Food Blog: Suntory STRONG ZERO รสมะนาวโอกินาว่า และบ๊วยญ๊่ปุ่น

วันนี้จะมาลองเครื่องดื่มที่เคยเห็นผ่านบล็อกของชาวญี่ปุ่นมาบ่อยครั้ง น่าจะเป็นที่นิยมอีกด้วย นั่นคือ STRONG ZERO เครื่องดื่มรสผลไม้ ที่มีแอลกอฮอลล์ถึง 9% เลยทีเดียว โฆษณาว่าใช้ผลไม้จริงในการผลิตอีกด้วย น่าลองชิมสักครั้ง กระป๋องนี้ได้มาจาก Loutus คิดว่าน่าจะมีขายมานานแล้วแต่เพิ่งมาสังเกตเห็นในโซนเครื่องดื่มนำเข้าเลยหยิบมาลอง 2 รสชาติ

เปิดกระป๋องมาได้กลิ่นแบบเปลือกมะนาวหอมๆ ติดขมหน่อยๆ สดชื่นน่าดื่ม รสชาตินั้นก็เหมือนกับกลิ่น ให้รสหวานเจื่อนแบบมะนาวเขียวบ้านเรา ที่ติดขมปลายลิ้นอย่างรสเปลือกมะนาว ซึ่งจะว่าไปมันก็ไม่อร่อยสักเท่าไหร่ รสมันเหมือนดื่มแค่ตัวแอลกอฮออล์อย่างเดียวมากกว่าที่ให้รสหวานแหลมโคนลิ้นแปลกดีพิลึก เหมือนว๊อดก้ากลิ่นมะนาวก็ว่าได้ แต่ด้วยความซ่าก็ทำให้มันรู้สึกเพลินดี

อีกรสที่หยิบมาคือรส บ๊วยญี่ปุ่น ให้กลิ่นหอมแบบพีชเปรี้ยวๆ พอชิมไปอึกนึกแล้วให้กลิ่นและรสเหมือนยาน้ำเชื่อมลดไข้ ที่หวานเอียนติดลิ้นพร้อมกลิ่นกับรสแบบบ๊วยเค็มตบท้าย เป็นเครื่องดื่มที่รสชาติแปลกดีออกไปทางรสหวาน-ขมแบบวอดก้า กับกลิ่นบ๊วยเค็ม

คิดว่าน่าจะต้องดื่มแบบเย็นเจี๊ยบถึงจะอร่อย แต่ละรสชาติมีแอลที่ 9% สะใจมากแค่สองสามจิบก็รู้สึกมึนหัวแล้ว เคลิ้มดี เหมาะสมกับปริมาณที่ 350ml และราคาที่ 55 บาท โอเคเลย เอาไว้เป็นกระป๋องแรกสำหรับงานเลี้้ยงก่อนไปเครื่องดื่มอื่นๆ น่าจะเข้าท่า เก็บไว้เป็นอีกตัวเลือกเวลาอยากดื่มอะไรแปลกใหม่

Food Blog: ลองชิม Jack Daniel’s Cola

วันนี้มาลองชิมอะไรที่ต่างไปจากที่ลองปกติสักหน่อยนั่นก็คือ Jack Daniel’s กลิ่น Cola ที่เป็นแบบเครื่องดื่มที่ผสมพร้อมดื่ม ส่วนตัวไม่เคยลอง Jack Daniel’s มาก่อนไม่รู้รสชาติปกติมันจะเหมือนเหล้าทั่วไปไหม แต่ก็ช่างมัน หน้าตาขวดดูสวยดีเชิญชวนมาก ขวดละ 89 บาท ราคาสูงใช้ได้ต้องลองชิมสักหน่อยแล้ว

เปิดฝาปุ๊บกลิ่นหอมโคล่าเต๊ะจมูก ให้กลิ่นแบบโคล่าที่หอมเบาๆ ใช้ได้ พอชิมแล้วก็ได้รสหวานของโคล่าด้วย ให้ความรู้สึกแบบเป๊บซี่ที่น้ำแข็งละลายแล้วเอามาดื่มแบบนั้นละ หวานๆ ไม่รู้สึกถึงว่ามีแอลกอฮอล์ผสมอีกต่างหาก ดืมตอนเย็นจัดอร่อยดี มีแอล 4.8% ก็พอใช้ได้ ไว้ดื่มโอกาสพิเศษ และดื่มเอาอร่อยแบบไม่เน้นเมา

Food Blog: ลองชิมเบียร์ Stella Artois

ไม่แน่ใจช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเหมือนเคยเห็นโพสที่มีการพูดถึงเบียร์ Stella ปรับราคา รึอะไรสักอย่างนี่หละ ไม่รู้ว่าเป็นไงมาไงแต่ก็ทำให้อยากรู้ว่าเบียร์ Stella มันรสชาติเป็นแบบไหนถึงทำให้ถูกพูดถึง หรือกลายมาเป็นโพสที่นิยมแบบนั้นได้ ในโพสเหมือนจะเห็นว่ากระป๋องละ 79 บาท ก็ถือว่าแพงนะ แพงพอๆ กับเบียร์ผลไม้บางยี่ห้อเลย มาลองชิมกันดีกว่า

เปิดกระป๋องมาได้กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ น่าดื่ม ลองชิมอึกแล้วได้รสชาติเบียร์จางๆ ออกไปทางจืด มีรสขมนิดๆ ติดลิ้น รสหวานละเอียดไม่นุ่มเท่าไหร่ ให้รสหลังดืมแปลกๆ ที่รู้สึกขมกระจายไปทั่วลิ้นพร้อมกลิ่นคล้ายซอสเค็มบางๆ แต่อร่อยดี ไม่ขมจนเกินไป รสไม่คาว เป็นเบียร์ที่ให้รสหวานจนออกไปทางจืด แต่กลมกล่อมดี ดื่มง่าย ราคาที่ได้มา 79 บาท ก็ยังถือว่าแพงไปสำหรับการดื่มเอาเมาอย่างเดียว ถ้าดื่มเอาสุนทรียภาพก็พอได้อยู่

Daily Blog: อีกสองอาทิตย์ก็จะสิ้นปี 2564 แล้ว

วันนี้ก็วันที่ 20 ธันวาคม 2564 แล้ว วันนี้สภาพอากาศกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง ช่วงเช้าอุณหภูมิลดถึง 20 องศาเลย แต่พอพระอาทิตย์ส่องแสงก็กลับมาร้อนเหมือนปกติ

นับวันดูอีกแค่สิบกว่าวันก็จะสิ้นปี 2564 นี้แล้ว รู้สึกว่าจะเป็นปีที่เวลานั้นเดินเร็วกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา คงเป็นเพราะสถานการณ์การแพร่กระจายโรค Covid19 ละมั้ง ที่ทำให้ทุกๆ อย่างดูรวดเร็วขึ้น และบางอย่างก็ดูที่จะช้าลง

แต่ก็ยังคงเป็นปีที่ไม่มีความแตกต่างด้านการปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเองมากนัก หรือเรียกว่ายังคงนิสัยเสียในทุกๆ ด้านเหมือนเดิม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว คงต้องพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หรือจะปีหน้านี้ดีละ

อยากรู้เหมือนกันว่าช่วงนี้คนอื่นๆ ผ่านช่วงเวลาโปรโมชั่น 12.12 มากันได้อย่างไงบ้าง ไม่นับ 11.11 หรือเดือนก่อนๆ นะ เว็บไซต์ต่างๆ พากันจัดลดราคากันยกใหญ่ ทำให้คนที่ใจแข็งก็หลอมละลายได้บ้างเลย ตัวบล็อกเองก็พยามเลี่ยงการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ในช่วงนี้ แต่ก็พลาดเข้าไปกดเจอเสื้อเชิ้ตทำงานของ era-won เสื้อแบรนด์ไทย ที่เคยซื้อมาใช้งานจัดโปรลดราคาพอดี ลดในที่นี้คือลดอย่างมากก็ว่าได้

จำได้ว่าเมื่อประมาณต้นปีได้เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นจาก era-won มาจากโปรประจำเดือนแบบนี้ละมาตัวนึง จากราคา 1,390.- เหลือ 690.- ก็ดีใจแล้ว มาครั้งนี้ลดลงอีกเหลือแค่ 395.- เท่านั้นเอง แถมใช้โค้ดของ Shopee ก็ลดราคาได้อีก 95.- บาท มันทำให้ความใจแข็งนั้นแตกไม่มีชิ้นดี คิดว่าน่าจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนเสื้อทำงานที่เป็นเสื้อโปโลใส่สบาย เป็นเสื้อเชิ้ตสักที เลยได้มา 2 ตัว

ทำไมถึงสนใจเสื้อจาก era-won จนทำให้ซื้ออีกครั้งได้ก็คงเพราะ เสื้อมันคุณภาพดีจริงสมราคา ใส่สบาย เนื้อผ้าดี หนา คงรูป แค่รีดครั้งแรก ซักครั้งต่อไปก็ไม่ต้องรีดอีกดีมากๆ ไซส์ก็สวย ไม่ใหญ่ ถึงจะทรงสลิมแต่ไม่เอวกิ่วแบบน่าเกลียด แค่นี้ก็น่าจะพอที่ทำให้ซื้อซ้ำได้แล้ว

เล่าไปเล่ามากลายเป็นรีวิวสินค้าไปซะนี่ พยายามจะเล่าให้เป็นบล็อกประจำวันสักหน่อย แต่อย่าว่าเลยอดใจไม่ไหวไซส์เสื้อสีที่ถูกใจกลับเข้าสต็อกอีกสองวันถัดมาก็กดสั่งมาอีก 2 ตัว แถมเป็นวันลดราคาวันสุดท้ายอีก โชคดี และคุ้มมาก…

และน่าจะพอรู้กันแล้วใช่ไหมละว่าพฤติกรรมที่ตัวบล็อกอยากจะปรับปรุงให้ดีขึ้นนั้นคืออไร ( ͡°( ͡° ͜ʖ( ͡° ͜ʖ ͡°)ʖ ͡°) ͡°)

Food Blog: ลองชิมเบียร์ยักษ์ รสเสาวรส [Cheers Selection Siam Weigen]

CHEERS Selection Siam Weigen Sweet Passion Fruit Beer

เบียร์ยักรสใหม่ รสเสาวรส เห็นเพิ่งออกมาไม่นานนี้ ตอนแรกคิดว่าแค่ทำกระป๋องใหม่เฉยๆ แต่ดูแล้วเป็นรสชาติใหม่นี่นา เลยลองหยิบมาลองชิม เอาแช่เย็นจัดๆ แล้วลองชิมดู

เปิดกระป๋องมาก็ได้กลิ่นเสาวรสอ่อนๆ พุ่งออกมา พอลองชิมรู้สึกถึงรสเสาวรสบางๆ ที่ให้ความหวานกับกลิ่นอมเปรี้ยวผสมกับรสเบียร์มันๆ อร่อยดี เบียรผสมกับกลิ่นเสาวรสที่ให้ความหวานแบบผลไม้แบบนี้แล้วทำให้รู้สึกว่าเนื้อสัมผัสมันดูเนียน ครีม สดชื่นดีชอบกล

ถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยละ รสชาติใส ซ่า หอม หวานอร่อย ดื่มง่ายแน่นอน ลองไปลองมารู้สึกว่ามันเหมือนกับดื่มสปายยังไงไม่รู้ แอลมี 4% ราคา 57 ไม่แพง โอเคเลย

Food Blog: ลองชิมเบียร์ ข้าวสาร KHAO SAN Beer

.

เบียร์ KHAO SAN เป็นอีกยี่ห้อที่ได้มาพร้อมกับเบียร์ชะมด และก็หยิบมาลองชิมเพราะลวดลายบนกระป๋องเหมือนกัน คิดว่าน่าสนใจดีที่มีเบียร์แนวนี้จากบริษัทในไทยผลิตออกมาให้ลองชิมเยอะขึ้น แต่ก็ทำใจไว้แล้วว่าอย่าหวังอะไรมากเพราะนานๆ จะเจออร่อยถูกใจสักยี่ห้อ

รสชาติจืด ติดขมจางๆ รู้สึกเหมือนน้ำข้าวหมัก รสชาติคมๆ แบบเบียร์แห้งๆ หวานจางติดปลายลิ้น ให้ความรู้สึกของรสชาติที่แปลกดี แอล 5.3% ปกติ แต่ถ้าไม่คิดมากอะไรรสชาติก็เหมือนเบียร์บางยี่ห้อเลย จืดๆ ไม่ได้แปลกใหม่หรืออร่อยไปกว่าเบียร์ที่มีขายทั่วไปสักเท่าไหร่

Food Blog: ลองชิมเบียร์ชะมด Cha Mod Beer

.

เจอของแปลกอีกแล้ว สะดุดตาที่ลวดลายบนกระป๋องนี่แหละ หยิบมาดูก็เลยเห็นว่าเป็นเบียร์ของไทย ที่ไม่ได้ผลิตที่ไทยนั่นเอง ถ้าอ่านไม่ผิดน่าจะอ่านว่า ชะมดเบียร์ เหมือนกับกาแฟชะมดอะไรแบบนั้นรึเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

รสออกไปทางหวาน ที่ให้ความรู้สึกรสเบียร์ฉ่ำๆ รสหวานมันติดลิ้นกลมนุ่มไม่คมบาดคอ ความหอมก็กลิ่นเบียร์ปกติ แล้วชะมดที่ว่านี่เอาอะไรจากชะมดมาหมักเบียร์ด้วยรึเปล่า หรือว่าเป็นแค่ชื่อเบียร์เฉยๆ ส่วนตัวไม่รู้สึกว่ามันดีแตกต่างจากเบียร์จืดปกติอะไร ดื่มเย็นๆ สดชื่นดี รสชาติเบาดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นคาว แต่ไม่คุ้มราคาสักเท่าไหร่ กระป๋องละ 80 กว่าบาท แอล 5% กับกระป๋อง 330 มล.

Food Blog: ลองชิมเบียร์ VEDETT Extra Ordinary India pale ale

.

VEDETT ยี่ห้อนี้ก็เป็นอีกยี่ห้อที่ผลิตโดย Duvel เหมือนกันนะคิดว่างั้นดูจากรูปร่างขวดที่เหมือนกัน แต่มาแบบเป็นเบียร์แบบ Pale ale คำบรรยายก็ว่าไว้ “Vedett Extra Ordinary India pale ale, But not really from india and not really a pale ale” ก็ตามนั้นแหละ เห็นฉลากสีสวยดีเลยหยิบมาพร้อมกันเอามาลองชิม

กลิ่นเบียร์ยังคงหอมน่าดื่มเหมือนเดิม ให้รสที่หวานติดขมคมๆ มีความคาวคล้ายกลิ่นซอสถั่วเหลืองนิดๆ ทำให้รู้สึกรสชาติมันหอมมันขมลิ้นแปลกๆ แต่รสเข้มกำลังดี มีแอล 5.5% โดยรวมเป็นเบียร์รสชาติกลางๆ เหมือน Pale ale แนวๆ ทั่วไป อร่อยดื่มไม่ยาก

Food Blog: ลองชิมเบียร์ Duvel The Original Belgian Strong Blond

.

วันนี้มาลองเบียร์นอกกันดูบ้าง Duvel ยี่ห้อนี้ไปได้ยินมาจากช่องใน Youtube ของต่างประเทศช่องนึง เป็นช่องที่จะมาซ่อมแซมปรับปรุงฟาร์มเก่าให้กลับมาเป็นบ้านพักได้อีกครั้ง บางครั้งในช่องจะมีการแนะนำเบียร์ หรือเครื่องดื่มด้วย ก็มาได้ดูตอนแนะนำเบียร์ Duvel พอดี เป็นเบียร์เก่าแก่ยี่ห้อดังของเบลเยี่ยม ที่มีรสเข้มข้นก็เลยเป็นที่มาของการลองชิมครั้งนี้ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีขายในไทยเดินดูไปเรื่อยๆ ไปเจอในโซนตู้แช่เลยได้โอกาสเอามาลองชิม

กลิ่นเบียร์หอมสดชื่น รสชาติเบียร์ที่หวานเหมือนเหล้าจางๆ ติดขมในช่วงปลาย เป็นรสชาติเบียรที่เข้มเลยละ แต่อร่อยดี ไม่คาวไม่สาบเหมือนเบียร์ไทยทั่วไป รสชาติกลมดี ขมหน่อยๆ แบบทิ้งความขมไว้ที่ลิ้นเข้มๆ ที่รู้สึกดียังไงไม่รู้ และอยากบอกว่าแค่ไม่กี่อึกก็มึนเกือบล้มไปแล้ว แอล 8.5% เลย สมกับเป็นเบียร์นอกที่น่าลองชิมสักครั้ง

Food Blog: ลองชิมเบียร์ KOPPER Craft Beer

.

เบียร์ KOPPER กระป๋องนี้เคยเห็นมานานแล้วจำได้ว่าเหมือนจะเคยลองชิมไปครั้งนึงแต่ไม่ได้ถูกใจอะไร จนลืมไปแล้วว่ารสชาติมันเป็นยังไงอร่อยรึเปล่า หรือยังน่าดื่มต่ออยู่ไหมนะ ครั้งนี้เลยหยิบกลับมาลองชิมอีกสักที

รสเบียร์ออกหวานบางๆ ดื่มแล้วสดชื่นดี กลิ่นหอมใช้ได้มีความมันๆ ติดลิ้นนิดหน่อยให้ความรู้สึกแบบรสชาติข้าวหมักเหมือนจะเปรี้ยวแต่ก็ไม่เปรี้ยว อร่อยดี เวลาความเย็นลดลงตอนดื่มเหมือนจะรู้สึกถึงกลิ่นข้าวกับรสมันๆ ติดลิ้นเยอะขึ้น รสกำลังดีใช้ได้เลย แอล 4.5% กับราคา 50 กว่าบาท ก็โอเคสำหรับเบียร์รสชาติบางๆ รสอร่อย ดื่มง่าย

Daily Blog: เล่าเรื่องลองใช้งาน Samsung Galaxy Z Flip3 5G

วันนี้จะมาเล่าเรื่องการใช้งาน Samsung Galzxy Z Flip3 5G หรือมือถือจอพับได้เครื่องเล็กๆ นั่นแหละ ความต้องการที่เลือกเอารุ่นนี้มาใช้งานก็เพราะรูปร่างเป็นอย่างแรก มันเป็นแบบฝาพับไง ความต้องการย้อนอดีตลึกๆ มันมีผลกับจิตใจเมื่อเห็นรุ่นนี้ตอนเปิดตัวมาก หน้าตาดูดีเรียบง่าย ระบบ Android ที่ใช้งาานได้จริง และที่สำคัญรูปร่างพับได้อย่างที่ใฝ่ฝันอยากใช้งานด้วย ถึงอย่างนั้นก็คิดถึงปัญหาที่จะตามมา และเผื่อใจไว้อยู่บ้างถ้าใช้งานจริง พอได้ใช้งานจริงมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ก็มีความคิดหลังจากใช้งานที่คิดไว้จะเอามาเล่าให้อ่านกัน

เริ่มแรกกดสั่งสีพิเศษไป เลือกสีขาวตัดกับสีดำ ในเว็บ Samsung.com โดยตรง รอผลิตประมาณ 5-6 อาทิตย์ ทำให้เวลาส่งมอบเครื่องจริงช่วงต้นเดือนกันยายนนั้นก็ไม่ได้เหมือนกันที่ซื้อล่วงหน้ากันไป เพียงแต่วันนั้นได้รับอุปกรณ์เสริมที่ให้เลือกตอนสั่งเครื่องไว้มาถึงก่อน

.

ผ่านไปประมาณ 4 อาทิตย์ ก็เริ่มมีข่าวการจัดส่งเครื่องสีพิเศษกันแล้ว โดยส่งออกจากคลังพัสดุ วันศุกร์ที่ 10 ก.ย. มาถึงจริงก็วันจันทร์พอดี เรียกว่าครบ 1 เดือนเต็มที่รอสีพิเศษ อยากบอกว่าระบบหลังบ้านในการสั่ง Online ของ Samsung นั้นเรียกว่าเข้าขั้นแย่ก็ว่าได้ ตอนสั่งซื้อมีการแจ้งอย่างดีว่าจะมีเมล์แจ้งสถานะของสินค้าเมื่อผลิตเสร็จ ถึงคลัง พร้อมส่ง และจัดส่งแล้ว แต่ความเป็นจริงนั้นไม่มีอะไรอย่างที่ว่ามาเลย ข้อมูลสั่งซื้อก็เช็คได้แค่ซื้อะไรไปเท่านั้นไม่มีรายละเอียดอื่นใดที่ชัดเจน จนเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ส่งพัสดุนั่นแหละถึงจะรู้ว่าส่งเครื่องมาแล้ว

เครื่องมาในกล่องพัสดุสีดำที่มีถุง DHL ใส่มาอีกที เปิดกล่องมาจะเจอการ์ดแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ด้านในก็จะเจอกล่องเครื่อง Flip3 นอนอยู่กล่องเดียวบางๆ

.

เปิดกล่อง Samsung GalaxyZ Flip3 ออกมาก็จะเจอเครื่องเปิดอ้ารออยู่ ด้านในก็มีกล่องใส่คู่มือเล็กๆ กับสายชาร์จแบบ USB-C to USB-C 1 เส้น เป็นอันครบสมบูรณ์

.

ตัวเครื่องนั้นเรียกว่าเล็ก และบางดี ดีไซน์อย่างที่รู้กันเป็นแบบฝาพับ ด้วยหน้าตาใหม่มีจอนอกขนาดใหญ่กว่าเดิม จัดวางกล้องใหม่ทำให้มันน่าใช้งานมากขึ้นตัวฝาหน้า และหลังเป็นกระจกผิวด้านสีขาวเรียบๆ ตับกับขอบเครื่องที่เป็นวัสดุเป็นโลหะทำสีผิวด้าน ให้ผิวสัมผัสนุ่มลื่น แต่ก็ลื่นมือมากเหมือนกัน

.

พลิกเครื่องมาด้านในนั้นก็เป็นจอยาวเหยียด ที่มีรอยพับตรงกลางเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว ตัววัสดุนั้นก็เป็นจอแบบยืดหยุ่นที่มีกระจก UTG หรือกระจกบางพิเศษด้านบนติดทับด้วยฟิล์มพลาสติกกันรอยให้ก่อนแล้ว

.

มาถึงส่วนสำคัญที่อยากลองมากคือการพับเครื่อง กลไลการพับเครื่องนั้นเรียกว่าไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ คือระบบมันแน่นหนืด ไปถึงฝืดนิดๆ ให้สัมผัสการเปิดปิดนุ่มนวลดี ด้วยที่มันให้สัมผัสหนืดแน่นแบบนี้ สามารถใช้งานเปิดพับได้หลายระดับให้เหมาะกับการใช้งาน เลยทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้มือเดียวง่ายอย่างที่คิด เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียก็ว่าได้

.

เรื่องจอภาพพับได้นั้นก็สวยงามดีตามสไตล์ Samsung มีรอยพับตรงกลางจอที่โดดเด่น สังเกตเห็นได้ง่ายชัดเจน แต่เวลาใช้งานก็รู้สึกว่าภาพมันเบี้ยวนิดๆ ตามรอยพับ แต่ถ้าไม่ได้ใส่ใจมากก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่

.

มาดูของแถมที่ได้มารอบนี้กันบ้าง ตอนสั่งซื้อล่วงหน้านั้นจะมีให้เลือกสินค้าตามที่กำหนด ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์เสริมของรุ่นนั้นๆ ตัวบล็อกก็กดมา 4 อย่าง เป็นเคส 2 รุ่น หัวปลั๊กชาร์จ และหูฟัง Galaxy Buds2

.

มาถึงเรื่องการใช้งานที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงบ้าง อย่างแรกเลยสมใจกับการได้ใช้งานมือถือฝาพับที่ใช้งานได้จริงจังสักที พอใจมาก รูปร่างเล็กกระทัดรัด วัสดุดีตัวเครื่องแน่นหนาไม่กรอบแกรบเวลาใช้งานดีมากๆ ระบบภายในก็ถือว่าดีใช้ได้ไม่มีอาการช้าหน่วงให้เห็นในการใช้งานปกติ เว้นแต่ตอนประมวลผลภาพหนักๆ อย่างพวก Lightroom จะใช้เวลามากสักหน่อยเป็นปกติของ Android ใครมาจาก ios น่าจะรู้สึกได้ กล้องมี 2 ตัว มุมกว้างธรรมดา กับ มุมกว้างมาก ถ่ายออกมาภาพสีสดสวย HDR ชัดเจนตามสไตล์ Saumsung เว้นแต่ตอนแสงน้อยจะดูซีดๆ แห้งๆ ไปหน่อย โดยรวมเป็นเครื่องที่ใช้งานดีตามมาตรฐานเครื่องนึงเลย

ต่อด้วยข้อสังเกตที่สะกิดใจตอนใช้งานกันบ้างเอาเป็นข้อๆ ละกัน

ข้อแรกเลยมันเปิดฝาพับมือเดียวไม่ได้ ด้วยกลไกฝาพับที่ทำให้มันมีความหนืดสำหรับการเปิดฝาได้หลายระดับ และตัวเครื่องค่อนข้างลื่นมือ ทำให้ไม่สามารถเปิดฝาพับมือเดียวได้เลย จะทำได้ต้องเอานิ้วงัดเข้าไปแล้วดันเปิด แต่ก็เสียงกับที่เล็บไปดันหน้าจอทำให้หน้าจอเสียหายได้

ต่อมาเป็นเรื่องแบตเตอร์รี่ที่หมดเร็ว สองสามวันแรกนี่หมดเร็วมากแต่ก็เป็นปกติของ Samsung แต่พอหลังจากนั้นระบบจะเริ่มเรียนรู้การใช้งานของเราแล้วมาปรับระบบในเครื่องให้ใช้งานได้ประหยัดแบตมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ถอดสายชาร์จเช้า เย็นๆ เหลือ 20-30% แล้ว จากการใช้งานที่ปกติคือไม่ได้เล่น Social มากมาย กดเข้าเช็คบ้างนิดๆ หน่อยๆ โอนเงิน ส่งไลน์ อ่านโพสบ้าง คือหมดเร็วพอได้อยู่ จากใช้ iPhone มาแบตอยู่ทนนานมากจากการใช้งานปกติของเรา

ถัดมาจากที่เครื่องเรียนรู้การใช้งานเพื่อทำการจัดการพลังงานให้เรานั้นทำให้เกิดปัญหาที่คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มีมานาน นั่นคือ การแจ้งเตือนต่างๆ ที่ไม่แจ้งเตือนทันที แจ้งเตือนช้าไปหลายชั่วโมง และไม่แจ้งเตือนเลยถ้าไม่เปิดแอปเข้าไปดู ได้ลองวิธีต่างๆ นาๆ ในการปิดระบบประหยัดแบตต่างๆ บังคับไม่ให้จัดการพลังงานกับแอปทั้งหลายแล้ว ดูเหมือนว่าจะได้ผลแค่ 2-3 ชั่วโมงแรก แต่หลังจากนั้นก็ยังเป็นเหมือนเดิม ปัญหานี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่ Samsung Note10 และก็เป็นมาถึงรุ่นนี้ แสดงว่าน่าจะเป็นที่แกนระบบปฏิบัติการที่จงใจออกแบบมาแบบนี้แล้วละ มันเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนที่ขายของ Online หรือทำงาน WFH

ตัวเครื่องนั้นอุ่น ไปถึงร้อนเร็วจัด แค่ดูคลิปใน IG สองสามนาทีเครื่องก็อุ่นมากแล้ว ยิ่งฟัง Clubhouse ไปด้วยแล้ว เครื่องก็ร้อนใช้ได้เลย หรือแค่เปิดกล้องถ่ายรูปเครื่องก็ร้อนแล้ว บริเวณที่ร้อนจะเป็นส่วนฝาบนที่มีจอภาพละ

ลำโพงของเครื่องมี 2 ตัว แต่ให้เสียงที่ไม่ดังเท่าไหร่ ถ้าเร่งเสียงให้ได้ตามต้องการเสียงจะมีการการสั่น พร่านิดๆ

คิดว่าเป็นข้อสุดท้ายแล้วที่สังเกตเจอใน 1 อาทิตย์ที่ใช้งานมา คืออัตราส่วนจอภาพที่ไม่เหมือนคนอื่น ยาวมาก ทำให้อาจจะมีปัญหาการแสดงผลในบางแอปพลิเคชั่น ที่จะแสดงผลไม่สมบูรณ์ ยืดบาง หดบ้าง และถูกตัดภาพหายไปบ้างอย่าง IG ถ้าดูวีดีโอ หรือ Reel ตัวภาพวีดีโอจะถูกครอปซูมเข้ามาให้เต็มเจอแล้วขอบข้างวีดีโอจะหายไปทำให้มันเสียอารมณ์เวลาดูคลิป

ทั้งหมดนี้ก็เป็นความคิดหลังจากได้ลองใช้งานมาสักพักทำให้รู้สึกแปลกๆ กับตัวเองที่อยากลองย้อนอดีตไปใช้งานโทรศัพท์ฝาพับ จริงๆ มีหลายข้อที่ทำให้ตะหงิดใจที่จะใช้งานต่ออย่างแรกเลยคือการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ดีเลย์มาก บางทีก็ไม่แจ้งเตือนเลยถ้าไม่ยกเครื่องเปิดมาดู กับอีกอย่างคือปัญหาการใช้งานมือเดียวนี่แหละที่ทำให้ต้องใช้สองมือในการเปิดปิดฝาเครื่อง แอบลำบากอยู่หน่อยๆ

ทำให้ความคิดในหัวเริ่มเปลี่ยนละ เหมือนว่าจะต้องเลือกความสวยของฝาพับ ความน่ารักแบบที่ต้องการ แต่ใช้งานไม่สะดวกคล่องแคล่ว กับ เลือกการใช้งานสะดวก และเหมาะกับแนวทางการใช้งาน หรือเอามาทำงานจริงๆ อย่างยุคนี้แล้วละ ขอคิดอีกสักพักก่อนตัดสินใจอะไรไป หากตัดสินใจไปแล้วก็คงปล่อยต่อให้คนที่สนใจต่อ หากใครสนใจก็หาร้านค้าของบล็อกแล้วกดซื้อได้นะ จะเอาไปลงไว้ในนั้น รวมถึงอุปกรณ์เสริมก็จะแบ่งลงขายไว้ด้วย วันนี้ก็จบการเล่าประสบการณ์ใช้งาน Samsung Galaxy Z Flip3 5G ไว้เพียงเท่านี้

Daily Blog: ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2

สวัสดีบล็อก! วันนี้เป็นวันนัดฉีดวัคซีน โควิด-19 เข็มที่ 2 เป็นสูตรไขว้ ครั้งนี้ก็คือ AstraZeneca ตัวที่ใครๆ ก็พูดถึงอาการหลังฉีดกันให้เยอะแยะไปหมด ทำเอากลัวอยู่เหมือนกันแต่ไหนๆ แล้วก็ฉีดให้ครบไปซะดีกว่า เพราะเลือกทางนี้แล้ว ใบนัดเวลาก็ตั้งแต่ 8.30 – 15.30 น. เหมือนเดิม ครั้งนี้เลยออกไปสายหน่อยคิดว่าฉีดเสร็จจะได้แวะเข้าออฟฟิตไปเคลียร์งานสักพักก่อนกลับ

ไปถึงที่ The Mall Korat ช่วง 10.25 น. ก่อนห้างเปิดนิดนึงก็เลยต้องเข้าทางลานจอดรถเหมือนเดิม ครั้งนี้ขึ้นไปหน้า MCC Hall ก็เจอคนต่อคิวเยอะมาก คงกะมาเดินห้างต่อกันแน่เลยถึงมาช่วงนี้ เดินไปต่อแถวก็ยังงงงวยไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม รอบนี้ไม่มีการต่อแถวตรงทางเข้ารอคิวยาวเหยียดแล้ว แต่เป็นการแบ่งแถวสั้นๆ สิบกว่าแถวที่ไม่มีอะไรกั้นคนมาใหม่ก็พากันต่อแถวผิดไปหมด มีแค่เจ้าหน้าที่ตะโกนถาม “ว่ามาใหม่รึเปล่า” อยู่ตลอดเวลาแปลกดี จนมองไปเห็นคนถือป้ายกลมๆ ว่า “ปลายแถวอยู่ตรงนี้” ถึงบางอ้อว่าต้องไปต่อแถวตรงโน้น ทำไมไม่เอารั้วมากั้นท้ายแถวอื่นๆ ไว้นะไม่เข้าใจ ไปสองครั้งก็แปลกพิลึกทั้งสองครั้ง

.

แต่พอเข้าแถวแล้วก็ยืนรอเหมือนเกณฑ์ทหารสักพัก ยับไปเรื่อยๆ ก็ถึงเวลารับบัตรคิวแล้วก็เข้าไปนั่งรอสักที ช่วงเวลานั่งรอ เข้าซักประวัติ แล้วก็ต่อแถวรอฉีดวัคซีนนี้ก็เหมือนครั้งก่อนที่ใช้เวลารวดเร็วดีเหมือนเดิม ดีมากๆ

.

แป๊บเดียวก็ฉีดเสร็จเรียบร้อย มีปิดพลาสเตอร์สีฟ้าสวยๆ ตรงแขนให้ด้วยแต่ไม่มีรูปนะ แกะออกไปติดตรงไหนแล้วไม่รู้ และก็มีการติดสติกเกอร์เข็มฉีดยาสีทองหลังบัตรประชาชนเป็นดวงที่ 2 รับยาพารา แล้วก็เข้านั่งสังเกตอาการครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จพิธี และเราก็โชคดีอีกครั้งที่ไม่ได้รับการติดสติกเกอร์เข็มฉีดยาสีทอง กับน้ำขวดเล็ก ขากลับตอนรายงานสังเกตอาการเลยไปขอติดให้ครบ

.

ส่วนอาการหลังฉีดนั้นตอนแรกไม่รู้สึกอะไรเลย แวะเข้าสำนักงานไปทำงานต่อช่วงบ่ายก็เริ่มมีอาการมึน คิดอะไรช้ามาก ทำอะไรก็รู้สึกช้าไปหมด แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามีไข้อะไร พอเข้าช่วงหกโมงเย็นนี่อาการร้อนๆ หนาวๆ เจ็บตามตัวเริ่มมาทีละนิด ทีละนิด จนรู้สึกถึงอาการเป็นไข้ชัดๆ จนถึงตอนนี้ละ แต่ไอ้อาการไข้นี้มันไม่ได้รุนแรงแบบเหมือนตอนเป็นไข้จริงๆ นะ แค่รู้สึกตัวร้อน และรู้สึกหนาวเวลาลมพัดมา แต่มันก็รู้สึกดีนะอาการตอนเป็นหวัดเนี่ย แอบชอบนิดๆ อยู่

แต่ไม่เห็นได้กำไลข้อมือฉีดยา 2 เข็มเหมือนที่โฆษณาไว้เลย คนอื่นจะได้รู้ว่าฉีดยาแล้วกัดได้ไม่เป็นโรค หึ หึ หึ…

Daily Blog: วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เล่าเรื่องไปฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มแรก [สูตรผสม Sinovac + AZ]

วันนี้ไปฉีดวัคซีน Covid19 เข็มแรกที่ The Mall โคราช หลังจากได้ลงทะเบียนขอรรับฉ๊ดวัคซีนในเว็บไซต์ โคราชพร้อม ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เป็นการนัดฉีดวัคซีนที่รวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะได้รับ SMS แจ้งให้มาฉีดวัคซีนก่อนแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็รวดเร็วทันใจดีเลยจะเอามาเล่าให้อ่านกัน

จริงๆ ทางที่ทำงานก็ได้จัดให้ลงทะเบียนฉ๊ดวัคซีนมานานแล้วแต่ไม่ได้ลงชื่อไปฉีดเพราะไม่มั่นใจตัววัคซีน Sinovac อย่างที่รู้กันนั่นแหละ อยากจะรอวัคซีนตัวอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่านี้ และไม่มีผลข้างเคียงอย่างที่เป็นข่าวกัน เลยพยายามรักษาตัวให้ปลอดภัยอยู่รอดมาตลอด แล้วก็มีวัคซีนยี่ห้อใหม่เข้ามามีบาทบาทนั่นก็คือ Astrazeneca ที่มีการศึกษาว่ามีประสิทธิภาพดียี่ห้อนึ่งน่าสนใจขึ้นมาหน่อย แต่พอรู้ว่าจะเอามาฉีดผสมยี่ห้อก็ทำให้หยุดคิดที่จะฉีดไป แต่ช่วงนี้การระบาดมันเยอะขึ้น ใกล้ตัวขึ้นเข้ามาทุกทีก็ต้องคิดเรื่องหาภูมิคุ้มกันบ้าง จากที่ฟังข้อมูลจากหลายๆ ส่วนที่น่าเชื่อถือต่างก็แนะนำให้ฉีดวัคซีนก่อน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันถึงวัคซีนบางตัวจะมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีมาก แต่ก็ดีกว่าไม่มีภูมิเลย ก็ทำให้พอพอจะทำใจเรื่องหาวัคซีนมาสร้างภูมิคุ้มกันอยู่บ้างเลยจะลองเสี่ยงดู ถ้าผ่าน Sinovac ไปได้ไม่แพ้ยา ก็จะได้ AZ ที่มีประสิทธิภาพใช้ได้ ถึงจะเป็นสูตรผสมก็เถอะก็ยังน่ากลัวอยู่ดี

เมื่ออาทิตย์ก่อนเลยหาวิธีลงทะเบียนขอรับฉีดวัคซีนแล้วก็บังเอิญไปเจอเว็บไซต์ “โคราชพร้อม” (KORAT PROMPT) เป็นช่องทางการลงทะเบียนขอรับวัคซีนของทางจังหวัดนครราชสีมาโดยเฉพาะ ก็ตัดสินใจลงทะเบียนไป ขั้นตอนง่ายไม่ซับซ้อน มีสถานที่ให้เลือกตามความสะดวกของแต่ละคนด้วยโอเคเลย

.

ผ่านมาประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้รับ SMS แจ้งให้เข้ารับวัคซีนได้ในวันถัดไปตามสถานที่ที่เลือกไว้ เรียกว่ารวดเร็วกว่าที่คิดมาก เพราะเคยเห็นประสบการณ์การลงทะเบียนผ่าน App ต่างๆ ที่ช่วงแรกเปิดให้ลงทะเบียนมาก่อนที่ใช้เวลานานมาก

.

วันนี้ก็เดินทางไปจุดฉีดที่เลือกไว้ ซึ่งก็คือ จุดบริการของ รพ.เทพรัตน์ ที่ MCC HALL The Mall Korat พอไปถึงก็งงนิดหน่อยเพราะหน้าห้างมีแค่ป้ายจุดรอขึ้นรถรางสำหรับผู้ที่มาฉีดวัคซีน แต่ไม่มีป้ายบอกทางสำหรับคนที่จะเดินไปเอง เลยงงหน่อย ไปบริเวณลิฟโดยสารจุดประจำที่ห้างจะเปิดให้ขึ้นสำหรับผู้ที่จะเข้าห้างก่อนเปิดบริการก็ไม่ได้เปิดให้บริการ ป้ายก็ไม่มีบอกทาง เลยอาศัยเดินตามกลุ่มคนอื่นไปแทน จนเจอว่าทางเข้ามันอยู่ในลานจอดรถบริเวณลิฟท์หลักตรงห้องกระจกกลางห้างนั่นเอง

.

สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่านเว็บก็ขึ้นไปขั้น 3 ได้เลยไม่ต้องไปชั้น 2 ที่จะเป็นส่วนของ อสม.ของแต่ละชุมชนนัดเพื่อรับบัตรคิว ขึ้นไปชั้น 3 ก็เจอคนมารอต่อคิวยาวเหยียดกันแล้ว ไปต่อคิวแล้วรับบัตรคิวไปนั่งรอก็ไม่นาน โดยจะนั่งรอคิวเข้าในส่วนแสดงตัวประมาณ 15 นาที

.

เข้ามาใน MCC HALL ก็ไปตามจุดบริการได้เลย มีอาสาสมัครคอยบริการบอกวิธีตลอดไม่งงอะไร ขั้นตอนแรกก็เอาบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อพิมพ์เอกสารคัดกรอง กับใบนัดรอบใหม่มาก่อน แล้วก็ไปซํกประวัติเบื้องต้น จากนั้นนั้นก็ไปฉีดวัคซีนได้เลย เร็วมากไม่ต้องรอคิวเลย แถวเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ด้วยมีโต๊ะให้บริการเยอะ

.

ฉีดเสร็จก็ไปจุดเฝ้าดูอาการจะมีเจ้าหน้าที่ให้ยาพารา กับน้ำขวดนึง และติดสติ๊กเกอร์ที่บัตรประชาชน 1 ดวง เพื่อยืนยันว่าฉีดเข็ม 1 ไปแล้ว นั่งรอดูอาการ 30 นาที อาการก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไร แค่รู้สึกง่วงจากการนอนไม่หลับเมื่อคืนแค่นั้น ครบเวลาก็ไปที่โต๊ะสุดท้ายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าปกติดี แล้วก็กลับได้เลย

.

ทั้งหมดทุกขั้นตอนก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงได้ ถือว่าเร็วมาก วัคซีนที่ฉีดรอบนี้ก็เป็นสูตรผสมที่ใช้ Sinovac เป็นเข็ม 1 และ Astrazeneca เป็นเข็มที่ 2 โดยนัดฉีดเข็ม 2 ก็วันที่ 14 กันยายน 2564 หลังจากฉีดวัคซีนมาแล้วก็รู้สึกแค่ว่ามันเหนื่อย ไม่ค่อยมีแรง ไม่มีอารมณ์จะทำอะไร และก็ง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่งปกติไม่ได้ฉีดวัคซีนก็รู้สึกแบบนี้อยู่แล้วก็ถือว่าโอเค ไว้รอดูวันถัดไปอาการจะเป็นยังไงบ้าง

.

สิ่งที่ได้กลับมาก็ ใบนัดสำหรับฉีดเข็มที่ 2 ระบุชื่อวัคซีน Astrazeneca ชัดเจน กับ ยาพารา 1 เม็ด และน้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนอาการที่มีระหว่างตอนกำลังพิมพ์อยู่นี้ก็ปวดแขนข้างที่ฉีดนิดๆ กับเริ่มมีอาการเจ็บคอ ระคายคอแล้ว 🌻

Food Blog: ลองชิมเบียร์ CHEERS The Original

.

ครั้งนี้นึกอะไรไม่ออกไม่มีเบียร์รสใหม่ๆ ให้ลองที่เซเว่น ก็ขอหยิบเบียร์เชียร์ รสปกติ มาลองชิมเล่าลงบล็อกละกัน ส่วนตัวชอบเบียร์เชียร์นะ ชอบที่ราคาไม่แพง ดื่มง่าย ถึงมันจะไม่พิเศษเท่าไหร่แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรดื่ม

ดื่มตอนเย็นเจี๊ยบนั้นให้รสหวานนิดๆ มีกลิ่นหอมเบียร์อ่อนๆ ไม่ขมรสจืด มีความซ่ามาก อร่อยดื่มง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบรสเบียร์ขม หรือคาว มีแอลที่ 4.8% ก็โอเค ราคาแพ็คคู่อยู่ที่ 92 บาท ไม่แพง 2 กระป๋องกำลังดี รสบางๆ แบบนี้ดื่มเย็นจัดกับแซลมอนในเย็นวันศุกร์ พร้อมดูหนังเรื่องสนุก ในเย็นวันศุกร์หลังกลับจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน มันคือดีมากจริงๆ

Food Blog: ลองชิม เบียร์ยักษ์ CHEERS Selection SIAM Weizen Beer

.

อีกรสกับเบียร์ CHEERS Selection รุ่นที่ใช้วัตถุดิบของไทยร่วมหมักเบีร์ กระป๋องนี้รูปยักษ์ข้างกระป๋องบอกว่าใช้มะนาวเป็นส่วนประกอบ มันจะเปรี้ยวรึเปล่านะแล้วทำไมใช้รูปหน้ายักษ์ละ ไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็อยากลอง

รสจืดๆ ซ่าๆ มีรสของเปลือกมะนาวคมๆ ติดขมพอให้รู่สึกนิดๆ เป็นเบียร์ที่รสจืดมาก มากแบบที่เหมือนกินแค่โซดากับเปลือกมะนาว หรือมะกรูดแช่ในโซดา แต่ถ้าอยากรับรู้รสชาติที่มากขึ้น ลองทิ้งไว้ใหความเย็นลดลงสักหน่อยจะรู้สึกถึงรสเบียร์มากขึ้น เป็นเบียร์ที่มีกลิ่นของมะนาวที่ออกแนวกลิ่นสมุนไพรมากกว่าน้ำมะนาวที่รู้จัก แต่นั่นแหละก็ยังคงเป็นเบียร์ที่รสจืดๆ เหมือนเดิม ไม่ขม ไม่หวาน อะไรทั้งนั้น ราคา 50 บาท ก็ปกติทั่วไปน่าลอง แต่อาจจะไม่หยิบมาอีก

Food Blog: ลองชิม เบียร์เชียร์ เบียร์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ CHEERS Selection Riceberry Beer

.

เบียร์ CHEERS จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสีม่วงๆ ที่ฮิตกินกันอยู่ช่วงนึง คิดว่าทำมาเป็นเบียรแล้วเอาใส่กระป๋องรูปไก่ดูน่าดื่ม แต่อีกใจก็แปลกพิลึก รสชาติมันจะเป็นยังไง แต่ถึงยังไงกระป๋องรูปไก่สวยดีก็หยิบมาลอง

รสชาติกับกลิ่นเหมือนกินข้าวหมากที่มีรสขมๆ ติดหวานนิดๆ รสมันออกเป็นแนวข้าวหมัก แป้งๆ หน่อย พอรวมกับเบียร์แล้วให้รสเข้ม นุ่ม รู้สึกสดชื่น และก็แปลกดี ถามว่าอร่อยไหม ส่วนตัวก็ว่าอร่อยอยู่ รสไม่เหมือนใครด้วย ราคาไม่แพง 48 บาท โอเคมากราคานี้กับรสชาติแปลกแบบรสข้าวหมาก

เคยเห็นวางขายมานานแล้วแต่ก็ไม่คิดจะเอามาลองชิมไม่รู้ทำไม พอได้ลองแล้วก็คิดว่ารสชาติมันแปลกดี มีเอกลักษณ์ไทยดีเลย เห็นใช้ชื่อ CHEERS Selection น่าจะมีหลายรสชาติ แต่เท่าที่มีขายเห็นแค่ 2 รส น่าจะมีเยอะกว่านี้คงดีเพราะรสอร่อย ราคาไม่แพง

Food Blog: ลองชิม ไก่ทอดซอสเกาหลี จาก KFC

ครั้งนี้ลองชิมไก่ทอดเกาหลีของ KFC ที่ชื่อว่า ไก่กรอบซอสโคเรียน เลือกมาเป็นชุดประหยัดที่มี น่องไก่กรอบซอสโคเรียน 2 ชิ้น กิมจิโคลสลอว์ 1 ถ้วน เฟรนช์ฟรายส์ 1 ห่อเล็ก เป็นชุดจัดโปรใน Grab Food ชุดละ 129 บาท

.

มาถึงก็เจอกับสภาพซอสไก่โคเรียนหกไหลเลอะถุงไปหมด เปิดกล่องมาก็เจอน่องไก่ทอดราดซอสชุ่มฉ่ำเต็มกล่อง รสชาติไก่ออกหวานเผ็ด เหมือนน้ำจิ้มปลาหมึกรถเย็น แต่มันจะเค็มและมีน้ำมันมากไปทำให้มันดูแฉะๆ ไม่หนืดเหมือนไก่เกาหลีแบบที่เคยกิน รสจัดใช้ได้เผ็ดกำลังดีแต่ติดที่เค็มไปหน่อย

.

กิมจิโคลสลอว์นั้น ก็มาแบบเป็นผงโรยแทน ไม่ได้ทำมาเป็นรสกิมจิเลยซะทีเดียว ชิมผงเปล่าๆ รสชาติเหมือนกิมจิแห้งๆ ที่เผ็ดพอได้ พอคลุกกับโคลสลอว์แล้วก็ทำให้มันเหมือนกินผงชูรสที่เผ็ดมากกว่า รสมันนัวอย่างบอกไม่ถูก อร่อยแต่ก็รู้สึกว่ากินไปจะปลอดภัยไหมเพราะมันเหมือนผงชูรสเพียวๆ เลยงั้นแหละ

.

สรุปก็โอเคอยู่รสชาติก็อร่อยใช้ได้ ถึงจะไม่เชิงเกาหลีสักเท่าไหร่แต่ก็เป็นรสแปลกใหม่ที่มีให้ลองช่วงนี้ ถ้าถามว่าจะสั่งมากินอีกครั้งไหม ตอบว่าคงไม่แล้วละ ไม่มีอะไรที่ทำให้อยากกินอีกครั้ง

Food Blog: Tapper Original X-Tra Lager Beer

.

กระป๋องนี้เห็นมานานแล้วแต่ก็ไม่เคยหยิบมาลองเพราหน้าตามันดูเป็นทางการไปหน่อย ตัวหนังสือใหญ่ๆ ดูยังไงไม่รู้ แต่ไม่รู้จะลองชิมอะไรแล้วเลยหยิบมาลองแอล 6.5 แนะ

กลิ่นหอมเบียร์ฟุ้ง รสชาติออกหวานนิดๆ แต่รสมันออกไปทางจืดซะมากกว่าติดขม กับความคาวเบียร์นิดหน่อย ในรสชาติจะได้กลิ่นไหม้ๆ ของอะไรสักอย่างกรุ่นในเบียร์ทำให้มันอร่อยแบบแปลกๆ ดี ราคา 51 บาท โอเคราคามาตรฐาน ได้แอลที่ 6.5% เหมาะกับคนต้องการแอลสูงนิด รสชาติจืดหน่อยไม่ขมดื่มง่าย โอเคเลย แต่พอความเย็นลดลงรสชาติมันออกจะแนวคาวๆ ขมๆ ใช้ได้เลยอร่อยไปอีกแบบ

Food Blog: ลองชิม เบอร์เกอร์เบคอนดังก์ชีส จากแม็คโดนัลด์

ครั้งนี้จะมาลองเบอร์กเกอร์ เบคอนดังก์ชีส เมนูใหม่จากแมคโดนัลด์  เมนูนี้จะเป็นเบอร์เกอร์เนื้อใส่เบคอน พร้อมกับชีสถ้วยใหญ่สำหรับเอาเบอร์เกอร์จิ้ม ดูแล้วก็แปลกดีแต่ก็น่าลอง

เบอร์เกอร์เเหมือนกับเบอร์เกอร์ปกติมีผัก แต่มีเบคอน ใส่ซอสอะไรสักอย่างเพิ่ม ซอสที่ใส่มาให้ก่อนแล้วนั้นซอสน่าจะไม่ข้นเท่าไหร่เพราะไหลเยิ้มเลอะเทอะไปหมด กระดาษห่อเบอร์เกอร์เปียกชุ่ม มาพร้อมกับชีสดิปที่เป็นกล่องพลาสติกขนาดใหญ่กว่าปกติ สำหรับเอาเบอร์เกอร์จิ้มทั้งชิ้น

เบอร์เกอร์รสชาติจืดๆ แต่ก็มีรสหวานมันๆ จากซอสที่ใส่มา เบคอนให้มาหลายชิ้น จิ้มกับชีสแล้วเข้าท่าดี อร่อยมาก ชีสเหลวกำลังดีรสชาติมันๆ หอมๆ จิ้มแล้วกัดคำใหญ่มันฉ่ำเต็มปากดี ชีสให้มาเยอะใช้ได้อยู่ ซื้อมาเป็นเซ็ตที่มีน้ำกับเฟรนช์ฟรายแล้วรู้สึกคุ้ม เอาเฟรนช์ฟรายจิ้มชีสกินต่อได้อีก อัดชีสเข้าร่างกายสะใจจนเลี่ยนไปเลย

Food Blog: ลองชิม เบียร์ปลาวาฬ วาฬ Whale Pale Ale [The BREWING PROJECT]

.

รอบบนี้มากับเบียร์ฉลากสวยอีกขวดนึง ฉลากรูปปลาวาฬมีฟอยล์สีทองปั้มดูเหมือนภาพวาดแบบไทยโมเดิร์นที่เห็นกันเลย อ่านยี่ห้อก็ไม่รู้จัก ชื่อไทย แต่ดูแล้วว่าเป็นเบียร์ของต่างประเทศ สรุปว่าเป็นเบียร์ไทยไหมไม่รู้ แต่ขวดสวยก็เอามาลองชิม

แค่ดมกลิ่นก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นเบียร์ลิ้นจี่ ชิมอึกแรกก็น่าคิดกลิ่นหอมเหมือนลิ้นจี่จางๆ ฟุ้งเต็มปาก รสเบียร์อ่อนไม่ขมมาก ไม่คาว มีรสหวานติดลิ้นกับกลิ่นคล้ายลิ้นจี่มันก็เข้าท่าดีนะ ทำให้มันเป็นเบียร์ที่รสนุ่มใช้ได้เลย รสชาติดีไม่จัดจ้านเหมือนเบียร์ลิ้นจี่อื่นๆ อร่อยดีเลยละ

ทำไมหยิบขวดแปลกๆ มาลองทีไรได้ลิ้นจี่มาทุกทีซิ นี่ก็สุ่มหยิบมาแล้วนะรอบนี้เจอลิ้นจี่ 2 ยี่ห้อเลย แต่ วาฬ นี้ไม่ได้มีระบุว่าใช้ลิ้นจี่เป็นส่วนผสมนะ แต่ให้กลิ่นคล้ายอย่างที่รู้สึก ทำให้มันมีความนุ่ม รสชาติอ่อนดื่มง่าย ชิลๆ เลย ไม่รสชาติจัดจ้าน กลิ่นลิ้นจี่แรงๆ รสคมๆ เหมือนเบียร์ ผีบอก ที่ลองไปก่อนหน้า ราคาขวดนี้ 119 บาท ราคาโอเคสำหรับยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่ยี่ห้อหลัก