Perfume Blog: Diptyque Tam Dao Limited Edition EDT.

วันนี้จะมาเล่าเรื่องน้ำหอม Diptyque Tam Dao อีกครั้ง แต่เป็นรุ่นพิเศษ รุ่นขวดเล็กขนาด 30ml. สำหรับพกพา บังเอิญได้มาเลยว่าจะเอามาเทียบขนาดขวดให้ดูกันเล่นๆ

คอลเลคชั่นนี้มีออกมา 5 กลิ่น เป็นกลิ่นที่ขายดีของ Diptyque เขาละ ทำมาเป็นขนาด 30ml. ทั้งหมด ตัวขวดมีการทำสีลงในขวดแก้วด้านข้าง และกล่องที่มีการพิมพ์ลายวัตถุดิบหลักของกลิ่นนั้นๆ ลงบนกล่องดูแปลกตาไม่ค่อยเห็น Diptyque ทำกล่องมีสันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละกลิ่น เปิดตัวและวางจำหน่าย มิถุนายน ปี 2019

Tam Dao กลิ่นนี้เคยเล่าเรื่องกลิ่นให้อ่านกันแล้ว [เล่าเรื่องน้ำหอม Diptyque Tam Dao EDT+EDP] อย่างที่บอกมันเป็นกลิ่นไม้ที่บางครั้งก็รู้สึกถึงแผ่นไม้แห้งๆ บางอารมณ์ก็รู้สึกถึงแผ่นไม้เปียกๆ แปลกดี แต่มันก็หอมเย็นได้กลิ่นแล้วผ่อนคลายดีใช้ได้เลยละ

ขนาดขวดรุ่นนี้เล็กมากๆ ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ พกพาสะดวกแน่อน เทียบกับขนาดต่างๆ ที่มี [ เรียงจากซ้ายไปขวา 30ml. > 50ml. > 75ml. > 100ml. ]

Diptyque Tam Dao Limited Edition EDT. 30ml.

Diptyque Do Son EDT

Diptyque Do Son เปิดตัวในปี 2005 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่นดอกไม้ ที่มีชื่อเสียงมากของดิปทีคอีกกลิ่นหนึ่ง ซึ่งกลิ่นเด่นของ Do Son คือ ดอกซ่อนกลิ่น ทีให้กลิ่นเหมือนอยู่ในตลาดดอกไม้ประเทศเวียดนาม ดิปทีคบรรยายกลิ่นไว้ว่า “เป็นกลิ่นแห่งความทรงจำในวัยเด็กของ Yves Coueslant หนึ่งในผู้ก่อตั้งดิปทีค เป็นช่วงเวลาที่ทะเลพัดเอากลิ่นหอมของดอกซ่อนกลิ่น เมื่อตอนที่เขาอยู่ชายหาย Do Son อ่าวหะล็อง ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นความทรงจำของกลิ่นหอมอันรื่นรมย์ของดอกไม้ขาวในช่วงเวลาวัยเด็กของเขา” นอกจากดอกซ่อนกลิ่นแล้วยังมี ดอกส้ม ดอกมะลิ อยู่ในกลิ่นด้วย

กลิ่นเปิดนั้นมันคือกลิ่นดอกซ่อนกลิ่นชัดเจน เหมือนช่อดอกซ่อนกลิ่นสดๆ มาวางตรงข้างหน้าเลย เป็นกลิ่นหอมดอกซ่อนกลิ่นที่ฉ่ำ หวาน นุ่ม และสดชื่นไปในเวลาเดียวกัน โดยกลิ่นมันใสและกลม กลิ่นยังให้อารมณ์ความหอมของดอกมะลิ ที่หอมคม ใส ด้วย รึจะว่ากลิ่นมันคล้ายดอกมะลิก็ได้ มะลิที่ติดหวานมากหน่อย ไม่มีอะไรต้องบอกมากเพราะมันชัดเจนสุดแล้วว่าคือดอกซ่อนกลิ่น ไม่ต้องบรรยายให้มากความ แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแนวดอกไม้สด หรือดอกมะลิ คงคิดว่ากลิ่นมันโบราณ เหมาะกับคนมีอายุ และน่าจะไม่ชอบกลิ่นนี้ เพราะกลิ่นมันค่อนข้างโจ่งแจ้งกับเนื้อกลิ่นที่ระเบิดมาเต็มๆ หน้าคนผ่านไปผ่านมา จะว่ายังไงดี เป็นน้ำหอมกลิ่นแรง น่าจะใช้คำนี้ก็ได้

  • กลิ่นหอมไหม? หอม บอกได้คำเดียว หอม เป็นกลิ่นแบบดอกไม้จริงชัดมาก สดชื่นเหมือนอยู่ในสวนดอกซ่อนกลิ่น
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? ดีมาก 9 เต็ม 10 คะแนน กลิ่นฟุ้งกระจายดีเพราะกลิ่นค่อนข้างแรงทีเดียว กลิ่นไม่หนักนะกลินแรงแบบสดใสเลยละ
  • กลิ่นติดทนไหม? ทนพอสมควร สำหรับน้ำหอมกลิ่นสดใสแบบนี้ ติดผิวได้นานถึง 5-6 ชั่วโมง และติดที่เสื้อได้เกือบทั้งวัน
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะ และต้องฉีดปริมาณที่เหมาะสมด้วยเพราะกลิ่นค่อนข้างแรง ถึงจะกลิ่นไม่หนักแต่กลิ่นดอกซ่อนกลิ่นมันก็คมใช้ได้เลย

เป็นกลิ่นที่ใครชอบก็ชอบมาก ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลย ไปลองลุ้นกันเอาเองว่าตัวเองชอบกลิ่นแนวดอกไม้เสมือนจริง และกลิ่นแรงแบบนี้ไหม ส่วนตัวชอบมาก กลิ่นพาฝันจนนึกไปถึงว่าตัวเองนั่งอยู่ที่สวนดอกไม้ตอนเย็นๆ พระอาทิตย์กำลังตก ท้องฟ้าสีส้มฉ่ำ พร้อมกับลมเย็นๆ พัดเอากลิ่นดอกซ่อนกลิ่น และมะลิลอยมารอบๆ ตัว ฝันดีเลยละ

เล่าเพิ่มเรื่องขวดนี้ได้มาเป็นขวดรุ่นเก่าก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขวดทรงรีที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ไปเจอลงขายในเว็บขายของเว็บนึงโพสนี้อยู่นานแล้วเราก็สงสัยแหละว่าทำไมขวดถึงเป็นขวดสี่เหลี่ยม จนไปค้นดูน้ำหอมรุ่นเก่าๆ ก็ไปเจอว่ามันเป็นขวดก่อนที่จะเปลี่ยนแปลง ถือว่าโชคดีก็ได้นะเนี่ยน้ำหอมยังคงกลิ่นดีมาก แถมเหลือเยอะด้วย (ช่วงเวลาการเปลี่ยนเป็นขวดแบบใหม่ประมาณเดือนมีนาคม ปี 2012)

Diptyque Do Son EDT 100ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Geranium Odorata EDT

Diptyque Geranium Odorata เป็นน้ำหอมในกลุ่มกลิ่นดอกไม้ ที่ให้กลิ่นดอกเจอร์เรเนียมที่หอมสดชื่นเป็นหลัก โดยมี มะกรูด ถั่วตองก้า กระวาน และหญ้าแฝก อยู่ในกลิ่นด้วย ก็อีกนั้นแหละยังไม่เคยเจอดอกเจอร์เรเนียมของจริงสักที รู้แค่ว่ากลิ่นหอมมันอยู่ที่ใบ ไม่ได้อยู่ที่ดอก จริงไหมนะ?

กลิ่นเปิดมาเป็นกลิ่นหอมใสแบบมะกรูดโดดเด่นมาก กลิ่นคมๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น ในกลิ่นเปิดนั้นมีกลิ่นหวานจางๆ นวลๆ แบบดอกไม้กลีบบาง มีความเย็นซ่าปนในกลิ่น ให้ความรู้สึกแบบกลิ่นสมุนไพร เป็นน้ำหอมกลิ่นโปร่ง หอมใสๆ ที่เมื่อกลิ่นแห้งสักพักจากกลิ่นโปร่งหอมใส จะกลายเป็นกลิ่นหอมฉ่ำของดอกไม้ ติดนวล และมีความหวานเลี่ยนๆแบบหญ้าแฝกหน่อยๆ จะว่าไปกลิ่นตอนแห้งแล้วบนผิวกลิ่นให้อารมณ์คล้ายกับน้ำมันตะไคร้หอมตามสปาเลย

  • กลิ่นหอมไหม? หอม เปิดมาก็สดชื่น กลิ่นสดใส กลิ่นฉ่ำ โปร่งสบายชื่นใจ
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวดี ด้วยความโปร่ง และใสของกลิ่น หลังจากชั่วโมงแรกกลิ่นเริ่มลดพลังลงจนเป็นกลิ่นติดผิว
  • กลิ่นติดทนไหม? ส่วนตัวว่ากลิ่นติดไม่ทนเท่าไหร่ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่คนอื่นอาจจะติดทนกว่าก็ได้อันนี้แล้วแต่คน แต่กลิ่นที่ฉีดบนเสื้ออยู่นานกว่ามากฉีดเช้า ตกเย็นยังดมเสื้อยังมีกลิ่นอ่อนๆ อยู่
  • กลิ่นเหมาะสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะแน่นอน กลิ่นใส สดชื่น หอมโปร่งสบาย ใช้ได้ดีเลยละ

เป็นน้ำหอมดิปทีคอีกกลิ่นที่มีความโดดเด่นเรื่องกลิ่นที่สดใส ให้ความรู้สึกโปร่งสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่เป็นกลิ่นค่อนไปทางเครื่องเทศ/สนุมไพรซ่าๆ ด้วยซ้ำ เป็นกลิ่นที่ใช้งานง่าย ใช้กับสภาพอากาศร้อนได้ดีด้วย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Florabellio EDT

Diptyque Florabellio เปิดตัวปี 2015 เป็นน้ำหอมกลิ่นแนวดอกไม้สดชื่น บรรยายไว้ว่า เป็นกลิ่นในความทรงจำบนชายหาดทะเลกว้างใหญ่ ต้นแอบเปิ้ลออกดอกเบ่งบาน ใกล้ๆ กับโรงคั่วกาแฟ เป็นการวมกันของความสดชื่นจากกลิ่นน้ำทะเล ดอกแอ๊ปเปิ้ล และความหวานปนขมของเมล็ดกาแฟ รวมกันจนเป็นกลิ่นอันหอมหวานของความฝัน และสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

เป็นกลิ่นเปิดที่แปลกมาก กลิ่นออกแนวเหม็นปนหอมสดชื่น กลิ่นให้ความรู้สึกของกลิ่นดอกไม้สีขาวเล็กๆ ที่กลิ่นหอมรุนแรงแบบดอกแก้วเพียงแต่กลิ่นไม่แหลมเท่า เป็นกลิ่นหอมเย็นที่ให้ความรู้สึกเคลิ้ม มีกลิ่นเค็ม ตุ๋นๆ เหมือนกลิ่นทะเลอบอวลอยู่ในกลิ่นด้วย เป็นน้ำหอมกลิ่นโปร่ง แต่ไม่ใส กลิ่นค่อนข้างแรง แต่ไม่ฉุน ออกแนวกลิ่นสังเคราะห์หน่อยๆ แบบกลิ่นพลาสติก บางทีก็รู้สึกเหมือกลิ่นยาง

เป็นกลิ่นหอมที่พะอืดอะอมแบบบอกไม่ถูก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักกลับรู้สึกอยากดมมันอีก หลังจากนี้และความหอมจะเริ่มเกิดขึ้นในหัวจนแทบจะหยุดดมไม่ได้ พระความหอมและความเหม็นของกลิ่นนั่นเอง ไม่แปลกใจถ้าคนส่วนใหญ่จะได้กลิ่นนี้แล้วไม่ชอบ และว่ามันเป็นกลิ่นที่เหม็น ดังนั้นต้องให้เวลาทำความรู้สึกกันสักหน่อย

  • กลิ่นหอมไหม? ต้องทำใจก่อนสักพัก ถึงจะบอกได้ว่ามันหอมหรือไม่หอม ส่วนตัวคุ้นชินแล้วก็จะบอกว่ามันหอม หอมรัญจวนใจดีเหลือเกิน
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวดีใช้ได้ ดูกลิ่นออกแนวดอกไม้ แต่ความแรงของกลับก็มากพอตัวอยู่
  • กลิ่นติดทนไหม? กลิ่นติดทนปกติที่ 4-5 ชั่วโมง แล้วกลิ่นค่อยๆ ลดความแรงลงเป็นแค่กลิ่นติดผิวอ่อนๆ
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะถ้าใช้ในปริมาณที่พอดี ด้วยแนวของกลิ่นดอกไม้กลิ่นแรง และแปลก อาจจะทำให้กลายเป็นกลิ่นเหม็นได้หากฉีดมากเกินไป

รวมแล้ว Florabellio เป็นน้ำหอมกลิ่นน้ำทะเล เค็ม แต่สดชื่น พร้อมด้วยกลิ่นดอกไม้หอมแปลกที่สามารถทำให้รักและเกลียดได้ไปในเวลาเดียวกัน และความแปลกที่สามารถรู้สึกถึงกลิ่นแตกต่างกันไปในแต่ละครั้งที่ใช้ ที่บางครั้งก็หอมดอกไม้ บางครั้งก็หอมพลาสติก บางครั้งก็นี่กลิ่นเกลือนี่นา ดังนั้นควรหาแซมเปิ้ลมาลองใช้ดีที่สุด หากไม่อยากลุ้นว่าชอบหรือไม่

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Eau Rose EDT

ยังคงอยู่ที่กลิ่นกุหลาบจากดิปทีค กลิ่นต่อมาคือ Diptyque Eau Rose เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ แนวธรรมชาติที่เปิดตัวเมื่อปี 2012 มีกลิ่นเด่นหลักๆ คือ กุหลาบมอญ กุหลาบโพรวองซ์ และลิ้นจี่

กลิ่นเปิดมาแบบกลิ่นหอมเบาๆ ของกุหลาบ หวาน มีเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นดูบอบบางน่าถนุถนอม หอมหวานใสนุ่มๆ กุหลาบในกลิ่นนี้ให้ความรู้สึกของกุหลาบสดสีชมพูที่ให้กลิ่นนุ่ม บางเบา กลิ่นไม่หวานฉ่ำ หรือเปรี้ยวคมๆ แบบกุหลาบแดง แค่มีกลิ่นอมเปรี้ยวเล็กๆ เหมือนกลิ่นของผลไม้อะไรสักอย่างแซมทำให้กลิ่นกุหลาบดูเต็มขึ้น น่าจะเป็นกลิ่นลิ้นจี่ละมั้ง ซึ่งกลิ่นมันให้ความรู้สึกคุ้นเคยมาก นึกไปนึกมาก็นึกได้ว่ามันเหมือนกับกลิ่น Paul Smith Rose ของ Paul Smith ที่ให้กลิ่นกุหลาบเบาๆ แนวเดียวกัน และมีกลิ่นหอมเย็นๆ แบบใบชา คล้ายกันด้วย แต่ของดิปทีคในโน๊ตไม่มีใบชาในกลิ่นนี้แปลกดี

  • กลิ่นหอมไหม? หอม สำหรับคนชอบกลิ่นกุหลาบแล้วมันหอมนุ่ม รู้สึกผ่อนคลาย แต่มันไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ความซับซ้อนของกลิ่นก็ไม่มี ได้แค่กลิ่นกุหลาบบางๆ ตลอดอายุของกลิ่น
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวดีใช้ได้ กลิ่นมันฟุ้งให้คนรอบข้างได้กลิ่นดีมาก ไม่ต้องเข้ามาใกล้ก็ได้กลิ่นแต่แค่ชั่วงชั่วโมงแรกนะ หลังจากนั้นกลิ่นก็จะลดลงไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
  • กลิ่นติดทนไหม? กลิ่นติดไม่ทนอย่างที่คิด เพราะกลิ่นมันเบา ใส รู้สึกจะแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแรกที่รู้สึกถึงกลิ่นลอยมา หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยจะได้กลิ่นแล้ว
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะ ใช้ได้ดีในสภาพอากาศร้อน กลิ่นเบา บาง กลิ่นใส หอมนุ่มละมุน

ก็เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบนั่นแหละ กลิ่นธรรมดาๆ เลยไม่มีอะไรแปลกสักนิด และเหมือนกับ Paul Smith Rose มากกว่า 80% ด้วย แต่ความต่างของมันก็คือราคา ที่ดิปทีคแพงกว่ามาก หากชอบกลิ่นนี้และมีงบจำกัดก็หยิบ Paul Smith ได้เลยขวด 100ml. สามารถหาได้แค่พันต้นๆ เท่านั้น

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Eau Capitale EDP

ขอเล่าความเป็นมาก่อนสักหน่อยว่ากลิ่นนี้มันหาซื้อยากมากๆ ไม่มีเว็บ เพจ หรือร้านไหนหิ้วมาขายเลย ต้องไปซื้อที่ Shop ในกรุงเทพฯ เท่านั้น ถามร้านประจำไปก็บอกว่าสั่งมาแล้วแต่ของยังไม่มา ดันมาติดหยุดโควิด19 อีก เลยเลิกตามหาไปสักพักแล้ว บังเอิญมาเจอโพสลงขายอยู่เมื่อเดือนก่อนตามที่เล่าในบล็อกไป เลยได้โอกาสเก็บมาอีกขวด กว่าจะได้มารอนานจนเลิกรอแล้วถึงจะได้ และเหมือนว่าดิปทีคจะออกรุ่นพิเศษที่ร่วมกับใครสักคนที่ญี่ปุ่นออกมาแล้วนะ ไม่รู้ใช่รุ่นของปี 2020 รึเปล่าต้องรอดูกันต่อไป

Diptyque Eau Capitale เป็นกลิ่นน้ำหอมที่เปิดตัวมาเมื่อปี 2019 ในปีนี้ออกเป็นคอลเล็คชั่นน้ำหอม Eau Capitale และเทียนหอม Paris en Fleur ที่ให้กลิ่นหอมของ กุหลาบ มะกรูด พัชชูลี และ พริกไทยสีชมพู ที่ใช้เป็นกลิ่นของ Paris เมืองหลวงของน้ำหอม สื่ออกมาบนขวดผ่านลายเส้นของตึก อาคาร สถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูไวที่เป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส

กลิ่นเปิดรู้สึกหอมเย็นเหมือนกลิ่นแป้ง แต่ก็ได้กลิ่นกุหลาบ ให้ความรู้สึกแห้งๆ เหมือนกลิ่นกุหลาบแห้งออกแนวฝุ่นแบบกลิ่นแป้ง ที่มีกลิ่นทึมๆ นวลๆ ของเครื่องเทศ น่าจะเป็นพัชชูลี ถ้าดูจากโน้ต ตามด้วยความซ่าของกลิ่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นพริกไทยสีชมพูละก็ คิดไปแล้วว่ากลิ่นมันซ่าเหมือนกานพลู เมื่อกลิ่นมารวมกันทำให้รู้สึกกลิ่นเหมือนดอกไม้แห้ง บุหงากลิ่นกุหลาบ รึจะเจาะจงหน่อยเหมือนกลิ่นแป้งหอมสมัยก่อน แป้งเภสัช ประมาณนั้น เป็นกลิ่นที่หอมเย็น อมหวานนิดๆ ไม่ติดเขียวแบบที่บรรยายในเว็บเลย กลิ่นให้อารมณ์หรูหรา มีสไตล์ ที่แสดงถึงความเป็นผู้ดีเก่าแบบคนฝรั่งเศส ตามธีมของรูปบนขวดที่เป็นการเฉลิมฉลองเมืองหลวงแห่งน้ำหอม

  • กลิ่นหอมไหม? หอม กลิ่นหอมแบบนุ่ม คลาสสิค แบบน้ำหอมวินเทจได้เลย กลิ่นไม่แรงไม่แน่น
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวค่อนข้างดี ไม่ถึงกับดีมากถือว่าเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างปลอดภัยถ้าบังเอิญมือหนักฉีดเยอะไป ลักษณะกลิ่นจะเป็นกลิ่นลอยรอบๆ ตัวในระยะแขนเรา
  • กลิ่นติดทนไหม? ติดทนใช้ได้เลย ฉีดเช้า บ่ายๆ ยังได้กลิ่นลอยมาอยู่
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? สามารถใช้ในอากาศร้อนได้ กลิ่นค่อนข้างโปร่ง ไม่แน่นเท่าไหร่ แถมเป็นกลิ่นแนวแป้งหอมด้วย น่าจะโอเค ถึงกลิ่นมันจะให้อารมณ์เมืองนอกอากาศเย็นๆ ก็เถอะ

ก็อยากบอกว่ากลิ่นนี้ก็หอมดี แต่ไม่ได้พิเศษ หรือโดดเด่นเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นน้ำหอมกลิ่นทั่วๆ ไปด้วยซ้ำ กลิ่นกุหลาบ พัชชูลี ที่ทึมๆ ไม่น่าสนใจเท่ากับกุหลาบฉ่ำๆ หรือพัชชูลีดาร์กๆ แบบของยี่ห้ออื่นเลย แต่ก็ชอบลายบนขวดของรุ่นนี้นะ ลายกุหลาบสีชมพูบนกล่องที่ได้เห็นกล่องมีสีสันเป็นครั้งแรกก็สวยมากด้วย ชอบมาก ให้อารมณ์น้ำหอมฝรั่งเศสสุดๆ อย่างว่าแพ็คเกจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แค่กล่อง หรือขวดสวยก็พอแล้ว

Diptyque Eau Capitale EDP 75ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque L’Ombre Dans L’Eau EDP

มาถึงกลิ่นดังของ Diptyque แล้ว L’Ombre Dans L’Eau ที่ชื่อกลิ่นอ่านยังไงก็ออกเสียงตามไม่ได้ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นธรรมชาติอีกกลิ่นที่ทางดิปทีคบอกว่าเป็นกลิ่นแรกๆ ที่เป็นกลิ่นดอกไม้ เป็นกลิ่นดอกกุหลาบบาน ผลแบล็คเคอเร้นท์ ที่มาทั้งใบและลูก ซึ่งก็เหมือนจะเป็นจริงอย่างว่า เพราะกลิ่นมันช่างแตกต่าง และโดดเด่นดีเหลือเกิน

กลิ่นเปิดมาตอนแรกหอมกุหลาบ กลิ่นเย็นๆ กลิ่นที่ตามมาคือกลิ่นเปรี้ยวแหลม เปรี้ยวแบบน้ำลายสอ ออกแนวเปรี้ยวแบบเราขยี้ใบมะขามอ่อน แต่ไม่ได้กลิ่นแบบใบมะขามนะเล่าถึงอารมณ์ของกลิ่นให้นึกตามเฉยๆ พร้อมความหอมของกุหลาบที่ติดเปรี้ยวฉ่ำๆ มาพร้อมกัน กลิ่นติดเขียวหน่อยๆ ด้วย เป็นกลิ่นที่หอมสดชื่น ตาสว่างในทันทีเลยละ เมื่อเริ่มแห้งความเปรี้ยวลดลงแต่ยังไม่หายไปไหนคลอไปกับกลิ่นกุหลาบสดจนจบอายุของกลิ่น กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกแบบนั่งริมบ่อน้ำกลางป่าเขียวขจี หลังฝนตก ลมพัดเอื่อยๆ พัดเอากลิ่นกุหลาบป่า พร้อมกับกลิ่นเบอร์รี่ป่ารสเปรี้ยวหอมสดชื่นติดมากับลมด้วย ซึ่งจิตนาการต่อจากภาพหลังขวดเลย เหลือแค่มีกิ่งวิลโลว่ กับในบ่อน้ำมีหงษ์ลอยมาเท่านั้นก็สมบูรณ์

  • กลิ่นหอมไหม? หอมน่ากินเลยละ แบบเอามาจิ้มพริกเกลือ กลิ่นคม สดใสมาก กลิ่นไม่แน่น ให้ความรู้สึกสดชื่นดีมาก
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กระจายตัวค่อนข้างดี กลิ่นแหลมแบบนี้ใครๆ ก็น่าจะได้กลิ่น
  • กลิ่นติดทนไหม? ส่วนตัวก็ยังคิดว่ากลิ่นใสแบบนี้ติดไม่ทนนะ อยู่ประมาณ 4 ชั่วโมง กลิ่นก็เริ่มจางแล้ว ซึ่งก็สมเหตุสมผลอยู่ ฉีดเติมช่วงบายๆ หน่อยก็สดชื่นดีไม่น้อย
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะอยู่ เป็นกลิ่นที่เรียกความสดชื่น สดใสได้ดี อากาศร้อนๆ ได้กลิ่นกลับรู้สึกมันหอมหวานซะงั้น ไม่เปรียบเหมือนตอนฉีดที่อากาศเย็นๆ

เป็นน้ำหอมกลิ่นที่ไปในโทนธรรมชาติม๊ากมากอีกกลิ่นหนึ่งที่ใครได้ลองก็ต้องตาลุกวาว ไม่ใช่เพราะชอบมากนะ เพราะความแปลกใจจากกลิ่นที่ระเบิดออกมาทั้งความเปรี้ยวและความหอมที่ไม่น่าจะคุ้นชินกัน

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Philosykos EDT+EDP+Solid Perfume

หลายๆ คนคงเคยได้ยินน้ำหอมกลิ่น ฟิกซ์ หรือ มะเดื่อฝรั่ง อันโด่งดัง กันมาบ้างแล้ว ซึ่งหนึ่งในกลิ่นที่ว่านั่นก็คือ Diptyque Philosykos กลิ่นนี้นี่แหละ กลิ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 1996 เป็นน้ำหอมกลิ่นธรรมชาติที่เขาว่ากันว่ากลิ่นมันทำให้รู้สึกถึง กิ่ง ก้าน ใบ ต้น และผล ของต้นมะเดื่อฝรั่งได้เลยทีเดียว และแน่นอนเป็นน้ำหอมกลิ่น Green Notes ที่โดดเด่นอีกกลิ่นที่มีทั้งคนคลั่งไคล้ และไม่ชอบกลิ่นแบบนี้มากมาย วันนี้จะเอาประสบการณ์การลองใช้มาเล่าให้อ่านกัน เผื่อมีคนแอบสนใจ แต่ก็บอกไว้ก่อนว่าในชีวิตจริงยังไม่เคยเจอต้นมะเดือฝรั่งจริงๆ กับเขาเลยจะเปรียบเทียบว่าเหมือนจริงแค่ไหนนั้นบอกไม่ได้แต่จะพยายามเทียบกับอะไรให้เข้าใจง่ายๆ แล้วกัน

กลิ่นเปิดมาเขียวสดใส เขียวจริงจัง เหม็นเขียวใช้ได้ เป็นกลิ่นเขียวที่อมเปรี้ยวเล็กๆ ให้อารมณ์ตัดกิ่งกระถิน ปอกเปลือกกิ่งไม้ แต่ไม่เชิงเหม็นเขียวอย่างเดียวมันมีกลิ่นอมเปรี้ยวและหอมนวลๆ อยู่ในกลิ่นด้วย กลิ่นนวล มัน ครีมๆ เหมือนกลิ่นมะพร้าวที่ทำให้กลิ่นมีความหวานมัน ลอยๆ อยู่ในกลิ่น ซึ่งกลิ่นเปรี้ยวนี้น่าจะมาจากกลิ่นใบมะเดื่อมั้ง ไม่เคยมีต้นมะเดื่อซะด้วยสิ ซึ่งกลิ่นผ่านมาสักพักแล้วยังคงเขียวสดใสแรงไม่ตกเลย จนมาช่วงกลิ่นเริ่มแห้งนี่แหละจะได้กลิ่นความหอมมันของมะพร้าวโดดเด่นขึ้นมาเหนือกลิ่นเขียว ทำให้กลิ่นมันกลมขึ้นเยอะเลย โดยตั้งแต่ต้นจนจบกลิ่นนี้มันให้ความรู้สึกสดชื่นมาก กลิ่นเขียวใส ที่ทำให้นึกถึงลมเย็นๆ กับต้นไม้เขียวๆ ได้ดีเลย (บรรยายกลิ่นจากแบบ EDP)

ความต่างระหว่าง EDT และ EDP นั้นก็ต่างกันไม่มาก ความเขียวยังคงเหมือนกัน เพียงแต่รู้สึกว่าแบบ EDT จะไม่เขียวอี๋และกลิ่นค่อนข้างน่าดมกว่า เป็นกลิ่นเขียวอมเปรี้ยวที่น่ากิน แบบกลิ่นผลไม้ได้กลิ่นแล้วเข็ดฟันกว่า กลิ่นเบากว่า และกลิ่นสดใสกว่ามาก โดยที่ EDP กลิ่นมันมีความเขียวและหนักแน่นนุ่ม ลึก กว่า แต่โดยรวมของกลิ่นยังคงอยู่ในโทนเดียวกันไม่แตกต่างแบบจำกันไม่ได้เลย ถามว่าชอบแบบไหน ขอบบอกว่าชอบแบบ EDT มากกว่า เพราะความใสมากกว่า และความเขียวน้อยกว่าแบบ EDP

แบบ Solid Perfume หรือ น้ำหอมแห้งนั้น กลิ่นจะออกไปทางหอมมัน ของกลิ่นมะพร้าวเป็นหลัก มีกลิ่นเขียวลอยเป็นพื้นหลังบางๆ แบบน้ำหอมแห้งกลิ่นค่อนข้างอ่อน น่าจะใช้แค่เป็นกลิ่นติดผิวเฉยๆ กลิ่นไม่ฟุ้งอะไร เนื้อน้ำหอมออกจะมันๆ แต้มแล้วดูมันวาวที่ผิวนิดหน่อย ไม่มีเหตุผลดีๆ ที่จะแนะนำให้ซื้อแบบน้ำหอมแห้ง เว้นแต่อยากได้แพ็คเกจโลหะ หนักๆ แบบฝาปิดเก๋ไก๋ ค่อยซื้อมา

  • กลิ่นหอมไหม? กลิ่นหอมนะหลังจากผ่านไปสักพัก แต่กลิ่นเปิดนี่เหม็นเขียวใช้ได้เลย แต่ก็รู้สึกสดชื่นดี
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวในระดับปกติ ที่คนรอบข้างสามารถรับรู้กลิ่นเขียวๆ ของเราได้ แต่หลังจากกลิ่นเขียวลดลงก็จะกลายเป็นกลิ่นที่อยู่รอบๆ ตัวเราแทน
  • กลิ่นติดทนไหม? ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยทนนะ ลองใช้ดูรู้สึกถึงกลิ่นแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น น่าจะเป็นเพราะกลิ่นนี้เป็นกลิ่นค่อนข้างใส เนื้อกลิ่นบาง และส่วนตัวเป็นคนเหงื่อออกง่ายมากเลยทำให้กลิ่นจางลงไปเร็ว ซึ่งความทนเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศแหละ
  • กลิ่นนี้เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะและอาจจะไม่เหมาะ สำหรับบางคนใช้กลิ่นนี้แล้วทำให้กลิ่นเข้ากับประเทศไทยมาก แต่สำหรับบางคนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกลิ่นตัวได้ ด้วยกลิ่นที่ออกไปทางเหม็นเขียวของกิ่งไม้ชัดเจน คนรอบข้างที่ไม่คุ้นเคยอาจจะว่าเรากลิ่นแปลกไป

เป็นอีกกลิ่นที่ไม่เชิงจะแนะนำให้ใช้งานเท่าไหร่ เพราะกลิ่นมันค่อนข้างธรรมชาติม๊ากมาก ใครมีแล้วชอบกลิ่นนี้ก็คงหาโอกาสใช้กันได้ตามสถานการณ์ละนะ ส่วนตัวใช้ฉีดหลังอาบน้ำก่อนเข้านอนช่วงหน้าฝน มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายดีมากๆ กับฉีดเวลาอยู่บ้านเวลาวันไหนอยากได้กลิ่นสดชื่นๆ บอกตามตรงว่ากลิ่นนี้ยังไม่เคยฉีดออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเลย กลัวความเหม็นเขียวของมันนี่แหละ

Diptyque Philosykos EDT 100ml.

Diptyque Philosykos EDP 75ml.

Diptyque Philosykos Parfum Solide 3.6g

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Volutes EDP

Diptyque Volutes กลิ่นนนี้ได้มาเพราะรู้มาว่าเป็นน้ำหอมกลิ่น Tobbaco หรือกลิ่นใบยาสูบ นั่นเอง ส่วนตัวชอบกลิ่นของใบยาสูบในน้ำหอมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่เจอ Tom Ford Tobacco Vanille อันนั้นมันช่างเป็นกลิ่นที่หอมหรูหรา ผู้ดี ดีเหลือเกิน Volutes นี้ได้ซื้อแบบแบ่งขายมาลองกลิ่น แล้วก็ถูกใจ เลยเป็นที่มาของขวดนี้แหละ

กลิ่นเปิดมามันหวานแบบกลิ่นเหล้าคลุ้งๆ เลย หรือบางคนก็ว่ามันเหมือนกลิ่นเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งกลิ่นแบบนี้น่าจะเป็นกลิ่นใบยาสูบ หรือ Tobbaco ที่ใครๆ พูดถึงกัน หอมหวานฉ่ำๆ ที่มีกลิ่นน้ำผึ้งคลอมาชัดเจน รู้สึกถึงกลิ่นควันฟุ้งๆ ฝุ่นๆ อยู่ในกลิ่นด้วย แต่กลิ่นโดยรวมยังหอมหวาน ฉ่ำ แนวกลิ่นแหล้าอยู่ ให้อารมณ์อยู่ในงานเลี้ยงที่มีกลิ่นแอลกอฮฮล์คละคลุ้ง คนสูบบุหรี่ งานเลี้ยงหรูๆ แบบนั้นเลย กลิ่นกลมกล่อม นัวๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่ม หรูหราดีมาก ใครชอบกลิ่นใบยาสูบที่ติดหวาน น่าจะชอบกลิ่นนี้ได้ไม่ยาก

  • กลิ่นหอมไหม? หอม หอมแบบอยากดมกลิ่นที่มือตลอดเวลา กลิ่นหวาน กลิ่นไม่แน่นจนเกินไป ให้ความรู้สึกหรูหรา
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กระจายตัวดีมาก แค่ขยับตัวก็รู้สึกถึงกลิ่นฟุ้งขึ้นมาตลอดเวลา
  • กลิ่นติดทนไหม? ความทนปกติ 4-5 ชม. บนผิว หลังจากนั้นกลิ่นจะเบาลงแต่ยังไม่หายไปไหนยกแขนดมยังได้กลิ่นอยู่ บางครั้งก็ติดอยู่ทั้งวันแล้วแต่สภาพอากาศ
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นมันเหมาะกับอากาศเย็นๆ แต่บ้านเราก็ฉีดได้ เพียงแค่กลิ่นช่วงปลายมันอาจเปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ จากหอมหรู เป็นหอมแบบติดฉุดหน่อยๆ ไปจนถึงกลิ่นเหมือนผ้าไม่ซักบ้างบางที

ใครชอบกลิ่นใบยาสูบไม่อยากให้พลาด Diptyque Volutes กลิ่นนี้เลย ใบยาสูบมาแบบหอมฉ่ำหวาน ไม่ขมไม่หืนด้วย และอยากบอกว่ากลิ่นนี้ให้ความรู้สึกหอม กลิ่นฉ่ำกว่าเมื่อฉีดบนผิวละ ฉีดบนผ้ากลับไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกลับให้กลิ่นแห้งๆ แค่ติดทนนานขึ้น

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Oud Palao EDP

Diptyque Oud Palao ขวดนี้เป็นน้ำหอม Diptyque กลิ่นแรกที่ซื้อ และขวดแรกที่ทำให้รู้จักและสนใจ Diptyque เป็นต้นมา เหตุผลที่ซื้อมาเพราะขวดสวย ดูโบราณดี ไม่รู้เรื่องกลิ่นเลยว่ามาเป็นกลิ่นอะไร หอมไหม เปิดกล่องน้ำหอมออกมาก็ตกใจว่ากลิ่นอะไรเนี่ย เหม็นจัง กลิ่นกาว หรือกลิ่นหมึกพิมพ์กล่อง เหม็นเปรี้ยวๆ หวานๆ จนลองฉีดดูเลยรู้ว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมนี่เอง เหม็นแบบนี้ใครจะใช้ละเนี่ย จับฉีดใส่ทิชชู่วางไว้ ลมพัดกลิ่นมาเรื่อยๆ ตลอดวันจนรู้สึกว่ากลิ่นมันก็หอมใช้ได้เหมือนกันนะ กลิ่นให้อารมณ์วินเทจ สมัยปู่ ย่า เลย ตอนนั้นรุ่น EDP เป็นกล่องกระดาษเล็กๆ เปิดหัวท้ายแบบปกติ ยังไม่ได้เป็นกล่องหรูเหมือนรุ่นใหม่ๆ และรู้สึกว่ารุ่นเก่าจะมีการฉีดกลิ่นนั้นๆ ไว้ในกล่องเพราะเปิดมาจะได้กลิ่นน้ำหอมนั้นๆ ก่อนเปิดฝาขวดอีก ครั้งนี้เลยจะเอากลิ่นนี้มาแนะนำให้อ่านกัน

กลิ่นเปิดมาแปลกมากสำหรับคำที่ไม่เคยได้กลิ่นไม้กฤษณา (Oud) มาก่อน ให้ความรู้สึกเหมือนท่อนไม้แห้งๆ ที่มีกลิ่นเปรี้ยวนิดๆ หวานแหลม พร้อมกับความนุ่มของกลิ่นไม้ที่ติดอยู่กับผิว มีความหอมแบบ ฝุ่น แบบแป้งหอม ในกลิ่นรู้สึกทั้งกลิ่นไม้ที่หอมหวานแปลกๆ กับกลิ่นหอมของกุหลาบที่เป็นกุหลาบแห้ง และรู้สึกว่าเหมือนบุหงาในบางที โดยที่เนื้อกลิ่นมันแน่น และหนัก อาจจะเรียกว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นแรงก็ได้ มันเป็นกลิ่นที่สามารถทำให้ขนลุกได้เลย สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้จักกลิ่นของ Oud โดยกลิ่นนี้ทำให้รู้สึกถึงน้ำหอมเก่า และความรู้สึกแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะกลิ่นไม้ Oud มันเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ มีอายุ ดูมีประสบการณ์ และมาพร้อมกับกลิ่นกุหลาบที่ลอยอยู่รอบๆ มันยิ่งรู้สึกเหมือนดูหนังวินเทจย้อนยุคไปใหญ่

  • กลิ่นหอมไหม? ถ้าคุ้นเคยกับกลิ่นแล้ว ก็ หอม แต่ถ้าได้กลิ่นแรกๆ อาจจะวิ่งหนีไปเลย ลองเปิดใจแล้วก็จะรู้สึกชอบเอง แต่สำหรับคนชอบกลิ่นใสๆ เบาๆ แบบน้ำหอมสมัยใหม่เปิดใจยังไงก็อาจจะไม่ชอบ
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? เต็ม 10 คะแนน กระจายตัวดีแบบดีเกินไปจนบางทีอาจทำร้ายคนอื่นได้
  • กลิ่นติดทนไหม? กลิ่นนี้กลิ่นติดผิวทนดีมาก เช้าถึงเย็น ยิ่งฉีดบนเสื้อกลับบ้านไปถอดเสื้อแขวนไว้วันรุ่งขึ้นยังได้กลิ่นโชยมา
  • กลิ่นนี้เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? ตอบยาก กลิ่นมันแรง แน่น ออกไปทางฉุน แต่ยังไงก็ใช้ได้แค่ลดจำนวนสเปรย์ กดสเปรย์เบาๆ เป็นจุดๆ ก็โอเค ถ้าชอบซะอย่างใช้ได้อยู่แล้ว แต่ระวังเวลาเหงื่อออกกลิ่นมันอาจจะมีกลิ่นสาบแปลกๆ เกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ที่ได้ลองมา

สรุปว่ากลิ่นมันเหมือนน้ำหอมโบราณ ให้ความรู้สึกเก่า โบราณ แอบเชยไปหน่อยด้วยซ้ำ หากจะใช้และคุณอายุไม่มาก ตัวกลิ่นค่อนข้างเหมาะกับคนที่มีอายุหน่อยปลายๆ 30 ไปแล้ว แต่อย่างที่บอกย้ำไปหลายครั้ง ถ้าชอบกลิ่นก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร ถ้าสนใจแต่ลังเลไปหาซื้อแบบแบ่งขายมาลองก่อนไม่แนะนำให้ซื้อแบบไม่ลองกลิ่น

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Eau de Minthe EDP

Diptyque Eau de Minthe กลิ่นนี้ออกมาเมื่อปี 2018 เป็นน้ำหอมที่กลิ่นหลักเป็นกลิ่นมินท์ สงสัยทำไมต้องมินท์ มินท์มันเป็นกลิ่นของทุกๆ อย่างในปัจจุบันทั้งน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน สเปรย์ปรับอากาศ ลูกอมดับกลิ่นปาก ไอครีม อะไรอีกมากมาย แล้วเราจะยังต้องการน้ำหอมกลิ่นมินท์อีกจริงเหรอ? ครั้งนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ใช้กลิ่นนี้ให้อ่่านกัน

ความรู้สึกแรกที่ได้ลองฉีดคือ ได้กลิ่นมิ้นท์เป็นอย่างแรก เป็นกลิ่นที่สดชื่น แบบแปรงฟันเสร็จใหม่ๆ กลิ่นติดเขียว เย็นซ่า เป็นกลิ่นมิ้นท์แบบมืดหม่น พอผ่านไปสักพักกลิ่นจะมีความนุ่มมากขึ้นแต่ยังคงโทนกลิ่นสดชื่นอยู่ กลิ่นนี้หากดมผ่านๆ จะรู้สึกว่ามันเหมือนกลิ่นยาสีฟันดาร์ลี่ หรือพวกน้ำหอมดับกลิ่นทั่วไป จะต้องลองฉีดกับตัวถึงจะรู้สึกถึงความแตกต่างของกลิ่นนนี้ กับกลินผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะกลิ่นนี้มันมีความดาร์ก นุ่ม มีความซับซ้อนของกลิ่นมากกว่ากลิ่นมินท์ทั่วไป กลิ่นมันให้ความลึกลับของใบไม้สีเขียวที่กระจายความเย็นซ่าออกมาตลอดเวลา ให้ความสดชื่น พร้อมกับความนุ่มที่เป็นฐานของกลิ่น

  • กลิ่นหอมไหม? หอม ถ้าชอบกลิ่นยาสีฟัน กลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น ก็น่าจะชอบ แต่ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นมันธรรมดาเหมือนกลิ่นมินท์อื่นๆ ทั่วไป ต้องตั้งใจดมจริงๆ ถึงจะรู้ว่ามันแตกต่าง แต่ก็ยากเกิน คนอื่นคงไม่มีเวลามานั่งดมเหมือนเจ้าตัวที่ฉีดหรอก
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กระจายตัวดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรเพราะคนอื่นคงคิดว่าเราไปแปรงฟันมาเฉยๆ
  • กลิ่นติดทนไหม? กลิ่นติดทนปกติ 4-5 ชั่วโมง หลังจากนี้ก็จะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดผิว
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะ และเหมาะกับทุกสภาพอากาศ เพียงแต่กลิ่นไม่หนักใช้งานอากาศร้อนๆ กลิ่นอาจติดไม่ทนมาก แต่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้เมื่อฉีดละ

กลิ่นนี้อยากแนะนำให้ไปลองซื้อแบบแบ่งขาย หรือแบบทดลองมาลองกลิ่นก่อนเลย หากยังไม่เคยได้ลองกลิ่นมาก่อน หากซื้อมาแบบไม่รู้เรื่องอะไรอาจจะผิดหวังเอาได้ เอาจริงๆ กลิ่นมันเหมือนยาสีฟัน กับสเปรย์ดับกลิ่นมาก ใครจะอยากกลิ่นเหมือนห้องน้ำตลอดเวลากัน แต่ถ้าอยากซื้อเพราะขวดสวยก็ซื้อได้เลยเพราะชอบขวดกับภาพลายเส้นบนขวดของกลิ่นนี้เหมือนกัน

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Tam Dao EDT+EDP

Diptyque Tam Dao เป็นกลิ่นที่มีชื่อเสียงในเว็บบอร์ดของไทยอยู่พักนึง เคยเปิดอ่านเจอในสมัยที่ยังเข้าเว็บบอร์ดนั้น แต่ตอนนี้ไม่ได้เข้าไปแล้วไม่รู้ตอนนี้ยังมีคนพูดถึงกลิ่นนี้อยู่รึเปล่า มันเป็นกลิ่นหอมอีกแบบที่ดมเองอาจไม่ชอบ แต่มีคนชักจูงก็จะทำให้รู้สึกหอมขึ้นมาได้ โดยขวดนี้ที่มีน้ำเหลือก้นขวดนี่ไม่ใช่ว่ามันหอมแล้วใช้จนหมดขวดนะ ได้มาแบบน้ำหอมก้นขวดจากร้านแบ่งขายเฉยๆ

Tam Dao กลิ่นที่สร้างจากความทรงจำในวัยเด็กของผู้ปรุง (Yves Coueslant) จากกลิ่นไม้จันทร์หอม (Sandalwood) จุดบูชาที่วิหารในป่าศักดิ์สิทธิ์แถบ Indochina ที่ให้ความหอมนุ่มละมุนเหมือนกำมะหยี่ (Indochina – เหมือนว่าจะเป็นชื่อเรียกโซนประเทศอนานิคมของฝรั่งเศษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยก่อน ปัจจุบันคือ กัมพูชา เวียดนาม และ ลาว *เป็นความเข้าใจส่วนบุคคลหากผิดพลาดสามารถแจ้งได้ครับ*) นำเสนอโดยกลิ่น ไม้จันทร์หอม จากเมือง Mysore และความสดชื่นจากต้นไซปรัส และ ดอกเมอร์เทิล* (*EDT.)

อ้างอิง https://www.diptyqueparis.com/

ความรู้สึกแรกที่ได้กลิ่นเลยคือ มันเป็นกลิ่นไม้หอมชัดเจน กลิ่นไม้เปียกๆ ติดขม แต่ก็ออกแนวกลิ่นแป้งๆ ด้วย เป็นกลิ่นที่หอมแห้งๆ แหลมๆ จนกลายเป็นกลิ่นแผ่นไม้ที่เปียกๆ พร้อมกับความแห้งนวลแบบแป้งหอมในตอนท้าย ที่มีติดกลิ่นเฝื่อน และขม ฉุนจมูกอยู่บ้าง อันนี้เป็นกลิ่นที่รู้สึกบนผิวนะ ถ้าฉีดบนผ้ากลิ่นจะรู้สึกแค่กลิ่นแผ่นไม้เปียกๆ ออกแนวตู้ไม้เปียกน้ำที่เปิดมาแล้วเจอกันพุ่งเข้ามาหาเราแบบนั้นแหละ แล้วก็กลายเป็นกลิ่นแนวแป้งหอมนวลๆ ไปเลย

ความต่างของกลิ่นระหว่าแบบ EDT. และ EDP. นั้นเรียกว่าไม่ต่างกันมาก อารมณ์กลิ่นเหมือนกันแทบจะแยกไม่ออกตามประสบการณ์อันน้อยนิดของบล็อก รู้สึกแค่ว่าแบบ EDT. กลิ่นจะค่อนข้างโปร่ง และใสกว่า และกลิ่นเบากว่า EDP มากๆ ถ้าอยากได้กลิ่นเข้ม และหนักหน่อยให้ไป EDP เลย

  • กลิ่นหอมไหม? หอม ส่วนตัวว่าหอม ถึงครั้งแรกที่ได้กลิ่นแล้วคิดว่าน้ำหอมอะไรเนี่ยกลิ่นอับเหมือนตู้ไม้เก่า แต่ก็โดนชักจูงง่ายเลยรู้สึกว่ามันหอมไปแล้ว
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กระจายตัวปกติ ไม่ถึงกับดี แค่เดินผ่านมาใกล้ๆ ถึงจะได้กลิ่น กลิ่นตีขึ้นมาให้รู้สึกถึงบ้างให้รู้ว่ายังอยู่
  • กลิ่นติดทนไหม? บนผิว 4-5 ชั่วโมง พอได้ บนผ้านานกว่าหน่อยเกือบๆ หมดวัน แต่ฉีดเติมช่วงบ่ายสักครั้งโอเคเลย
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? ใช้ได้ในสภาพอากาศร้อน แต่ต้องคุมจำนวนฉีดดีๆ เพราะกลิ่นไม่ฟุ้ง ไม่แรง อาจจะเผลอฉีดเยอะเกินไปได้ อย่าลืมว่ากลิ่นหลังจากแห้งแล้วมีความฉุนบ้างเล็กน้อย

ซึ่งกลิ่นหลักๆ ที่โดดเด่นของกลิ่นนี้ คือ Sandalwood หรือว่า ไม้จันทร์หอม ที่รีวิวต่างประเทศพากันบอกว่ากลิ่นมันออกไปทางกลิ่นสังเคราะห์ซะมากกว่าด้วย ซึ่งตัวบล็อกก็ไม่รู้อีกแหละว่าไม้จันทร์หอมกลิ่นเป็นยังไง กลิ่นสังเคราะห์ไม่ก็ไม่แน่ใจเพราะกลิ่นดูปกติดี แค่เอามาเล่าให้อ่านกันเฉยๆ ว่ามันหอมไหม

Diptyque Tam Dao Eau de Toilette

Diptyque Tam Dao Eau de Parfum

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Fleur De Peau EDP

Diptyque Fleur De Peau กลิ่นนี้ไม่อยากเอามาเล่าเลย เพราะเป็นกลิ่นน้ำหอมของ Diptyque อีกกลิ่นที่บรรยายความรู้สึกไม่ออก มันหอม กลิ่นเบาสบาย น่าหลงใหล แต่นึกไม่ออกว่าจะบรรยายยังไงดี

กลิ่นเปิดมาหอมเย็น สบายจมูก กลิ่นหอมไม่หวานแต่รู้สึกถึงดอกไม้ กลิ่นเบา ออกแนวแป้งหอม เป็นแป้งหอมแบบสมัยใหม่กลิ่นไม่โบราณ เป็นกลิ่นที่ทำให้นึกถึงกลิ่นหอมสะอาดหลังอาบน้ำซึ่งกลิ่นมันจะหอมอบอวลแบบรู้สึกดี กลิ่นไม่แรงแต่กลิ่นก็ไม่อ่อนเกินไป

  • กลิ่นหอมไหม? หอม หอมอ่อนๆ กลิ่นไม่แรงไม่ฉุน ดูจากปริมาณน้ำหอมในขวดก็น่าจะรู้กลิ่นนี้ฉีดบ่อยกว่ากลิ่นอื่น
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กระจายตัวมาตรฐาน ไม่ได้ดีมากเพราะกินเบา เป็นกลิ่นที่จะได้กลิ่นเมื่อเดินผ่านหรือเข้ามาใกล้
  • กลิ่นติดทนไหม? อาจจะคิดว่าไม่ทนเพราะความเบาของกลิ่นที่ต้องเข้าใกล้ถึงจะรู้สึก แต่มันก็อยู่ติดทนทั้งวันนะถ้าฉีดบนผ้าขนาดเอาเสื้อไปซักแล้วกลิ่นยังติดอยู่เลย แต่กลิ่นบนผิวแปลก จากไปตั้งแต่ 3-4 ชั่วโมงแรกแล้ว
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? ใช้ได้แน่นอนกลิ่นนี้ฉีดได้ทุกสภาพอากาศ คิดว่ากลิ่นไม่ได้ทำให้นึกถึงฤดูอะไรเป็นพิเศษ แค่รู้สึกถึง “ความสะอาด” เฉยๆ

ลองใช้มาสองสามวัน กลับมาเขียนความรู้สึกก็ยังไม่รู้จะเล่าอะไรอยู่ดี เอาเป็นว่าสำหรับความรู้สึกที่สามารถบอกได้ถึงกลิ่นนี้คือ กลิ่นสะอาด กลิ่นเบา กลิ่นสุภาพ เป็นทางเลือกของคนที่อยากได้กลิ่นสะอาดๆ อีกกลิ่นนึงเลย

63-10-03 : มาเพิ่มความเห็นอีกสักหน่อย กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกแบบแป้งหอม คล้ายแป้งเด็ก หอมเย็น ใส แต่ก็มีความนวลในช่วงปลายกลิ่น ในกลิ่นนอกจากความหอมเย็นแบบเคลิ้มๆ นั้นแล้ว พอกลิ่นแห้งไปจะมีกลิ่นหอมนวลที่บางครั้งก็นวลจนแสบจมูกแบบกลิ่นของมักส์ที่ไม่ใช่มักส์กลิ่นอบอุ่นนะเป็นมักส์แบบหอมมันเย็นๆ อบอวลบนผิวแบบนั้นจนจบกลิ่น เป็นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสะอาด ผ่อนคลาย สบายชิลๆ ได้กลิ่นทีไรก็รู้สึกดีตลอดเวลา

เรื่องความทนของกลิ่นหลายๆ คนอ่านบล็อกมาแล้วที่บอกว่ากลิ่นอ่อนและอาจจะติดไม่ทนนั้นสบายใจได้แค่บนผิวที่กลิ่นจะติดไม่ทนยิ่งถ้าเหงื่อออกมาประจำอย่างตัวบล็อกเองแล้ว แก้ได้โดยฉีดบนเสื้อแทนรับรองติดฟุ้งตลอดวันบางวันเอาผ้าไปซักแล้วกลิ่นยังอยู่ให้รู้สึกเลย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Vetyverio EDP

Diptyque Vetyverio edp กลิ่นนี้เป็นน้ำหอม Diptyque กลิ่นแรกที่ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ได้ ด้วยกลิ่นเปิดที่เขียวเอียนๆ บอกไม่ถูก ลองฉีดแล้วก็ได้แต่หันหน้าหนีอยากจะล้างออกซะเดียวนั้น จนมาอ่านโน๊ตในเว็บถึงรู้ว่ากลิ่นแบบนี้เป็นกลิ่นพวกหญ้าแฝก อย่างที่รู้กันบล็อกนี้ซื้อน้ำหอมเพราะขวดสวยอย่างเดียว เลยไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นน้ำหอมกลิ่นอะไรแนวไหน แต่ก็เสียดายอยากเอามาใช้ประโยชน์เลยทำใจเอากลับมาลองอีกครั้ง แล้วจะมาเล่าให้อ่านกัน เผื่อเวลาผ่านไปอาจจะมีอะไรดีขึ้นก็ได้

ความรู้สึกแรกเมื่อได้กลิ่นคืน เขียว เปียก ชื้น กลิ่นเหมือนถั่วเปียกๆ มากกว่าหญ้าแฝก เป็นกลิ่นเขียวที่สด ฉ่ำ คม มีความอมหวานเอียนๆ ในความเขียวของกลิ่น พอกลิ่นเขียวเริ่มจางลงจะได้กลิ่นหอมเหมือนเครื่องเทศซ่า และให้ความรู้สึกอบอุ่น ฟุ้งๆ อยู่ในกลิ่น แต่ยังคงมีกลิ่นหญ้าแฝกนำอยู่ตลอด ถ้าเทียบดูจากโน๊ตจะมีกลิ่นผลไม้พวกส้ม ดอกไม้อยู่ด้วย ส่วนตัวไม่รู้สึกถึงเท่าไหร่แยกไม่ออก อธิบายให้เห็นภาพ คือ เดินไปในดงหญ้าคาข้างทางหลังฝนตก พื้นที่ชนบทดินลูกลัง ห่างไกลความเจริญ พื้นดินแฉะๆ แล้วเราก็เหยียบต้นหญ้าไปด้วย มันเป็นกลิ่นเขียวของต้นหญ้าที่สดชื่น และกลิ่นดินเปียกๆ กลิ่นความชื้นในอากาศหลังฝนตก แบบนั้นเลย

  • กลิ่นหอมไหม? ตอนนี้ก็อยากจะบอกว่าหอม แต่ก็ไม่มั้่นใจ เป็นกลิ่นที่ไม่กล้าใช้ฉีดออกข้างนอกจริงๆ กลัวคนอื่นจะอึดอัด เพราะครั้งแรกที่ได้กลิ่นเราก็เกือบจะอ้วกเหมือนกัน
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวค่อนข้างดี ไม่เวอร์ เป็นกลิ่นที่คนน่าจะทักถามว่ากลิ่นอะไรมากกว่า
  • กลิ่นติดทนไหม? มาตรฐาน 4-5 ชั่วโมง แนะนำฉีดบนเสื้อยืดกลิ่นได้ยาวนานมาก แต่เสื้อสีเข้มหน่อยนะเพราะน้ำหอมมีสี
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? หน้าร้อนก็ใช้ได้นะ กลิ่นมีความฉุ่นนิดๆ ฉีดเบามืดน่าจะดี ส่วนตัวว่ามันใช้ตอนฝนตกน่าจะดีเพราะอารมณ์มันให้ อากาศเย็นไม่แน่ใจที่ไทยยังไม่มีฤดูหนาวจริงๆ ให้เลอง

หลังจากลองใช้ล่าสุดแล้ว อยากบอกว่าก็ยังลังเลที่จะบอกว่่ามันหอมหรือเปล่า เพราะกลิ่นหญ้าแฝกมันเอียนจริงๆ ไม่เหมือนกับยี่ห้อไหนเลย ที่คิดเอา Diptyque Vetyverio กลับมาลองเพราะไปลอง Eau Sauvage Parfum ของ Dior มาแล้วรู้ทันทีว่ามันเป็นกลิ่นหญ้าแฝกนำเหมือนกัน แต่กลิ่นมันไม่เขียวสดเท่าของ Diptyque มันนุ่มละมุนกว่า เลยคิดว่าถ้าฉีด Diptyque ไว้นานหน่อยอาจจะหอมคล้ายกัน แต่ไม่เลย ของ Diptyque กลิ่นเขียวสดพร้อมหวานเอียนๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเลย กลิ่นนี้ต้องไปลองเองว่าชอบไหม ขอให้ไปลองก่อน

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Tempo EDP

วันนี้จะมาลองน้ำหอม Diptyque กลิ่น Tempo กลิ่นนี้ได้มานานแล้วแต่บอกตรงๆ ว่าลองกลิ่นแล้วไม่กล้าเอามาใช้ เพราะกลิ่นมันแปลก และกลิ่นแรงมากเลย กลิ่นมันเขียว ขม เอาเก็บเข้าตู้วางโชว์เฉยๆ ผ่านไปหลายเดือนไปผจญภัยกับน้ำหอมมามากมาย พอเริ่มมีประสบการณ์กลิ่นบ้างนิดหน่อยก็กลับมาลองดม Tempo อีกครั้ง ครั้งนี้รู้สึกแปลกไปจากครั้งแรกที่ลอง กลิ่นมันยังคงให้ความรู้สึกเป็นกลิ่นเขียว เย็น กลิ่นติดขมหน่อยๆ แต่ก็นุ่ม รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เอามาลองใช้ประจำวันมา 1 อาทิตย์ เป็นยังไงก็จะมาเล่าให้อ่านกัน

Tempo เป็นน้ำหอมกลิ่นแนว Woody (กลิ่นไม้หอม) โดยกลิ่นหลักจะเป็นกลิ่นจาก Patchouli (แพทชูลี) ที่ไม่ใช่ไม้เนื้อแข็ง แต่เป็นกลิ่นจากน้ำมันสกัดจากใบของมันต่างหาก ความรู้สึกแรกนั้นรู้สึกถึงใบไม้แห้ง กลิ่นเขียวๆ แห้งๆ นึกถึงตอนเราเดินไปใต้ต้นขี้เหล็กที่มีใบร่วงเต็มพื้น และอาจจะเหมือนกลิ่นท่อนไม้ชื้นๆ ที่ได้กลิ่นเวลาเดินผ่าน กลิ่นนุ่มเย็น ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง มีกลิ่นนุ่มๆของอะไรไม่รู้แทรกมาให้ได้กับคู่กับกลิ่นแห้งๆ เขียวๆ กลิ่นหลัก ทำให้มันกลมกล่อมขึ้น และระหว่างวันกลิ่นไม่เปลี่ยนไปจากนี้เท่าไหร่ด้วย ภาพรวมของกลิ่นเหมาะกับผู้ชายและผู้หญิง เหมือนจะเทไปทางเป็นน้ำหอมผู้ชายมากกว่า

  • กลิ่นหอมไหม? แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนตัวคิดว่าหอม ครั้งแรกอาจจะไม่หอม แต่พอเวลาผ่านไปกลับรู้สึกหอม กลิ่นดูดี ดูภูมิฐาน ให้่อารมณ์คนมีอายุมีประสบการณ์
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? กลิ่นกระจายตัวดี ไม่ถึงกับดีมาก แค่ชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกที่กลิ่นกระจายดี กลิ่นน้ำหอมเข้มนะแต่ไม่กระจายมากเท่าไหร่
  • กลิ่นตินทนไหม? กลิ่นติดทนอยู่ได้ทั้งวัน แต่จะเป็นกลิ่นรอบๆ ตัวซะมากกว่า
  • กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? ไม่รู้ว่าเหมาะไหม แต่ใช้งานในอากาศร้อนได้ กลิ่นเหมือนจะเป็นน้ำหอมกลิ่นฉุนแต่มันเป็นกลิ่นแบบเย็นจมูก ฉีดสเปรย์ไม่ต้องเยอะก็ได้กลิ่นหอมกำลังดีแล้ว

เป็นกลิ่นที่ดูแล้วน่าจะใช้ยากแต่จากการลงใช้งานจริงกลิ่นไม่ได้หนัก ไม่ได้แน่นเหมือนตอนลองดมที่ขวด กลิ่นกลับหอมเย็นโปร่งสบาย ช่วงที่ลองใช้งานเป็นฤดูร้อนก็ไม่ได้ฉุนอะไร ออกจะรู้สึกสดชื่นดีด้วยซ้ำที่ได้กลิ่น แต่อย่างว่าตัวกลิ่นไม่ค่อยจะเหมาะกับวัยรุ่นหรือนักเรียน ถ้าจะมองก็มองเป็นกลิ่นคนทำงานวัย 30+ ซะมากกว่า

Diptyque Tempo EDP 75ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque Eau Des Sens EDT

ดิปทิีคกลิ่นนี้ได้กลิ่นครั้งแรกทำไมมันรู้สึกเหมือนกลิ่นสเปรย์ดับกลิ่นยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะด้วยความมันเป็นกลิ่นแนวส้มจ๋าเลยละมั้ง มันเลยทำให้เกิดความรู้สึกไม่ชอบกลิ่นทั่วๆ ไปแบบนี้ขึ้นมาแต่ด้วยลองเปิดใจฉีดใช้งานดูสักพัก ดันเกิดชอบขึ้นมาซะงั้น มันเลยเป็นที่มาของขวดนี้ละ

กลิ่นเปิดแรกมันให้ความรู้สึกของส้ม ส้มติดขมหน่อยๆ แต่มันรู้สึกสดชื่น แอบคล้ายกลิ่นสเปรย์ดับอากาศด้วย กลิ่นมันเหมือนกลิ่นแนวส้มสังเคราะห์เพราะด้วยความติดขมหน่อยๆ ของกลิ่น แต่ในความขมจะรู้สึกถึงความหวานของส้มในนั้นด้วย บางครั้งก็เหมือนได้กลิ่นดอกไม้สีขาวอ่อนๆ แทรกมาเป็นระยะๆ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลไปอีก กลิ่นให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่นเหมือนพึ่งอาบน้ำใหม่ๆ บางทีก็นึกถึงโรงพยาบาลเวลาได้กลิ่นเลย

กลิ่นน้ำหอมของ Diptyque เป็นกลิ่นที่คงเส้นคงวากลิ่นเปิดยังไงก็ยังเป็นกลิ่นแบบนั้นตลอดอายุของกลิ่น กลิ่นไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่นัก และกลิ่นก็ยังคงออกแนวกลิ่นธรรมชาติมาก ไม่เหมือนน้ำหอมยี่ห้ออื่นที่กลิ่นผสมกันจนเป็นกลิ่นใหม่ๆ จนแยกกลิ่นไม่ได้แล้ว แต่ Diptyque นี้ใครดมก็สามารถแยกกลิ่นและรู้สึกถึงกลิ่นเด่นๆ ของกลิ่นนั้นได้ง่ายด้วย

  • กลิ่นหอมไหม? ดมครั้งแรกอาจส่ายหัว ลองเปิดใจจะพบว่ากลิ่นมันหอมมาก หอมธรรมชาติ สดชื่น สูดกลิ่นแล้วรู้สึกชื่นใจเลยละ
  • กลิ่นกระจายตัวดีไหม? ค่อนข้างดีเลย ไม่มากไปกลิ่นกระจายให้คนรอบข้างได้กลิ่นชัดเจน แต่ไม่รุนแรง
  • กลิ่นติดทนไหม? ค่อนข้างมาตรฐานทั่วๆ ไป 4-5 ชั่วโมง หลังจากนี้จะกลายเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดตัว แต่ถ้าฉีดกับเสื้อกลิ่นก็อยู่นานขึ้นนะ
  •  กลิ่นเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราไหม? เหมาะนะ กลิ่นสดชื่น ใส โปร่งสบาย อากาศร้อนหน่อยกลิ่นกำลังดี กลิ่นเหมาะกับทุกคน แค่ชอบก็ฉีดได้ กลิ่นส้มหอม กับดอกไม้หอมๆ สดชื่น เหมือนอยู่ในสวนส้มเลยละ

สำหรับช่วงฤดูร้อนของบ้านเรานี้กลิ่นที่อยากจะแนะนำก็คือ Diptyque Eau Des Sens กลิ่นนี้นี่แหละฉีดแล้วนึกถึงเสื้อฮาวาย แดดสดใส เดินเล่นตามชายหาด/หรือภูเขาก็ได้ ลมพัดเย็น แวะนั่งพักริมชายหาดใกล้สวนส้มที่ลมพากลิ่นส้ม และดอกส้มจากสวนลอยมาเตะจมูก ผ่อนคลายสุดๆ…

Diptyque Eau Des Sens EDT 50ml.

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

Diptyque EAU DUELLE Eau De Toilette + Eau de Parfume

น้ำหอมกลิ่นแรก ยี่ห้อแรก ที่จะเอามาเล่าให้ฟังเป็นน้ำหอมจากยี่ห้อ Diptyque (ดิปทีค) เพราะเป็นยี่ห้อที่ทำให้เริ่มชอบน้ำหอม และซื้อน้ำหอมมาเก็บสะสม ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อที่เขาว่าเป็นน้ำหอม Niche หรือ น้ำหอมนิช ตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่ามันหมายถึงอะไร ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ได้น้ำหอมจากแบรนด์เสื้อผ้าที่ขายทั่วไป เพราะ Diptyque ทำมาหลายอย่างจนมีชื่อเสียงด้านเทียนหอม เครื่องหอมที่คุณภาพดีราคาสูงนั่งเอง จุดเด่นของน้ำหอมยี่ห้อนี้คือกลิ่นที่เป็นธรรมชาติ และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ยี่ห้อหนึ่งเลย

EAU DUELLE (โอ เดรเรย์) เป็นกลิ่นที่เลือกมาเล่าครั้งนี้เป็นกลิ่นที่ชอบที่สุดของยี่ห้อนี้ เป็นกลิ่นที่เลือกเอามาใช้ประจำวัน ทุกๆ วันอยู่ช่วงนึงเลย EAU DUELLE เป็นน้ำหอมกลิ่นโทนตะวันออก (Oriental Notes) ที่มีกลิ่นเครื่องเทศ กลิ่นวนิลา ให้กลิ่นหอมนวลๆ หวานวนิลาที่แห้งๆ กับกลิ่นเครื่องเทศเย็นซ่ามาตัดนิดหน่อย ทำให้ตอนแรกที่ได้ลองกลิ่นมันเหมือนลังกระดาษเปียกฝนยังไงอย่างนั้นเลย เป็นกลิ่นเปียกๆ แหลมๆ ตอนแรกที่ดมทำจมูกไม่ได้กลิ่นไปเลย แบบดมใกล้แค่ไหนก็ไม่ได้กลิ่น เลยคิดว่ามันเป็นน้ำหอมที่กลิ่นอ่อนมาก ต้องเอาดมใกล้ๆ ถึงจะพอได้กลิ่นบ้าง แต่พอลองเอามาฉีดเล่นๆ สักสองสามครั้งเพราะเสียดาย อยู่ดีๆ กลับได้กลิ่นหอมที่ฟุ้งกระจาย หอมละมุนมาก หอมแบบหันไปหาว่ากลิ่นอะไร จนมาเจอต้นตอที่เสื้อของตัวเองที่ฉีดเล่นๆ ทิ้งไว้นั่นเอง อ้อ ตอนที่ลองกลิ่นใช้แบบ EDP มาลองตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อแบบ EDT และกลิ่นนนี้เป็นกลิ่นที่หลายๆ คนชมเวลาใช้ว่าหอมดี หอมแปลก ไม่เหมือนกลิ่นน้ำหอมทั่วไป แค่ได้ยินก็ยิ้มกว้างเลยละ

  • กลิ่นหอมไหม? หอม หอมแบบสุภาพ กลิ่นหอมนวลจากกลิ่นวนิลา และตัดด้วยกลิ่นซ่าของเครื่องเทศ ให้ความรู้สึกเคลิมได้ดี ผ่อนคลาย
  • ความกระจายตัวของกลิ่นนั้นดีมาก ยิ่งเหงื่อออกด้วยแล้วกระจายตัวดีเลย
  • ความทนของกลิ่นนั้นประมาณ 5-6 ชั่วโมง ++ เลย ฉีดตอนเช้า เลิกงานยังมีกลิ่นฟุ้งให้รู้สึกได้ แต่ฉีดสักครั้งก่อนกลับเรียกว่าหอมกำลังดีตอนกลับบ้านเลย
  • เหมาะกับฉีดตอนไหน ส่วนตัวคิดว่าฉีดได้ทุกฤดู เพราะตัวกลิ่นไม่ฉุน ไม่ได้กลิ่นแรงอะไร ปลอดภัยสำหรับฤดูร้อนถ้าคุมจำนวนสเปรย์นะ ฉีดไปทำงาน ไปเรียน ไปทำอะไรก็ฉีดไป ไม่ได้คิดมากเรื่องสถานที่ฉีดเพราะชอบกลิ่นครับ

ความแตกต่างของกลิ่นระหว่างกลิ่นแบบ Eau De Toilette และแบบ Eau de Parfume นั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่ หรือจะว่าไม่ต่างกันเลยก็ได้ ความหอม ลักษณะของกลิ่นรู้สึกได้ว่ามันคล้าย-เหมือนกัน รู้สึกถึงแค่ความเข้มของกลิ่น การกระจายตัว และความทนของกลิ่นที่ลดลงไปตามความเข้มข้นนะคิดว่างั้น เพราะจากที่ใช้ก็ไม่ได้สังเกตว่ามันต่างกันมากมายจนสังเกตได้

ด้วยเพราะความชอบกลิ่นนี้มาก จากเดิมที่ได้แบบ EDP มาเป็นขวดแรกแล้ว พอเจอแบบ EDT ราคาไม่แพงก็เอามาอีกขวด และโชคดีที่ได้แบบขวดรุ่นเก่า ขวดสี่เหลี่ยม มาเก็บอีกด้วย

Diptyque EAU DUELLE Eau de Parfume 75ml.

Diptyque EAU DUELLE Eau de Toilette 100ml.

Diptyque EAU DUELLE Eau de Toilette 100ml. ขวดเก่า

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]