกตาที่จอมันแบนมาก ทั้งด้านหน้าและหลัง เพราะใช้ Samsung จอโค้งมานานเลยทำให้ตื่นเต้นกับจอแบนมากๆ ตัวเครื่องมีน้ำหนัก และก็ลื่นมือเหมาะแก่การทำตกจริงๆ แต่เราได้เตรียมพร้อมไว้แล้วไม่ยอมให้ตกพื้นอีกหรอกคราวนี้

เตรียมสั่งเคส ฟิล์มกันรอย สั่งหูฟัง ที่ชาร์จ มาเตรียมพร้อม เคสมาถึงก่อนวันนึง ส่วนฟิล์มยังล่องลอยอยู่วันนี้ที่เล่าก็ยังมาไม่ถึง ถือโอกาสสั่งหูฟัง AirPods Pro มาใช้แทน Galaxy Buds ตัวเดิมเพราะเคสชาร์จแบตเสื่อมแล้ว เสื่อมเร็วมากปีเดียวเอง อย่างอื่นก็เคสหูฟัง กับ ที่ชาร์จ ทั้งหมดมาจากสิงคโปร์ มาถึงก่อนเครื่องแต่ก็มาวันเดียวกัน ถือว่าส่งมาเร็วทันใจมาก

จบไปแล้วกับการสั่งของอย่างแรก อย่างต่อไปคือหาของจับสลากปีใหม่ ที่ยังไม่เข็ดกับ IKEA หาซื้อโคมไฟมาจับสลากคราวนี้จะเอาให้สำเร็จ กดสั่งไปพร้อมๆ กับ iPhone12 ของก็มาถึงวันเดียวกันอีก แถมมาถึงแต่เช้าด้วย คราวนี้เร็วสุดเร็วกว่าทุกครั้ง เปิดกล่องมาก็งงนิดหน่อยว่าทำไมเรากดสั่งเชือก กับ กระดาษห่อของขวัญมาเยอะขนาดนี้ พอดูที่ลายกระดาษกับสีของเชือกถึงเข้าใจว่าทำไม เพราะลายมันสวยวินเทจมาก สีก็สวย ราคาไม่แพง ถ้าไม่ซื้อคงคิดเสียดายทีหลังแน่ เลยถือโอกาสเอามาห่อของขวัญจับสลากซะเลยสวยไม่เหมือนใคร

และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำหอมเก่า ครั้งนี้ก็ได้ขวดเล็กของ CHANEL COCO Parfum 7.5ml. กับ COCO EDP ที่เป็นขวดรูปร่างคล้ายกันมา ขวดเล็กแบบ EDP แบบนี้ยังไม่เคยมีถือว่าเอามาเติมคอเล็คชั่นอีกชิ้น

Perfume Blog: Christian Dior Dior Addict EDP

Dior Addict EDP เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2002 และก็ปรับสูตรมาเรื่อย จนล่าสุดปี 2014 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นดอกไม้สดชื่น ที่นำด้วย ดอกส้ม ดอกมะลิ และวนิลา ในเว็บบรรยายไว้สั้นๆ ที่สรุปใจความประมาณว่าเป็นกลิ่นที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิง อ่อนโยน และมีเสน่ห์อย่างน่าทึ่ง

เปิดมาหอมสดชื่นแบบกลิ่นดอกไม้สีขาวอะไรสักอย่าง แต่ที่รู้คือกลิ่นดอกมะลิชัดมาก โปร่ง ติดกลิ่นเขียว มีกลิ่นที่เหมือนใบไม้อ่อนๆ เขียวใส สบายจมูก มีกลิ่นนุ่มๆ คล้ายวนิลาจางๆ อยู่ในกลิ่นช่วงกลางกลิ่นไปแล้วทำให้กลิ่นมันดูกลมขึ้น กลิ่นไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้เป็นกลิ่นหอมใสๆ กลิ่นเหมาะเวลากลางคืนไปโทนเดียวกับสีของขวดน้ำหอมที่เป็นสีน้ำเงินเข้มลึกลับ เป็นกลิ่นหอมที่หอมรัญจวนอีกกลิ่นหนึงเลย

กลิ่นหอมนะ หอมดอกมะลิแบบติดเขียว หอมเย็น เป็นกลิ่นที่ออกไปทางกลิ่นดอกไม้ชัดมาก แนวกลิ่นออกไปทางผู้ใหญ่หน่อย หรูนิดนึง งานกลางคืนอะไรแบบนั้น อ่านรีวิวเมืองนอกบอกแต่ว่ามีกลิ่นเปิดเป็นซีตรัส แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงนะคิดว่าที่ว่ากลิ่นเหมือนซีตรัสน่าจะเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์กำลังระเหยมากกว่า ลองกลิ่นแล้วรู้สึกว่ากลิ่นกระจายตัวดีแต่ก็ไม่ได้มากอะไร และก็ติดทนโอเคปกติ

เป็นกลิ่นหอมที่ออกไปทางธรรมชาติแบบไม่คิดว่า Dior จะมีกลิ่นแบบนี้ นึกว่าจะมีแต่กลิ่นที่เบลนรวมกันไปแล้วเหมือนอย่างหลายๆ กลิ่นที่เคยลองมา สงสัยจะต้องหาน้ำหอมจาก Dior กลิ่นอื่นๆ มาลองเพิ่มแล้วละ

Christian Dior Dior Addict EDP 50ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Perfume Blog: CHANEL PLATINUM ÉGOÏSTE EDT

PLATINUM ÉGOÏSTE เปิดตัวมาในปี 1993 เป็นน้ำหอมผู้ชายที่มีแรงบัลดาลใจบรรยายในเว็บไซต์ว่า “”Qui a de la platine” ความหมายในภาษาฝรั่งเศสที่ใช้บ่งบอกถึงบรุษผู้มีความหลักแหลมสุขุมและวาทศิลป์คมคาย PLATINUM ÉGOÏSTE คือความหอมแห่งบุรุษที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง และไม่เขินอายต่อสื่งเร้าใด ๆ ที่จะนำพาให้เขาประสบความสำเร็จ” โดยบรรยายแนวกลิ่นไว้ว่า “ความสัมพันธ์แห่งสมดุลและอำนาจเกินต้านทาน ความหอมจากกลิ่นพันธุ์ไม้คือเบ้าหลอมแห่งความสดชื่นจาก Lavender และ Rosemary เติมเต็มด้วยสัมผัสจาก Petitgrain จากปารากวัย ความหอมที่เบ่งบานโดยกลิ่นแห่งเอกบุรุษของ Clary Sage และ Geranium นำไปสู่กลิ่นหอมบริสุทธิ์อันเป็นพื้นฐานของแอมเบอร์ ความอบอุ่นจากพันธุ์ไม้หายากที่อบอวลอยู่ในบรรยากาศ” อ่านแล้วงงดีไหมละ นี่อ่านแล้วก็งงเหมือนกันมันจะเป็นกลิ่นแบบไหนละมาลองกลิ่นกันดีกว่า

กลิ่นเปิดมาแบบหอมนุ่ม เย็น กลิ่นเบาๆ ที่เป็นกลิ่นแนวดอกลาเวนเดอร์ เป็นกลิ่นโปร่งใส ให้ความรู้สึกแบบชิลๆ สะอาด ผ่อนคลาย มีความนุ่ม ทุ้มของกลิ่นกำลังดี ไม่ฉุนเกินไป เป็นกลิ่นที่เล่าบรรยายออกมาไม่ถูกเพราะเป็นกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยเท่าไหร ฉีดไปสักพักรู้สึกถึงกลิ่นเผ็ดๆ แบบเครื่องเทศ หรือดอกไม้อะไรสักอย่างซ่า คุ้นๆ รู้สึกเหมือนจะมีกลิ่นไม้หอมแนวฟุ้ง กลิ่นอวลๆ ในช่วงท้าย เป็นกลิ่นทีให้นึกถึงวันพักผ่อนสบายๆ นอนเล่นริมทะเลอะไรประมาณนั้นเลยละ

กลิ่นมีความฟุ้งกระจายกำลังดี ไม่แรงเกินไป เพราะด้วยความโปร่ง และใส ของกลิ่นทำให้มันกระจายได้โอเคเลย ติดทนค่อนข้างดีไม่ถึงกับทั้งวันแต่ก็นานหลายชั่วโมงเพียงตอนท้ายอาจจะเป็นแค่กลิ่นลอยๆ ติดผิวเราเฉยๆ เวลาลมพัดมาพอให้จับกลิ่นได้บ้าง ถ้าให้ดีพกมาฉีดเติมอีกครั้งตอนบ่ายก็โอเคแล้ว

กลิ่นนี้ถึงจะบอกว่าเป็นน้ำหอมผู้ชาย ก็คงไม่ผิดเพราะกลิ่นมันนุ่ม ทุ้ม ให้ความเป็นผู้ชายชิลๆ เสื้อเชิตหลวมๆ กางเกงขาสั้น ความไม่เป็นทางการ เวลาแห่งการพักผ่อน ที่ให้ความรู้สึกช่วงเวลาฤดูร้อน และฤดูหนาว ไปพร้อมๆ กัน เพราะกลิ่นมันให้ทั้งความนุ่มเย็นสบาย และความอบอุ่นนุ่มของกลิ่น บอกไม่ถูกต้องไปลองเอาเอง เป็นกลิ่นที่ให้อารมณ์ของความเก่าวินเทจ และความเป็นปัจจุบัน ชอบมากๆ

CHANEL PLATINUM ÉGOÏSTE EDT 50ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Perfume Blog: CHANEL GABRIELLE ESSENCE EDP

CHANEL GABRIELLE ESSENCE เปิดตัวมาเมื่อปี 2019 นี้เอง เป็นกลิ่นต่อยอดเพิ่มความเข้มข้นให้กับ GABRIELLE ดั้งเดิมที่เปิดตัวมาเปี 2017 โดยมีแนวกลิ่นที่บรรยายไว้ในเว็บว่า ” GABRIELLE CHANEL ESSENCE ผสมผสานความสดใสเข้ากับความหรูหราเย้ายวน น้ำหอมกลิ่นฟลอรัลนี้ประกอบด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้สี่ชนิด ได้แก่ กลิ่นมะลิที่มีความเอ็กซอติกและอบอวล, อีลางอีลางที่โดดเด่นและออกแนวฟรุตตี้, กลิ่นออเรนจ์ บลอสซัมแสนสดชื่นและสดใส และกลิ่นทูเบอโรสจากเมืองกราสส์ที่ทั้งเข้มข้นและเฟมินีน ทูเบอโรสจากเมืองกราสส์ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่น่าหลงใหลที่สุดนั้นได้รับการชูกลิ่นและกระจายกลิ่นผ่านน้ำหอมเพื่อสร้างกลิ่นหอมที่อบอุ่นและอบอวล”

กลิ่นเปิดมาหอมหวาน ใส ฉ่ำ กลิ่นเด่นๆ เป็นกลิ่นดอกไม้ รู้สึกถึงกลิ่นประมาณกลิ่นดอกมะลิเย็นๆ กับกลิ่นอะไรสักอย่างหอมฉ่ำๆ เป็นความหอมกลมกล่อมของดอกไม้ที่ให้กลิ่นหอมหวาน อบอุ่น นุ่มนวล โดยที่กลิ่นยังคงเป็นโทนกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงแบบจริงจังเหมือนกับรุ่นปกติ และกลิ่นยังมีการกระจายตัวที่ค่อนข้างดี ฉีดแล้วฟุ้งใช้ได้เลย แถมติดทนยาวนานกว่ารุ่นปกติด้วย ความทนอาจแตกต่างกันตามจุดที่ฉีดด้วยนะอย่างลืม

จะบอกว่ายังไงดี กลิ่นมันก็เหมือนแบบรุ่นเดิม แต่มันมีกลิ่นดอกมะลิเด่นที่ให้ความหอมเย็นชัดเจนขึ้นมา กลิ่นหอมหวาานขึ้น ฉ่ำขึ้น ที่เกือบจะเรียกว่ามันเป็นกลิ่นฉุนแล้ว แต่ยังคงความหอมแบบโปร่ง ใส อยู่ ซึ่งคิดว่าโอเคแล้วกลิ่นมันก็หอมเข้มข้นมากกว่ารุ่นเดิมจนสังเกตได้

ใครจะว่ากลิ่นแบบ Essence นั้นแตกต่างกว่าแบบปกติก็ช่าง ส่วนตัวลองกลิ่นแล้วคิดว่ามันไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น มันค่อนข้างเหมือนกันเลยก็ว่าได้ ความสามารถแยกกลิ่นมีเท่านี้แหละแยกไม่ออก รู้สึกแค่ว่ากลิ่นมันแรงขึ้น ฉ่ำขึ้นก็เท่านั้น สำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อรุ่นปกติแต่ก็อยากจะซื้อ GABRIELLE มาใช้สักขวดแล้วลังเล แนะนำขวดรุ่น ESSENCE ได้เลย กลิ่นเหมือนกันแต่เข้มกว่าเอามาปรับใช้เอา อยากได้เข้มได้เบาก็ปรับจำนวนฉีดเอาเอง คุ้มๆ

CHANEL GABRIELLE ESSENCE EDP 50ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]