Perfume Blog: Christian Dior Miss Dior Rose N’Roses EDT

.

Miss Dior Rose N’Roses EDT เปิดตัวปี 2020 เป็น Miss Dior กลิ่นใหม่ที่เพิ่งออกมาเร็วๆ นี้เลย เป็นน้ำหอมกลิ่นแนว Floral ที่มีกลิ่นสดใสของกลีบดอกไม้สด มีกลิ่นฉ่ำของ Citrus เรียกความสดชื่น ประกอบด้วย Grasse Roses Zest of Bergamot และ White Musk หรือเรียกว่าเป็นน้ำหอมดอกไม้หอมหวานบางเบา ที่เน้นไปทางกลิ่นกุหลาบกลิ่นใหม่นั่นเอง

กลิ่นเปิดรู้สึกถึงกลิ่นซีตรัสขมๆ แต่สดชื่นพร้อมกับกลิ่นกุหลาบที่ดูไม่ใส กุหลาบฉ่ำๆ มาแบบจัดเต็มอยู่ตรงหน้าไม่ต้องรอกลิ่นอื่นๆ กลิ่นกุหลาบที่ไม่เปรี้ยว ไม่หวาน เป็นกุหลาบที่หอมดูเยือกเย็น แต่ก็สดชื่นไปในเวลาเดียวกัน สักพักจะเริ่มมีความหอมมัน ครีมมี่ฟุ้งๆ ลอยชัดขึ้นมาแทรกพร้อมกับกลิ่นกุหลาบ ทำให้มันหอมดูอบอุ่นขึ้นหน่อย โดยกลิ่นช่วงท้ายจะเป็นกลิ่นหอมหมันแบบมักส์ผสมกับกุหลาบอ่อนๆ ไปจนจบกลิ่น

กลิ่นช่วงแรกฟุ้งกระจายดีเลยละโดยเฉพาะกุหลาบฟุ้งตลบ ระหว่างวันก็ยังได้กลิ่นชัดอยู่เวลาเคลื่อนไหว ความทนนั้นพอดีๆ ประมาณ 4-5 ชั่วโมงพอได้ โดยที่ช่วงหลังจะเป็นกลิ่นผิวเราที่คนอื่นจะรู้สึกตอนเข้ามาใกล้ๆ ดูพิเศษดี อย่างวันทำงานเหนื่อยทั้งวันไม่ได้ฉีดเติมแต่มีเพื่อนร่วมงานเดินผ่านแล้วชมว่าตัวเรากลิ่นหอม มันทำให้หายเหนื่อยเลย มีแค่ไม่กี่กลิ่นที่ทำให้เจอประสบการณ์แบบนี้ส่วนใหญ่ตระกูล Miss Dior ที่กลิ่นบางเบาพวกนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

Miss Dior Rose N’Roses เป็นกลิ่นที่หอม เบาสบาย กลิ่นกุหลาบกับมักส์เข้ากันดี ถึงจะดูธรรมดาไปนิดกลิ่นไม่รุนแรง แต่ก็ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะกลิ่นช่วงท้ายมักส์กับกุหลาบบางๆ รวมกับกลิ่นตัวของเรามันผสมกันเป็นกลิ่นหอมแปลกๆ และกลิ่นก็แตกต่างกันไปตามจุดที่ฉีดด้วย แต่ถ้าอยากให้เป็นกลิ่นเดิมๆ จากขวดไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ก็ฉีดบนเสื้อแบบนี้กลิ่นจะไม่เปลี่ยนมากนัก เพราะเหตุผลนี้กลิ่นนี้เหมาะที่จะเลือกเป็นกลิ่นประจำตัวได้ง่ายอีกกลิ่นหนึ่งเลย และราคาไม่แพงเท่ากลิ่นอื่นด้วย

Miss Dior Rose N’Roses EDT 50ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#PerfumeFriday

Perfume Blog: Christian Dior Miss Dior EDT

.

Miss Dior EDT เปิดตัวปี 2013 และออกรุ่นปรับสูตรอีกครั้งปี 2019 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Chypre Floral ที่เป็นกลิ่นสดชื่นของ Blood Orange Mandarin กลิ่นกลาง Lily of the Valley ที่ส่งต่อความสดชื่นและโปร่งเบา พร้อมกับกลิ่น Grasse Rose ที่ร่วมกับกลิ่นฐานชัดเจนอย่าง Patchouli กลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่มีมาในช่วงแรกเหมือนจะพร้อมๆ Miss Dior Blooming Bouquet ปัจจุบัน ไม่รูอันไหนมาก่อน แต่ก็ทำให้งงพอสมควรที่เห็น Miss Dior ออกมาหลากหลายขนาดนี้ พอดูแล้วน่าจะเป็นตัวคู่กับรุ่น EDP นั่นเอง

กลิ่นเปิดมาหอมกลมๆ ครีมมี่ อมหวานที่ฉ่ำหน่อยๆ ให้อารมณ์กลิ่นของขนมเค้ก ไม่ได้มีกลิ่นหอมซ่าใสอมเปรี้ยวแบบรุ่น EDP สักพักจะรู้สึกถึงกลิ่นหวานครีมที่มีความคล้ายกลิ่นกุหลาบบางๆ ไม่อมเปรี้ยวแบบกลิ่นกุหลาบที่เคยได้กลิ่น เป็นกุหลาบที่หอมนุ่ม ครีมนวลๆ มีกลิ่นเขียวแฉะ กลิ่นตันๆ ลอยอยู่พื้นหลังกุหลาบหวานนวลนั้น พอดมกลิ่นรวมๆ แล้วชวนให้นึกถึงกลิ่นมะม่วงสุกงอม พอกลิ่นผ่านไปช่วงกลางๆ จะรู้สึกความเขียวแห้งๆ แบบแพทชูลีเริ่มชัดขึ้นมาทำให้กลิ่นนี้มันดูหรู นุ่ม ผู้ดีกขึ้นไปอีก

เป็นกลิ่นของ Miss Dior อีกรุ่นที่กลิ่นช่วงแรกค่อนข้างแตกต่างจากรุ่นพี่ ถึงกลิ่นช่วงกลางไปแล้วจะคล้ายกันอยู่ แต่เบาขึ้นลดความหวานนิดก็ทำให้กลิ่นนี้หอมอีกแบบ ยังคงความรู้สึกหรูหรา นุ่มนวล อบอุ่นไว้ และกลิ่นก็หอมเบาสบายดีด้วย อย่างที่บอกกลิ่นนุ่มเบาสบายความฟุ้งกระจายก็เป็นไปตามกลิ่นที่ช่วงแรกนั้นหอมหวานกลมๆ ที่ฟุ้งดีใช้ได้ ตลอดอายุของกลิ่นก็โอเคฟุ้งให้รู้สึกเป็นช่วงๆ เวลาลมพัดมา

Miss Dior EDT 50ml

.

.

แถมอีกนิดกับรุ่นหัวลูกกลิ้งที่เหมาะเอาไว้ใช้เติมกลิ่นระหว่างวัน ด้วยที่กลิ่นแบบลูกกลิ้งนี้ออกมาแนวหอมวานนวล ฉ่ำๆ เลยตั้งแต่ครั้งแรกที่ทาลงผิว มันทำให้รู้สึกกลิ่นหอมแบบในกลิ่นช่วงแรกที่อมหวาน แซมเปรี้ยวนิดๆ ที่ชัดใสฟุ้งกระจายแบบเรียกความสดชื่นระหว่างวันได้ดีเลยทีเดียว มีข้อสังเกตที่ในรุ่นนี้สามารถรู้สึกถึงกลิ่นแพทชูลีที่เป็นกลิ่นฐานได้ค่อนข้างชัดกว่าแบบสเปรย์ อีกอย่างคือขวดสวยน่าพกพาอีกต่างหาก เป็นขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมมีลายสัมผัสด้านข้างแค่ถือก็รู้สึกดีแล้ว

Miss Dior EDT Roller Pearl 20ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#PerfumeFriday

แกะกล่อง SOLKLINT โคมไฟตั้งโต๊ะจาก IKEA

วันนี้จะเอาโคมไฟจาก IKEA เจ้าปัญหาที่เล่าไว้เมื่อครั้งก่อน มันคือโคมไฟรุ่น SOLKLINT ที่เป็นโคมไฟตั้งโต๊ะแบบแก้วที่มีโคมสีเทาขนาดใหญ่ ว่ามันเป็นยังไงถึงอยากจะได้ไอ้โคมไฟนี้มากขนาดนี้

รอบนี้ใช้บริการฝากหิ้วของ IKEA ตาม IG แทน เพราะตอนที่ซื้อในเว็บนั้นแสดงสถานะว่าไม่สามารถดำเนินการจัดส่งสำหรับของชิ้นนี้ได้ แต่จำนวนสต็อกบอกว่ามีแค่ที่ IKEA สาขาบางใหญ่เท่านั้น เลยใช้บริการรับหิ้วของแทน วันที่คนหิ้วไปดูก็ถ่ายรูปแจ้งกลับมาว่ามีของอยู่ 1 ชิ้นพอดี โชคดีมาก

โคมไฟมาในกล่องสี่เหลี่ยมสีขาว ที่ระบุชื่อรุ่น กับรูปภาพประกอบ พอให้รู้หน้าตาสินค้า เปิดกล่องมาก็เจอโคมไฟอยู่ในกล่อง โคมไฟใหญ่มากคับกล่องเลย ในกล่องก็มีแค่ตัวโคมไฟ กับคู่มือ รายละเอียดของสินค้า ไม่มีหลอดไฟแถมนะต้องซื้อเพิ่มเอง ใช้หลอดไฟขนาด E27 ที่แนะนำหลอดไฟ LED แบบใส เลยฝากหิ้วมาพร้อมกับโคมไฟเลย

พอเห็นของจริงแล้วอยากบอกว่ามันใหญ่มาก และคุณภาพดีใช้ได้เลยสำหรับราคาแค่ 399 บาท ตัวฐานด้านนอกเป็นโลหะที่ค่อนข้างหนาสีทอง ด้านในเป็นแกนพลาสติกใส่หลอดไฟ สายไฟสีดำปกติมีสวิชท์เปิดเปิดตรงสายด้วย ตัวโคมทำจากแก้วขึ้นลายเคลือบสีเทาโปร่งใส ขนาดใหญ่และหนัก พอใส่หลอดไฟดูแล้วสวยใช้ได้เลย

Blog: วันที่ 12 เมษายน 2561 สวัสดีวันสงกรานต์

สวัสดีบล็อก!  วันนี้แล้วนะที่เป็นวันหยุดวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ประจำปี  2561 นี้ ปีใหม่ไทยปีนี้ยังคงอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนเหมือนทุกปี  แม้ว่าสองสามวันก่อนจะได้เจออากาศเย็นจนหนาวอดหวังไม่ได้ว่าอากาศเย็นนัั้นจะอยู่ถึงสงกรานต์ไหม แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังคงหนาแน่นการจราจรติดขัดตามเส้นทางผ่านเมืองอย่างบ้าคลั่งเหมือนทุกปี อีกความรู้สึกนึงก็รู้สึกว่ามันคึกคักดีเหมือนกัน บล็อกเองก็ได้หยุดพักผ่อนตามเทศกาลสงกรานต์แล้ววันนี้ ไม่ได้มีแผนที่จะไปเล่นน้ำหรือเที่ยวที่ไหนแค่ผักผ่อนให้เต็มที่ก็พอ ใครมีแผนไปเที่ยวไหนกันบ้างช่วงสงกรานต์ปีนี้…

วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่ผ่านมาที่ได้ลองชิมเบียร์รสสตรอเบอร์รี่ที่ใครๆ  เขาก็ชิมกันมาแล้ว แต่เบล็อกยังไม่ได้ลองเพราะหาซื้อไม่ได้เลย จนช่วงนี้ที่คนอื่นเลิกซื้อกันแล้วก็เลยมีเหลือให้บล็อกได้ลองซื้อมาชิม เบียร์ที่ว่าก็คือ เบียร์เชียร์ (CHEERS SELECTION – Northen Strawberry) กระป๋องสีชมพูแปลกดี ตัวเบียร์เองก็เป็นน้ำสีชมพูสวยทีเดียว ลองชิมดูรสเหมือนน้ำสตรอเบอร์รี่จางๆ จะว่าไปก็มันก็คือเบียร์จืดๆ กับกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนสตรอเบอร์รี่นั่นเอง ถามว่าชอบไหมก็ไม่ได้ชอบนะ มันแค่แปลกใหม่เฉยๆ  แต่ดื่มได้ดื่มหมดกระป๋องเลยละ เพราะเสียดายของ

ขอเล่าถึงขนมสักหน่อย มันฝรั่งเลย์ทำแพ็คเกตใหม่สำหรับขนาดห่อใหญ่ ทำเป็นถุงแนวนอนพร้อมแถบฉีกเปิดถุงแบบใหม่ เรียกว่า เลย์ โบล์วแบค [Lays BOWL-BAG] บล็อกคิดว่ามันสะดวกมากเลย แกะแล้ววางถุงไว้หยิบกินได้ง่ายดี  แถบฉีกก็มีหลายแถบฉีกพลาดไปก็ฉีกใหม่ได้

Blog: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559

เมื่อวานนี้ ก็สิ้นสุดการรอคอยลงสำหรับหนังเรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them สำหรับผู้ที่เป็นแฟน Harry Potter อย่างบล็อกนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ได้กลับไปอยู่ในโลกเวทมนตร์ในสมัยก่อนอีกครั้งนึง เป็นการเริ่มต้นที่จะตามมาอีก 4 ภาคเลยทีเดียว

ไม่รอช้าเลือกหนังรอบบ่ายสาม เลือกแบบระบบ 4DX เลย เอาให้เต็มที่ เอาให้สมใจที่ตั้งใจมาดู ควักบัตรดูหนังฟรีออกมาสแกนที่ตู้ซื้อบัตร “ตี๊ต” ก็เรียบร้อย

จริงๆ ก็ไม่เชิงจะดูฟรีหรอกบัตรนี้ก็ได้มาจากที่มาดูหนังเรื่อง INFERNO เมื่ออาทิตย์ก่อนดูแบบ 4DX นี่แหละ เป็นการดูระบบนี้ครั้งแรกด้วย ดูหนังไปต้นๆ เรื่องก็ไม่มีเอฟเฟคอะไร จนล่วงเลยมากลางเรื่องผู้จัดการโรงหนังก็ได้เข้ามาขอโทษลูกค้าและแจ้งว่า ระบบ 4DX วันนี้เอฟเฟคของ 4DX ไม่ออก ก็ถึงร้องอ๋อกันทั้งโรงเพราะมันนิ่งมาก เราก็สงสัยนะ แต่ไม่คิดอะไรเพราะยังไม่เคยดูระบบนี้ คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะมีเอง จนผู้จัดการเข้ามาบอกนั่นแหละถึงเข้าใจ ทางโรงหนังจึงเสนอมาว่าจะเริ่มภาพยนต์ใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อรันเอฟเฟคอีกครั้ง แต่หนังก็จะเลิกดึกขึ้น อีกวิธีที่เสนอคือดูหนังต่อให้จบเพื่อไม่ให้เสียอรรถรส แล้วมอบบัตรดูหนังฟรีทุกเรื่อง ทุกรอบ ทุกที่นั่ง จำนวน 1 ที และบัตรส่วนลดอีกคนละ 200 บาท ทั้งโรงหนังก็เลือกที่จะดูหนังต่อจนจบเพราะตอนนั้นก็สีทุ่มกว่าแล้ว เป็นที่มาของบัตรฟรีใบนี้

แต่ Fantastic Beasts and Where to Find Them รอบนี้ระบบเรียกว่าจัดเต็ม 4DX จริงๆ เลย ทั้งควัน น้ำ กลิ่น หิมะ ลม ระบบเก้าอี้มาเต็ม อ้อ 3D ด้วย เรื่อง INFERNO ไม่เป็น 3D นะ เดือนนี้มีแค่ 2 เรื่องนี้ที่เข้าเป็น 4DX

มาถึงเรื่องหลังจากได้ดูหนังไปแล้ว โดยที่ไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องย่อ หรือข้อมูลในหนังมาก่อน แค่รอการเข้าฉายมาตลอด ทำให้รู้สึกว่าตื่นเต้น และคุ้มค่าแก่การรอคอยมากๆ ตัวหนังดำเนินเรื่องได้เร็วกำลังดี เข้าเรื่องได้ดี ไม่น่าเบื่อ เนื้อเรื่องลื่นไหน ไม่มีข้อขัดใจในเนื้อหาเท่าไหรเลย เพราะจะมีการดำเนินเรื่องบอกเหตุผลต่อให้คิดเองตลอด มีเพียงบางเรื่องเท่านั้นที่มีปริศนาทิ้งเอาไว้เพื่อนำไปเชื่อมโยงในภาคต่อๆ ไปเท่านั้นเอง

ภาพเอฟเฟคในหนังเรียกว่าจัดเต็ม อลังการมากๆ ทำได้ดีไม่มีขัดตา สมจริง ยิ่งมาพร้อมระบบ 4DX ด้วยแล้ว หิมะตกในโรงหนัง พร้อมกับฟองสบู่เล็กๆ ทำให้เหมือนหิมะตกมาใส่รู้สึกเปียกจริงๆ กลิ่นตามบรรยากาศก็โอเค ระบบของเก้าอี้เรียกว่าไม่ได้หยุดพักผ่อนนิ่งๆ นานเลยสักครั้ง

สำหรับคนที่ยังลังเลที่จะไปดู แนะนำให้ไปดูในโรงภาพยนต์เลยนะครับ ไม่เสียใจแน่นอน หนังสนุก คุ้มค่าเหมือน Harry Potter นั่นแหละ ถ้าติดตาม Harry Potter มาหลายๆ ภาคแล้วไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปดูเลย

——————– มีเนื้อหาสำคัญในภาพยนตร์ด้านล่าง ใครยังไม่ได้ดูยังไม่ควรอ่าน ——————–

ยังมีเรื่องให้แปลกใจตอนจบของเรื่องอีก ไม่คิดว่า เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (พ่อมดศาสตร์มืดในอดีตสมัย HarryPotter) จะมาโผล่ในภาคแรกนี้ด้วย ไม่รู้ว่ามีการเผยแพร่จากพวกเรื่องย่อก่อนรึเปล่านะเพราะไม่ได้ติดตามอ่านเรื่องย่อที่มีเผยแพร่ก่อนเลย รู้แค่ว่า จอห์นนี เดปป์ จะมารับบทนี้ ตอนก่อนหนังจะฉายประมาณอาทิตย์นึงเท่านั้น คิดว่าจะออกมาในภาคหลังๆ ซะอีก ยิ่งทำให้ลุ้นและรอหนักไปอีกว่าภาคต่อไปจะมีเนื้อเนื่องอย่างไรบ้าง ตื่นเต้นจริงๆ

Blog: วันที่ 30 ตุลาคม 2559

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีโอกาสไปเดอะมอลล์ไม่ได้ไปมานานหลังจากที่ได้เปิดโซนใหม่ไปไม่นานนี้ เพราะคนเยอะมาก แต่ไปคราวนี้ไปหาร้านข้าวแกงกะหรี่ที่เค้าว่ากันว่าอร่อย ชื่อร้าน CoCoICHIBANYA ที่สามารถเลือกระดับความเผ็ดของแกงกะหรี่ได้ด้วย

เมนูที่เลือกจำไม่ได้ประมาณ ข้าวแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ อะไรนี่แหละ ที่เลือกเมนูนี้เพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูเหมือนข้าวแกงกะหรี่ที่เคยเห็นกันในการ์ตูน ในหนังญี่ปุ่น หรือเรียกว่าเป็นรูปร่างของข้าวแกงกะหรี่ในอุดมคติก็ได้ เลือกความเผ็ดระดับ 3 หรือ 4 จำไม่ได้จริงๆ มันมีให้เลือกเยอะหลากหลายมาก เป็นความเผ็ดระดับต้นๆ สั่งมาคู่กับชาเขียวเย็นใส่นม

หน้าตาดูน่ากินอย่างที่คิด ข้าวให้มาไม่เยอะมากมีไข่วางด้านบนข้าว มีหมูทอดหั่นเป็นชิ้นวางทับอีกที ราดน้ำซอสแกงกะหรี่น่ากินมากๆ ชิมอย่างแรกเลยน้ำซอสแกงกะหรี่ หอมเครื่องเทศรสรุนแรง รสหวานเค็มเผ็ดกลมกล่อมสมกับเป็นแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ส่วนรสเผ็ดไม่เผ็ดเท่าไหร่ แค่ซ่าๆ ในปากเท่านั้น ข้าวนุ่มออกร่วนหน่อยไม่เหนียวติดกันเป็นก้อน ไข่ที่วางบนข้าวเนื้อบาง ทอดไม่สุกมากเยิ้มๆ รสจืดไม่มีอะไร เนื้อหมูนุ่มหนึบเคี้ยวเด้งเพลินดี ด้านนอกกรอบ เวลากินต้องตักกิน 4 อย่างพร้อมๆ กันมันจะอร่อยมากๆ ข้าวนุ่มไข่เยิ้มๆเนื้อหมูนุ่มหนึบกรอบพร้อมซอสแกงกะหรี่หอมเผ็ด สุดๆ ไปเลย  ใครที่อยากรู้ว่าแกงกะหรี่รสเป็นอย่างไร หรือใครไม่กล้าไปกินเพราะกลัวจะไม่ชอบรสของมันนั้น จะอธิบายรสประมาณว่ากะหรี่พัฟไส้ไก่ รสคล้ายกันมากเพียงแต่แบบราดข้าวจะมีความหอมและรสเข้มข้นกว่า

พูดถึงชาเขียวเย็นใส่นมที่สั่งมาขอเล่าหน่อย ใครไม่ชอบชาเขียวมัชชะ หรือชาเขียวแบบผงสีเขียวคงจะไม่ต้องการเมนูนี้ เพราะเหมือนว่ามันจะไม่เข้ากับนมที่ใส่มากินไปแล้วรู้สึกเอียนๆ กลิ่นของชาเขียว กับนมมันๆ มันตีกันไปหมด พูดแล้วก็ขนลุก เรื่องราคาก็ค่อนข้างแพง แต่ก็เป็นปกติของอาหารในห้าง ข้าวจานนี้ราคา 210 บาท ชาเขียวใส่นม 60 บาท มีเซอร์วิสชาร์จด้วยนะ ร้านอยู่ชั้น 1 ตรงโซนอาหารหน้าซุปเปอร์มาเก็ต

วันพฤหัสที่ผ่านมาวันนี้ที่บริเวณอนุเสาวรีย์ท้าวสุรนารี และพื้นที่รอบๆ นั้นมีการร่วมร้องเพลงถวายฯ จึงมีคนมาร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งรถประจำทางก็คงจะเป็นเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่มีการปิดถนน คือ ใช้ถนนมิตรภาพแทนการเข้าไปในตัวเมือง แต่ครั้งนี้รถติดมากไม่ขยับกว่าครึ่งชั่วโมงจึงลงจากรถเดินไปหารถขึ้นต่อแยกหน้า IT City แต่บังเอิญ กิจกรรมร่วมร้องเพลงถวายฯ เสร็จพอดียิ่งทำให้รถติดไปกันใหญ่ หลายๆ คนเริ่มเดินไปเรื่อยๆ เราก็เดินไปเหมือนกับคนอื่นๆ จนถึงหน้า IT City มีการตั้งเต้นขนาดใหญ่สำหรับกิจกรรม มีผู้คนยืนรอขึ้นรถประจำทางอยู่บนถนนเยอะมาจนเหลือพื้นที่ให้รถวิ่งแค่ช่องทางดียว จาก 4 ช่องทาง เห็นอย่างนี้แล้วคงไม่มีโอากาสที่จะได้ขึ้นรถประจำทางแน่นอน และหลายๆ คนก็คิดแบบนั้น ก็ต่างพากันเดินไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดแค่ว่าจะเดินไปรอรถตตรงที่ว่างๆ แต่เห็นสภาพการจราจรแล้วคงไม่ได้มีที่ว่างบนรถแน่ๆ เพราะใครๆ ก็ดักรอขึ้นกันแล้ว จึงคิดว่าคงต้องเดินไปหารถขึ้นที่เดอะมอลล์ พร้อมกับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมคนอื่นๆ ซึ่งต่างตัดสินใจเดินไปเดอะมอลล์กัน

เดินไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงเดอะมอลล์ ใช้เวลาแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไม่เหนือยเท่าไรสงสัยเพราะมีคนเดินเป็นเพื่อนเยอะ และเป็นช่วงกลางคืนอากาศไม่ร้อน แต่ก็ยังไม่มีรถประจำทางว่างสักคัน เลยตัดสินใจเดินต่อไปโลตัสไปหารถตุ๊กตุ๊กนั่งกลับบ้าน แต่พอไปถึงกลับไม่มีรถเหลือแล้ว เพราะคนอื่นๆ ก็คิดเหมือนกับเรา โชคดีที่มีรถประจำทางเข้ามาและว่างพอดี กลับถึงบ้านสองทุ่มกว่าๆ เป็นการกลับบ้านที่สนุกดีเหมือนกันวันนี้

Blog: วันที่ 13 ตุลาคม 2559

ว่าด้วยเรื่องติดฟิล์มกันรอยหน้าจอให้ Samsung Galaxy S7 Edge เป็นการหาฟิล์มกันรอยที่ยากมากจริงๆ เริ่มแรกก็สั่งชุดฟิล์มกันรอย TPU  หน้า-หลัง จากเว็บเดิมที่เคยสั่งฟิล์มมาติดด้านหลังของ Note5 พอได้ฟิล์มมารู้สึกว่าจะเป็นคนละยี่ห้อกัน ไม่รอช้าจัดการติดเองเลย ด้านหน้า ผลคือ ไม่สำเร็จ ฟิล์มมีฟองอากาศเยอะ เนื้อฟิล์มนิ่มและดูดติดกับกระจกแน่นมาก แทบจะแก้รีดอากาศ เอาฝุ่นออกไม่ได้เลย ด้านหน้าเสียไป ช่างมันไปติดด้านหลังก็ได้ ด้านหลังเหมือนจะง่ายหน่อยกะระยะตรงกล้องและติดสำเร็จ แต่ด้วยเป็นความคิดมากขัดตากับฝุ่นที่ติดอยู่ใต้ฟิล์มนิดหน่อย จัดการดึงฟิล์มและเอาเทปใสดึงฝุ่นออก ปรากฎว่าเทปใสทิ้งคราบกาวเอาไว้กับฟิล์มซะนี่่ ดึงไปดึงมาอ้าวฟิล์มยืด สรุปด้านหลังติดเองก็ไม่สำเร็จ ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะไปซื้อฟิล์มและให้ร้านติดให้เลย

วันถัดมาก็คือวันนี้ ตั้งใจไปหาซื้อฟิล์มและให้ร้านติดให้ ไปถามจากคนอื่นๆ ที่ใช้พวกจอโค้งก็ได้ความว่าไปติดที่ IT หรือ “นอรีส เก่า” ร้านที่ติดป้ายซัมซุงใหญ่ๆ ซึ่งเกือบทุกร้านที่นี่ติดป้ายซัมซุงทั้งนั้น เดินเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยก็เข้าไปติด 490 บาทร้านขอค่าติดอีก 50 บาท เพราะบอกว่า “รุ่นนี้มันติดยาก” ติดได้ก็จ่ายให้นะ (อันนี้คิดในใจ) ยืนรอสักพัก สักพักกลายเป็นนานสักพัก ก็ติดเสร็จ ก็เห็นสภาพตอนเค้ากำลังติดแล้วละดูไม่โอเคเลย ผลงานออกมาก็อย่างที่คิด ฟิล์มเป็นรอยขูด รอยฟิล์มพับ รอยรีดฟองอากาศเต็ม ไม่อยากจะบ่นอะไรตอนนั้นต้องรีบกลับไปทำงาน คิดว่าตัวฟิล์มคงจะดีขึ้นเองแค่ปล่อยไปสักพัก เหมือนของ Note5 กลับมานั่งดูจอเวลาสะท้อนแสงแล้วเห็นรอยยับ มันทำใจไม่ได้อ่ะนะ โทรศัพท์สวยแต่ฟิล์มเหมือนเอาพลาสติกแร๊ปมาแป๊ะจออย่างไงอย่างงั้นเลย ไม่ไหวนะแบบนี้

ไม่รอช้าเลิกงานมุ่งตรงไปเดอะมอลล์ ตั้งเป้าไว้ว่าจะไปซื้อฟิล์มมาติดเอง ตรงไปร้าน PA PHONE ร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์สารพัด พนักงานถามว่าเอาเครื่องมาติดเลยไหมมีบริการติดให้ เพราะเป็นฟิล์ม TPU ติดยากร้านเลยจะติดให้ เราก็โอเคลองดูอีกสักครั้งว่าจะดีไหม พนักงานก็เรียกพนักงานอีกคนมาจัดการติดให้ ใช้เวลาไม่นานก็ติดเสร็จ พอดูที่เครื่องเท่านั้นแหละ เพิ่งจะรู้ว่ามืออาชีพเป็นอย่างไร ติดฟิล์มเรียบกริบ เข้ามุมทุกมุม ช่องหูฟัง ช่องปุ่มโฮม ลงล็อคพอดีเป๊ะๆ ไม่มีรอยยับบนฟิล์มด้วย แถมราคาฟิล์ม 390 บาท ติดฟรีอีกต่างหาก (แอบดูยี่ห้อ เป็นฟิล์มยี่หอ BS เผื่ออยากทราบยี่ห้อ) ใครจะติดฟิล์มกันรอยให้กับพวกจอโค้งทั้งหลาย ที่โคราชแนะนำร้าน PA PHONE บนเดอะมอลล์ชั้น 3 เลย

Blog: วันที่ 11 ตุลาคม 2559

ผ่านมาแล้วเป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่ได้สั่งจอง Samsung Galaxy Note7 เอาไว้ และเกิดปัญหากับตัวผลิตภัณฑ์มากมายจนเกิดการเลื่อนการส่งมอบเครื่องไปอีก รวมๆ เกือบ 4 เดือน และปัจจุบันสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้น ยิ่งแย่ลงไปอีกกับปัญหาเครื่องล็อตใหม่ที่ทาง Samsung เปลี่ยนให้ลูกค้าเกิดไฟลุกขึ้นอีกครั้ง และ Samsung Global ได้ประกาศระงบการจำหน่าย และเปลี่ยนเครื่องใหม่ มีผลทั่วโลกแล้ววันนี้

เมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 59) มีข่าวว่า Samsung ได้หยุดการผลิต Note7 ลงชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุเครื่อง Note7 ไฟลุกขึ้นเองขณะใช้งาน, ไม่ได้ใช้งาน ในต่างประเทศ ต่อๆ กัน ที่อเมริกา ไต้หวัน และเกาหลี ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน เหมือนว่าตัวเราจะรู้ว่าการรอครั้งนี้อาจจะจบลงอย่างไร เลยจะกลับไปหาซื้อ Note5 รุ่นเก่ามาใช้ใหม่ หลังจากปล่อยขายต่อไปแล้วเพราะคิดว่าจะได้รับ Note7 ในเร็ววันนี้ (ซึ่งคิดผิดพลาดไปอย่างมาก) เดินถามตามศูนย์ Samsung ที่เดอะมอลล์ ทุกร้านที่ถามไม่มี Note5 ขายแล้ว ที่ไปหาซื้อเพราะคิดว่าคงจะอีกนานกว่าเรื่องจะจบลงและคิดว่าจะไม่ยกเลิกการจอง Note7 กับทาง Samsung ไทยด้วย อยากรู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร

แต่ระหว่างรอนี่ก็ต้องมีเครื่องใช้ด้วยนะ เลยไปเลือกเอา Samsung Galaxy S7 Edge มาใช้ เลือกเอารุ่นที่ปัจจุบันที่สุดดแล้วกันเผื่อ Note7 เกิดยกเลิกการขายขึ้นมากจะได้ใช้เครื่องนี้ต่อไปยาวๆ ถึง Note8 เลย

ตัว Samsung Galaxy S7 Edge ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ คือมี 2 ราคา

  • แบบ ราคา 26,900 บาท จะมี Samsung Galaxy S7 Edge + Samsung Galaxy TabA6 7″
  • แบบ ราคา 23,900 บาท จะมีแค่ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S7 Edge อย่างเดียว
  • ถ้าเปิดเบอร์ AIS ใหม่พร้อมโปรที่กำหนด สามารถลดราคาเครื่องได้อีก 1000 บาท (ที่ Samsung by Jaymart)

เลยเลือกเอาแบบราคาเต็มมา เผื่อจะเอา Tab มาใช้ หรือเอาไปขายต่อ เดี๋ยวค่อยคิดอีกที และถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรเกี่ยวกับ Note7 จะพยายามอัพเดทเก็บเอาไว้ในบล็อกอันเดิมนะครับ (Blog: จอง รอ และ เลื่อน ของ Samsung Galaxy Note 7 [ S-eStore.Com ])

ซื้อ S7 Edge เมื่อวานปุ๊บ วันนี้ Samsung Global ประกาศหยุดจำหน่าย Note7 ปั๊ปเลย 555 ถึงจะยังไม่มีอะไรออกมาจากซัมซุงไทย แต่ซัมซุงไทยคงจะปฏิบัติตามประกาศเหมือนกันละนะ

Blog: จอง รอ และ เลื่อน ของ Samsung Galaxy Note 7 [ S-eStore.Com ]

ไม่เคยคิดว่าการมาจองซื้อโทรศัพท์สักเครื่องจะยุ่งยาก และมีอุปสรรค์เยอะอะไรขนาดนี้ ถ้าจะเล่าคงจะต้องเริ่มเล่ามาตั้งแต่จองเครื่องเลยแล้วกัน

ตั้งแต่ Samsung Galaxy Note 7 ประกาศเปิดตัวที่ New York ไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทาง Samsung ไทย, ค่ายมือถือ และเว็บร้านค้าออนไลน์อีกหลายเว็บ ประกาศจองเครื่องรอบแรกในวันที่ 5 – 14 สิงหาคม 2559 และรับเครื่องได้วันที่ 19 สิงหาคม 2559 โดยมีโปรโมชั่น ผู้ที่จองเครื่องจะได้รับ

  • รับส่วนลดทันที 1,000 บาท
  • Backpack battery มูลค่า 2,590 บาท
  • ประกันจอแตกเป็นเวลา 1 ปี โดยกดรับสิทธิ์จากเครื่อง Samsung Galaxy Note 1-5 ใน App Galaxy Gift
  • Wireless Charger (Line Edition) + สายเคเบิ้ล มูลค่า 1,890 บาท (รายการนี้ตามมาทีหลัง สำหรับลูกค้าที่จองเครื่องผ่านบริการ Online)

ในการจองครั้งนี้ด้วย เราก็เลยเลือกจองกับทาง S-eStore เพราะเห็นว่าเป็นร้านค้า Online ของ Samsung ในไทยโดยตรง คิดว่าน่าจะเชื่อมั่น และไว้วางใจได้มากที่สุด (ซึ่งเป็นการคิดผิดอย่างมาก) จองวันแรกที่เปิดจองเลย วันที่ 5 สิงหาคม 2559 จองตอนเที่ยงๆ ปัญหาแรกก็มาเลย สีเครื่องที่เหมือนทาง Samsung บอกว่าจองได้จะมี 3 สี สีดำ สีทอง สีเงิน แต่ในหน้าเว็บกลับมีให้เลือกแค่ สีดำ กับ สีทอง (มีแค่ 2 สี เหมือนกันทุกที่ที่เปิดรับจอง) มันเลือกการจ่ายเงินแบบแบ่งชำระไม่ได้ หรือว่าเราไม่เห็นเองก็ไม่รู้ เพราะเข้าจองแบบเป็นบุคคลทั่วไป ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บ ก็เลยเลือกรูดบัตรจ่ายเต็มไป ก็เป็นเสร็จสิ้นการจอง มี e-mail ตอบกลับมาเรียบร้อย (ตอนหลังมันคาใจเลยลองทำการสั่งซื้อเข้าไปเพื่อดู การชำระเงินแบบแบ่งชำระ มันก็มีให้กดเลือกบริษัทบัตรเครดิตด้านล่าง แต่คิดว่าตอนที่ทำการจองไปตอนแรกมันไม่มีให้เลือกบริษัทพวกนี้นะ)

ระหว่างนี้ก็รอเครื่องอย่างมีความสุข แต่ก็มีความสุขได้ไม่นานหรอก หลังจากจองไป 2 – 3 วัน ก็เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับเลื่อนส่งมอบเครื่องในกลุ่ม Note 7 ใน Facebook แล้ว และทาง Samsung ก็ประกาศเลื่อนจริงๆ

วันที่ 11 สิงหาคม 2559 

  • Samsung ไทย ประกาศ “การเลื่อนกำหนดรับ Samsung Galaxy Note 7” จากเดิม วันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2559 เป็น วันที่ 2 – 4 กันยายน 2559 โดยยังสามารถทำการจองได้จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2559

เรียกว่าจองเครื่องครั้งแรกก็โดนเลื่อนรับเครื่องเลย เลื่อนครั้งนี้ไม่ใช่ไม่กี่วันนะ เลื่อนเป็น 2 อาทิตย์เลย จากวันที่ประกาศรวมๆ 3 อาทิตย์ ก็ทำให้โมโหได้เหมือนกัน ติดตามข่าวมาประมาณว่า Note 7 มีกระแสตอบรับดีมาก ก็เรียกว่าขายดีทำให้ผลิตไม่ทัน เลยต้องเอาเครื่องที่มีอยู่ทุ่มไปกับตลาดที่มีความต้องการสูงและขายยาก อย่างฝั่ง ยุุโรป – อเมริกา และเอเชียเด่นๆ ก่อน และก็เร่งการผลิตอยู่ในตอนนี้ อืมๆ ยังไงก็ต้องรอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว บัตรเครดิตก็ตัดยอดไปหมดแล้ว ถ้าทำเรื่องคืนเงินก็ใช้เวลาเป็นเดือนอยู่ดี ก็เลยรอต่อไป

วันที่ 17 สิงหาคม 2559

  • Samsung ไทย เปิดตัว Samsung Galaxy Note 7 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ติดตามดูถ่ายทอดสดเปิดตัวจากกลุ่ม Note 7 ใน Facebook ภายในงานมีการพูดแนะนำตัว Note 7 เหมือนกับที่เปิดตัวใน New York นั่นแหละวีดีโออะไรก็เหมือนๆ กัน มีตลกตรงเอาดารามายืนถามประสบการณ์การใช้ ตลกดีเหมือนไม่ได้เตี๊ยมกันมา หลังจากนั้นมีให้ผู้ร่วมงานทดลองเล่นเครื่อง Note 7 มีมาให้ลองถึง 3 สีเลย

ระหว่างรอรับเครื่องที่เลื่อนออกไปก็ตามข่าวในกลุ่มบ้าง ดูรีวิวของเมืองนอกบ้าง และก็มีข่าว Note 7 ระเบิดตอนชาร์จแบต ข่าวนี้รู้สึกว่าจะเกิดที่จีนที่เห็นเป็นข่าวแรกที่ใช้ตัวแปลง USB C กับสายไม่มียี่ห้อ ก็ไม่ได้คิดอะไรเห็นระเบิดเป็นครั้งคราวอยู่แล้วสำหรับโทรศัพท์ในปัจจุบัน

Facebook ในกลุ่ม Note 7 ก็เริ่มมีคนพูดถึงเครื่องที่เอามาขายในไทยจะมีโลโก้ Duos ด้านหลัง และก็เป็นเรื่องอยู่สัก 2 – 3 วัน จนมีข่าวที่ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กไปเลย

วันที่ 31 สิงหาคม 2559

ช่วงอาทิตย์สุดท้ายไม่แน่ใจว่าวันไหน (วันที่ 31 สิงหาคม 2559) มีเหตุการณ์ผู้ที่จองเครื่องกับ Wemall ได้รับเครื่องกันแล้ว ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดรับเครื่องเลย ก็มาโพสแจ้งกันในกลุ่ม ก็เป็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายป่วงกันทั้งกลุ่มเลย ทำไมที่ Wemall ได้แล้ว แต่ที่อื่นยังไม่ได้ Admin ใน Page Samsung Mobile Thailand ตอบมาว่าเป็นความผิดพลาดของระบบการขนส่งบางประกาศทำให้จัดส่งไปก่อนวันที่ 2 กันยายน

ใกล้วันที่ 2 กันยายน ที่เป็นวันรับมอบเครื่อง (วันที่ 31 สิงหาคม 2559) เริ่มมีข้อความ SMS เข้ามาแจ้งการขนส่ง สำหรับคนที่จองทาง Online บ้างแล้ว คนที่จองกับค่ายมือถือต่างๆ ก็ทยอยมีข้อความแจ้งว่าเครื่องมาถึงแล้ว ให้มาติดต่อรับเครื่องกันบ้างแล้ว สมาชิกแต่ละคนก็โพสอวดกันในกลุ่มอย่างสนุกสนาน ส่วนตัวเราเองไม่มีอะไรจะโพสเพราะ “เงียบมาก” ไม่มีอะไรแจ้งเตือนทั้งนั้น ทั้ง e-mail ทั้ง ข้อความ SMS ในโทรศัพท์ ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเราจะได้รับเครื่องมาเลย หึ หึ หึ เราก็นั่งอ่านโพส ร่วมยินดีกับคนอื่นต่อไป จนมาสะกิดที่ข้อความนึงเข้ามาโพสใต้โพสของสมาชิกท่านนึง ประมาณว่า “แน่ใจเหรอว่าจะไม่มีการเลื่อนอีก” แล้วก็หัวเราะ แต่ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรก็เลื่อนผ่านๆ ไป จนวันรุ่งขึ้นเท่านั้นแหละเรื่องเดิมๆ ก็กลับมาอีกครั้ง

ตอนห้าโมงเย็น (วันที่ 31 สิงหาคม 2559) มีข้อความแจ้ง Code ของ Galaxy Gift เพื่อเอาไว้กรอกรรับสิทธิ์ประกันจอแตก 1 ปี เข้ามา ก็คิดว่าออเดอร์ของเรากำลังเข้ากระบวนการจัดส่งแล้วมั้ง แต่ไม่มี SMS อะไรเข้ามาอีกเลย ไม่มีจาก Samsung จาก aCommerce (บริษัทที่ดูแล S-eStore) เลย

วันที่ 1 กันยายน 2559

ทนความเงียบของ S-eStore ไม่ไหวเลยลองโทรไปที่ Call Center ดูว่าจะได้คุยกับพนักงานไหม โชคดีมาก รอไม่นานพนักงานรับสาย (นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้คุยกับพนักงาน Call Center  S-eStore เพราะโทรไปไม่เคยมีคนรับเลย อยากรู้ก็ลองโทรเล่นๆ ดูนะ) ถามพนักงานว่าคนที่จองทางในเว็บจะจัดส่งให้วันไหน เพราะไม่เห็นมีข้อความอะไรแจ้ง พนักงานก็ตอบกลับมาว่า “จัดส่งช่วงระหว่างวันที่ 2 – 4 กันยายน นี้คะ คอยรับโทรศัพท์จากพนักงานส่งของนะค๊ะ , ถามต่อแล้วส่งโดยบริษัทอะไร พนักงานเงียบไปพักนึง เราเลยช่วยพูดไปว่าใช้บริษัทขนส่งภายนอกด้วยใช่ไหม พนักงานถึงตอบกลับมาว่า “ใช่คะ” แค่นั้นก็วางสายไป ช่วงบ่ายๆ เริ่มมีคนได้รับโทรศัพท์จากค่ายมือถือที่ได้ทำการจองเครื่อง Note 7 ไว้ โทรมาแจ้งเลื่อนรับเครื่อง ก็มีคนเอาไปถาม Admin Samsung Mobile Thailand ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ทางเพจก็ตอบมาประโยคเดียวว่า “รายละเอียดการรับเครื่อง Note 7 ทางเราจะมีการแถลงการณ์เย็นนี้ครับผม” แถลงการอีกแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยแถลงการอะไรอีก

ประมาณ 17.00 น. มีสมาชิกในกลุ่มโทรไปถาม Call Center S-eStore ว่ากำหนดการจัดส่งยังคงเป็นวันที่ 2 – 4 กันยายน 2559 อยู่เหมือนเดิม (มันอัพเดทอะไรบ้างไหมเนี่ย)

ประมาณ 18.00 น. มีภาพประกาศของ Samsung ไทย หลุดออกมาจากสมาชิกในกลุ่มท่านหนึ่งก่อนเวลา ทำให้มานั่งขบคิดกันต่อ

ประมาณ 18.44 น. Samsung ไทย ประกาศ “ชี้แจงการรับสินค้า Samsung Galaxy Note 7” ขอเลื่อนกำหนดรับสินค้าากวันที่ 2 – 4 กันยายน 2559 ออกไป และจะแจ้งกำหนดการรับใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งก็คือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั่นเอง การเยียวยา – ชดเชย ในครั้งนี้ทาง Samsung ไทย เสนอมาคือ

  • รับส่วนลดเพิ่มเป็น 2,000 บาท จากเดิม 1,000 บาท
  • รับชุด Galaxy Note 7 Value Pace มูลค่า 3,190 บาท แทนแท่นชาร์จไร้สาย Stand Wireless Charger (Line edition) มูลค่า 1,890 บาท แต่ยังได้ Backpack batter มูลค่า 2,590 บาท กับประกันจอแตก เหมือนเดิม
  • ส่วนคนที่ต้องการยกเลิก สามารถรับคืนเงินมัดจำ และรับ Voucher เงินสด มูลค่า 2,000 บาท (จะได้รับภายใน 30 กันยายน 2559)

นั่นไง เอาแล้ว แค่มีโทรศัพท์จากค่ายมือถือที่จองเอาไว้มาเลื่อนรับเครื่อง กลุ่ม Note 7 ใน Facebook ก็จะระเบิดอยู่แล้ว นี่มีประกาศออกมาก็เหมือนจะทำให้ในกลุ่ม Note 7 สงบลงได้บ้าง ตัวเราเองไม่ได้โวยวายอะไรในกลุ่ม แค่คอยอ่านข้อมูล ดูความเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมันพูดไม่ออกไง มันมึนๆ เหมือนเรากำลังจะหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ซื้อมาเมื่อกี้แล้วมีคนวิ่งเข้ามาเอาไม้ตีหัวเราแย่งโทรศัพท์เราไปอย่างไง อย่างงั้นเลย

ประมาณ 21.25 น. ก็มี SMS จาก “Galaxy Gift” แจ้งถึงการเลื่อนรับเครื่องไปอย่างไม่มีกำหนด ตอกย้ำถึง 2 ข้อความซ้อน

วันที่ 2 กันยายน 2559

ในกลุ่มมีคนโพสแจ้งมาว่าได้รับเครื่องที่จองผ่าน S-eStore มาบ้างแล้ว แอบเห็นหมายเลขออเดอร์ หมายเลขออเดอร์ของเราลำดับก่อนของเขานี่ ทำไมเค้าได้ก่อนเราแถมมี SMS แจ้งว่ากำลังจัดส่งมาด้วย งงสิ มาตรฐานของ S-eStore นี่เป็นยังไงนะ

ประมาณ 20.00 น. Samsung ไทย ประกาศ “คำแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีการเลื่อนกำหนดการรับเครื่อง Samsung Galaxy Note 7” ซึ่งเป็นการแปลคำแถลงข่าวจากเว็บใหญ่ของ Samsung

วันที่ 3 กันยายน 2559

คนที่ได้รับเครื่องมาจากความผิดพลาดในการส่งของเริ่มมีปัญหากับตัวเครื่องกันแล้ว เป็นปัญหาเกี่ยวกับการค้างของระบบ และรีบู๊ตตัวเองหลายๆ ครั้ง เหมือนกับที่ต่างประเทศเคยรายงานปัญหานี้มาก่อนแล้ว

มีรายงานจากสมาชิกในกลุ่ม Note7 ที่จองจาก S-estore แล้วได้รับเครื่องก่อน ว่าบริษัทขนส่งจะมารับสินค้าคืน เนื่องจากเป็นคำสั่งจากทาง Samsung เรียกสินค้าคืน โดยของแถมที่ได้รับก็ต้องคืนกลับไปด้วย

วันที่ 5 กันยายน 2559

ประมาณ 11.45 น. Facebook เพจของ S-eStore ประกาศ “แนวทางดูแลลูกค้า Pre-Booking Samsung Galaxy Note7” โดยใช้ผู้ที่จะยืนยันการจอง – ยกเลิกการจอง เข้าไปกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม เพื่อรับสิทธิ์ชดเชยทั้งในกรณีรับส่วนลด และของแถมเพิ่ม สำหรับผู้ที่ยืนยันการรอสินค้า และการรับชดเชยแบบคูปอง 2,000 บาท และรับเงินมัดจำคืน สำหรับผู้ที่ยกเลิกการจอง โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 8 กันยายน 2559 นี้

  • การชดเชยกรณีที่ยืนยันรอรับสินค้า ที่ได้รับส่วนลดเพิ่ม 1,000 บาท จะทำการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ได้ให้ระบุเอาไว้ในแบบฟอร์ม โดยจะโอนให้ภายใน 3 สัปดาห์ หลังจากรับสินค้าแล้ว .. นี่แหละปัญหา ได้ส่วนลดแต่ก็ไม่รู้จะได้เมื่อไหร เพราะเครื่องก็ไม่รู้จะได้เมื่อไหร
  • การชดเชยกรณีที่ขอยกเลิกการจอง จะได้รับเงินมัดจำคืนจากร้านที่จองไว้ และ รับ Voucher เงินสด 2,000 บาท ภายใน 30 กันยายน 2559

พอเห็นโพสก็ดีใจนิดนึงที่ว่า S-eStore มีความเคลื่อนไหวบ้างแล้ว ถึงจะแค่นิดหน่อยก็ตาม ก็เข้าไปกรอกรายละเอียด เลือก “ยืนยันรอรับสินค้า” เพราะถึงอยากจะยกเลิก ไม่รู้ว่าจะต้องรอนานแค่ไหนถึงจะได้เครื่อง แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์รุ่นไหนที่อยากได้และตอบโจทย์เราได้เท่า Note7 เลย ก็เลยเลือกที่จะรอ

วันที่ 6 กันยายน 2559

ประมาณ 10.18 น. ได้รับ e-mail จาก S-eStore <no-reply@s-estore.com> ให้กรอกข้อมูลแจ้งความประสงค์ยืนยัน หรือยกเลิก

ประมาณ 12.15 น. มี SMS จาก Galaxy Gift แจ้งให้ลูกค้าที่สั่งจองผ่าน S-eStore กับ ShopAt7 กรอกข้อมูลยืนยัน หรือยกเลิก

เห็นได้ว่ามีความเคลื่อนไหวจาก S-eStore บ้าง ทีตอนจองแล้วเลื่อนนี่ไม่มีข่าวคราวเงียบหาย พอมีปัญหาส่งข้อความรัวๆ เลย

ประมาณ 20.35 น. Facebook Samsung Mobile Thailand ได้ลงประกาศ “การขอใช้สิทธิ์ยกเลิกการสั่งจองล่วงหน้า Samsung Galaxy Note7” ซึ่งก็เป็นอันเดียวกับที่ประกาศแจ้งทางหน้า Facebook S-eStore

มีคำตอบจาก Admin Samsung Mobile Thailand ตอบคำถามเอาไว้น่าสนใจดีทีเดียว เหมือนจะทำให้รู้ว่าเครื่องที่เรากำลังจะได้รับเป็นเครื่องเก่าที่รอส่งมอบเมื่อวันที่ 2 กันยา หรือเป็นเครื่องใหม่จากโรงงานผลิต

วันที่ 7 กันยายน 2559

วันนี้มีความเคลื่อนไหวเล็กๆ จากสมาชิกใน คลับ Note7 ใน Facebook แจ้งมาว่า “ทาง Samsung ไทย กำลังทยอยเรียกเครื่องที่อยู่ตามร้านรอส่งมอบทั่วประเทศกลับไปตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้”

อ่านแล้วเกือบจะดีใจ แต่เพิ่งจะทยอยเรียกกลับไปตรวจเหรอ นึกว่าเรียกกลับไปตรวจได้หมดแล้วซะอีก สรุปแล้วกว่าจะได้เครื่องที่สมบูรณ์คงจะอีกนาน

วันที่ 8 กันยายน 2559 

วันนี้มีกรณีที่ได้จองเครื่องกับทาง Lazada แล้วโดนยกเลิกออเดอร์ และทำเรื่องคืนเงินให้เอง โดยมีเหตผลประมาณว่า (กระทู้ต้นเรื่อง)

ความคิดเห็นที่ 3-1: หลังจากโทรไปถามมาครับ ทาง Lazada แจ้งว่าทาง Samsung บอกว่าไม่มีกำหนดส่งของ ทาง Lazada จึงทำการ Refund เงินคืน และให้คูปองมา 1,000 บาท ส่วนของแถมที่ทาง Samsung ให้ทางตอน Pre Booking และให้เพิ่มเติมเป็น Value Pack ฯ  Lazada บอกว่าจะไม่ได้ในส่วนนี้ ให้ลูกค้าติดต่อกับทาง Samsung เอาเองครับ สรุปแล้วยังไงครับ Samsung

เหมือนกรณีนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับคนที่จองเครื่องจากค่าย AIS แล้วเมื่อประมาณวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา มีสมาชิกในเพจแจ้งว่ามี เจ้าหน้าที่จาก AIS โทรมาให้ยกเลิกการจองเครื่อง Note7  (กระทู้ต้นเรื่อง) ซึ่งคำตอบก็น่าจะเคลียร์แล้วในกระทู้ครับ

วันที่ 9 กันยายน 2559

มีความเคลื่อนไหวมาอีกนิด มาจากเว็บPantip มีคนตั้งกระทู้ถาม Samsung ที่ส่งมอบล่าช้า และ Samsung ประจำเว็บได้มาตอบ ประมาณว่ากำลังหาบริษัทผลิตแบตเพิ่ม สำหรับการผลิตเครื่อง Note7 ใหม่ทั้งหมดอยู่ (กระทู้ต้นเรื่อง) ซึ่งก็แปลว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานแน่ๆ ไอ้ที่ว่าผลิตใหม่ทั้งหมดเนี่ย ทั้งหมดที่สั่งจองในไทย หรือว่าทั้งหมดที่จะขายทั่วโลก จะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ เป็นเดือนเหรอ?

วันที่ 10 กันยายน 2559

มีคำแถลงการณ์จาก Samsung Global เรื่องให้นำเครื่อง Note7 ที่ซื้อไปแล้วมาเปลี่ยนทันที โดย Samsung ไทย ได้แปลงและเพิ่มแถลงการณ์เกี่ยวกับเครื่องที่จะจำหน่ายในไทยลงไปในท้ายแถลงการด้วย โดยระบุถึงเครื่องที่จะขายในไทยจะเป็นเครื่องที่ผลิตใหม่ทั้งหมด และคนที่จองเครื่องจะได้ก่อนวางจำหน่ายทั่วประเทศแน่นอน แต่ก็ไม่ระบุช่วงเวลาแค่ปล่อยให้รอไปเรื่อยๆ

วันที่ 17 กันยายน 2559

วันนี้มีแถลงการออกมาอีก 1 ฉบับ เป็นเรื่องการส่งเครื่องเก่ากับไปยังเกาหลี และยืนยันเครื่องที่จะนำเข้ามาจำหน่ายจะเป็นเครื่องที่ผลิตใหม่ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วในข่าวตามเว็บไซต์ต่างๆ

จากแถลงการวันนี้ก็ยังไม่มีกำหนดการส่งมอบเครื่องจากทาง Samsung เลย เลยทำให้อดคิดไม่ได้ว่าทาง Samsung กำลังยื้อเวลาจนได้เครื่องมาส่งมอบซึ่งน่าจะหลายอาทิตย์ หรือเป็นเดือน คนที่โดนผลกระทบที่สุดคงจะเป็นคนที่สั่งจองเครื่องนั่นแหละ เพราะจองก็ต้องหวังจะได้เครื่องก่อนคนอื่น ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเรื่องแบตระเบิดมาคนจองก็รอต่อ เพราะคิดว่าคงไม่มีปัญหา และคงไม่ได้ใช้เวลานานจึงเลือกยืนยันรอต่อทั้งๆ ที่ทาง Samsung ไม่ได้แจ้งกำหนดเวลาในประกาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน หลังจากนั้นก็มีแถลงการณ์จาก Samsung มาอีกหลายฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับก็ไม่ได้มีความคืบหน้าเรื่องกำหนดเวลาส่งมอบ มีแต่แถลงการณ์เพื่อแจ้งความปลอดภัย แจ้งเรื่องที่ทาง Samsung Global แถลงออกมาก่อนแล้วเท่านั้น

ก็อยากให้ Samsung แจ้งลูกค้าที่จองไปตรงๆ เลยว่าทราบระยะเวลาส่งมอบหรือไม่ ไม่ทราบวัน ก็บอกช่วงระยะเวลาเป็นเดือนก็ยังดี เพื่อให้ลูกค้าที่จองทราบ และพิจารณาเอาเอง ว่าจะยืนยันจองต่อเพื่อรอรับเครื่อง หรือยกเลิกการจอง มันเสียเวลา เสียโอกาสมากๆ ที่เอาเงินไปจ่ายให้ความว่างเปล่าที่ไม่มีความชัดเจนแบบนี้  บอกมาเลยไม่ว่าจะนานแค่ไหน คนที่จะรอเค้าก็รอแน่นอน คนที่ไม่อยากรอจะได้ไม่เสียเวลา เสียความรู้สึก

แล้วยิ่งมาออกแถลงการณ์ที่ไม่ได้ชัดเจนกับคนที่จองเครื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ทำให้คิดไปว่าทาง Samsung รู้เวลาที่ได้รับเครื่องมาจำหน่ายอยู่แล้วละ แต่มันเป็นระยะเวลาที่นานมาก เลยไม่กล้าแถลงการณ์บอกลูกค้าตรงๆ เพราะกลัวจะเสียยอดที่จองไป เลยให้ลูกค้าที่จองทำการยืนยันรับเครื่องอีกครั้งเป็นการบังคับตัดสินใจไปในตัว ทั้งๆ ที่ลูกค้าก็ไม่รู้ว่าจะได้เครื่องในเดือนนี้หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ก็เหมือนเป็นการทำลายความรู้สึกดีของลูกค้าที่มีกับ Samsung ไปเลยละ

วันที่ 21 กันยายน 2559

มีกระทู้ใน Pantip ตั้งสอบถามเรื่องจะยกเลิกการจองเครื่อง Note7 ที่สั่งจาก S-eStore และได้มีความคิดเห็นของผู้ที่ประสบชะตากรรมการสั่งคจองเครื่อง Note7 มาร่วมแสดงความคิดเห็นและโหวตกระทู้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำในห้องมาบุญครอง (กระทู้ต้นเรื่อง) เข้าไปดูในเพจของ Samsung Mobile Thailand มีคนส่งกระทู้นี้ไปให้แอดมินเพจรับทราบด้วย

วันที่ 22 กันยายน 2559

ทาง Samsung ไทย ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการส่งมอบเครื่องแล้ว น่าจะได้รับแรงกดดันจากคนที่จองเอาไว้มาก ทั้งทาง Facebook Page ทั้งทาง Pantip และจาก สคบ. (มีคนที่จองเครื่องไว้ได้แจ้งไป) โดยกำหนดที่จะส่งมอบคือ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 พร้อมมอบหูฟังไร้สาย Samsung Level Active มูลค่า 2,990 บาท ให้อีก 1 อัน และที่สำคัญเครื่องล็อตใหม่จะไม่มีโลโก้ DUOS ที่ด้านหลังเครื่องแล้ว

ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่ได้ทราบกำหนดการส่งมอบเครื่องสักที มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ลูกค้าสั่งจองเครื่องทุกคนต้องการ ถึงมันจะอีกนานแค่ไหน ก็จะได้มีกำหนดการรอคอยให้มันสิ้นสุดลง ความสงสัยก็ยังมีอยู่ถ้า Samsung ไทยไม่ได้ถูกกดดันขนาดนี้จะมาบอกกำหนดการที่มีเวลายาวนานแบบนี้ไหม จากที่คิดเอาไว้ก็เหมือนจะมีเค้าความเป็นจริงที่ทาง Samsung ไทย ไม่กล้าบอกลูกค้าเพราะกลัวเสียยอดจองไป… และต่อจากนี้คงจะต้องมอง Samsung ไทย ใหม่โดยที่ความเชื่อมั่นในตัว Samsung ไทยนั้นได้หายไปหมดแล้ว

วันที่ 5 ตุลาคม 2559

มีข่าวจากสื่อดังอย่าง The Verge ได้เสนอข่าวเกิดการลุกไหม้ของ Note7 ล็อตใหม่ที่เปลี่ยนให้กับลูกค้า (Link ข่าว: Replacement Samsung Galaxy Note 7 phone catches fire on Southwest plane ) ซึ่งเป็นข่าวที่ Note7 เครื่องรุ่นที่เอาไปเปลี่ยนเป็นรุ่นปลอดภัยเกิดควันขึ้น และลุกไหม้บนเครื่องบิน ก่อนเครื่องจะขึ้น เป็นข่าวแรกๆ ของการเกิดลุกใหม้ในเครื่องที่แก้ไขแล้วเลย

วันที่ 7 ตุลาคม 2559

วันนี้มีบางคนที่ได้จองเครื่อง Note7 เอาไว้ ได้รับข้อความขยายเวลาการยกเลิกการจอง จากเดิมสามารถยกเลิกได้ถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2559 นี้ ขยายเวลาไปเป็นวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ซึ่งข้อความนี้ไม่ได้รับทุกคนที่จอง ถ้าคนไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ในคลับต่างๆ ก็จะไม่ทราบเลยว่ามีการเลื่อนเวลาการยกเลิกจอง ตัวผมเองจองกับ S-eStore ก็ไม่ได้รับข้อความอะไรเช่นกัน ถ้าเผื่อผมใจร้อนไปยกเลิกแล้วละ แล้วเครื่องกำลังจะส่งมอบกลางเดือนนี้ผมก็ซวยไปสิ

การเลื่อนครั้งนี้มองในแง่ดีของซัมซุงไทย น่าจะเกี่ยวกับการระเบิดรอบใหม่ คงต้องการให้ผู้ที่จองได้ติดตามสาเหตุการระเบิดก่อนให้เวลาตัดสินใจเพิ่มว่างั้นเถอะ

มองอีกมุมนึงก็น่าเสียใจคือ ภายในเดือนตุลาคมนี้ จะไม่มีการส่งมอบเครื่อง Note7 ให้กับลูกค้าที่จองเอาไว้อย่างแน่นอน ซัมซุงไทยคงจะถือโอกาสลากยาวไปจนถึงช่วงเวลาที่ตัวเองบอกเผื่อเอาไว้ซึ่งก็คือ 30 พฤศจิกายน 2559 ละมั้ง

วันที่ 8 ตุลาคม 2559

วันนี้ยังมีข่าวการลุกไหม้ของเครื่อง Note7 ล็อตปลอดภัยอยู่ คราวนี้เกิดที่ไต้หวัน เกิดกับผู้หญิงคนนึงขณะเครื่อง Note7 อยู่ในกางเกงยืนของเธอ (Link ข่าว Focus Taiwan, Appledaily.com )

วันที่ 9 ตุลาคม 2559

วันนี้ก็มีข่าวการลุกไหม้ของ Note7 มารัวๆ เลย วันนี้เป็นเครื่อง Note7 เกิดการลุกไหม้ขณะเด็กอายุ 13 ปี กำลังใช้งานเครื่องอยู่  (Link ข่าว kstp.com, The Verge )

ดูเหมือนว่ายังเกิดการลุกไหม้ตัวเองของ Note7 อยู่ แม้จะเป็นเครื่องที่ทาง Samsung บอกว่าปลอดภัยแล้วก็ตาม รึว่านี่จะถึงจุดจบของ Note7 แล้ว ตอนนี้ทาง Samsung ยังไม่ได้ออกมาบอกอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ส่วน Samsung ไทย ก็ยังไม่มีอะไรชี้แจงเพิ่ม กำหนดส่งมอบยังคงอยู่ที่ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 นี้อยู่

วันที่ 10 ตุลาคม 2559

วันนี้ยังมีเหตุ Note7 เกิดไฟลุกขึ้นอีกหลายเคส

สำนักข่าว Yonhap รายงานว่า Samsung หยุดการผลิต Samsung Galaxy Note7 ชั่วคราว (Link ข่าว)

Samsung US ประกาศหยุดจำหน่าย และเปลี่ยนเครื่อง รวมถึงเสนอให้เปลี่ยนเครื่อง Note7 ที่ใช้อยู่เป็นเครื่องรุ่น Galaxy S7 และ S7 Edge แทน (Link ข่าว)

วันที่ 11 ตุลาคม 2559

Samsung Global ได้ประกาศหยุดการจำหน่าย และเปลี่ยนเครื่อง Samsung Galaxy Note7  ทั่วโลกแล้ว แนะนำให้คนที่ใช้อยู่หยุดใช้งาน ทำการปิดเครื่อง และติดต่อศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด (Link ข่าว)

Samsung will ask all carrier and retail partners globally to stop sales and exchanges of the Galaxy Note7 while the investigation is taking place.

ส่วน Samsung ไทย ยังไม่มีประกาศอะไรออกมา ยังคงแจ้งกำหนดการรับเครื่องภายใน 30 พฤศจิกายน 2559 เหมือนเดิม

มีรายงานจาก The Wall Street Journal. ว่าทาง Samsung ที่เกาหลีประกาศหยุดการจำหน่าย Samsung Galaxy Note7 อย่างเป็นทางการแล้ว (Link ข่าว)

 Samsung Electronics Co. said Tuesday that it would permanently discontinue production and sales of its embattled Galaxy Note 7 smartphone, pulling the plug on a premium product whose botched recall has brought headaches to consumers and inflicted damage on the Samsung brand.

18.26 น. ยังไม่มีประกาศอะไรจากเพจ Samsung Mobile Thailand

วันที่ 12 ตุลาคม 2559

Samsung ไทย ได้ประกาศแนวทางปฏิบัติและการชดเชยสำหรับผู้ที่ทำการจองซื้อ Samsung Galaxy Note7 เรียบร้อยแล้ว คร่าวๆ มี 2 แนวทาง คือ

  • ผู้ที่จองสามารถเลือกซื้อเครื่องใหม่แทน Note7 มีรุ่นให้เลือกคือ Samsung Galaxy S7, S7Edge, Note5 ได้ในราคา 10,000 บาท พร้อมรับ หูฟังไร้สาย Samsung Level Active มูลค่า 2,990 บาท
  • สามารถยกเลิกการจอง โดยได้รับชดเชยเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท

จบแล้วนะครับสำหรับ Samsung Galaxy Note7 ที่ได้เปิดจองในประเทศไทย

วันที่ 18 ตุลาคม 2559

ผ่านมาจะครบอาทิตย์แล้วหลังจากประกาศยกเลิกการจำหน่าย Note7 คนที่จองอย่างเราก็รอข่าวจากทางสถานที่ที่เราจองไว้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป พวกที่จองกับช็อปซัมซุง หรือเครือข่ายโทรศัพท์ต่างๆ ก็มีโทรศัพท์มา, มี SMS มาแจ้งสิทธิ์การชดเชยจากการจองครั้งนี้กันแล้ว ส่วนของเรา S-eStore ยังคงไม่มีข่าวคราว ไม่มีการประกาศแจ้งสิทธิ์ ไม่มีข้อความ SMS แจ้งคนที่จองอะไรเลย เงียบเหมือนไม่มีบริษัทนี้อยู่ ในเฟสบุ๊คเพจก็มีแต่แชร์ประกาศของ Samsung Mobile Thailand มา และมีตอบคอมเม้นข้อความเดิมๆ ที่ Copy แล้ว  Paste อย่างเดียว มีคนถามถึงเรื่องจะใช้สิทธิ์ได้เมื่อไหร ก็ตอบแค่ว่าตามประกาศให้ใช้สิทธิ์ได้วันที่ 21 ต.ค. – 31 พ.ย. 59 อะไรนะ! ต้องรอตั้งวันที่ 21 ต.ค. เลยเหรอ แล้วถ้าจะใช้สิทธิ์ซื้อเครื่องตามประกาศจะได้รับเครื่องวันไหนละ ที่อื่นๆ ที่เปิดจองเค้าทยอยถามลูกค้าที่จองแล้วว่าจะเลือกเครื่องรุ่นไหน และจะได้รับเครื่องวันที่ 21 ต.ค. นี้ แล้วนี่ร้านของซัมซุงไทยเองแท้ๆ ไม่สำรวจความต้องการล่วงหน้าเหรอ รอให้ไปกรอกบนหน้าเว็บวันที่ 21 ต.ค. เลยเนี่ยนะ แล้วรุ่นที่คนจะเลือกเยอะๆ หมดเนี่ยก็เหมือนกับไปแข่งกันกดซื้อของหน่ะสิ ไม่ได้ใจลูกค้าเลย คนที่จองกับที่อื่นได้รับเครื่องกันแล้ว เหลือพวกที่จองกับเว็บของซัมซุงไทยเองได้ช้ากว่าคนอื่นซะนี่ คนจองกับ S-eStore ก็หน้าหงายเลยละสิ

ดังนั้นโปรดจำเอาไว้เลยว่าถ้าไม่เดือดร้อนมากมายอะไรจะสั่งจองมือถือใหม่คราวหน้าไปติดต่อ Shop ติดต่อศูนย์เครือข่ายต่างๆ ดีกว่ามาก มองผ่าน S-eStore ไปเลย ไม่ต้องเอาชื่อเว็บนี้มาใส่ใจเพราะมันไม่ได้ดีเหมือนที่ว่าเป็น Online Shop โดยตรงของทาง Samsung ไทย เรียกว่าไม่มีมาตรฐานอะไรเลย ติดต่อ CallCenter แต่ละครั้งถ้าไม่มีบุญจริงก็ไม่ได้คุย รอสาย 10 นาที แล้วตัดสายเฉยๆ ก็มี โดยเฉพาะการแจ้งข่าวสาร ปัญหา หรือแจ้งการใช้สิทธิ์ต่อลูกค้า ที่แทบจะไม่มีมา หรือมีจะได้รับไม่ครบทุกคน เป็นสิ่งที่แย่มากๆ

วันที่ 21 ตุลาคม 2559

วันนี้เป็นวันที่รับลงทะเบียนใช้สิทธิ์ชดเชยการจอง Samsung Galaxy Note7 จาก Samsung ไทย โดยไปติดต่อที่ศูนย์ หรือ ช็อป ที่ได้ทำการจองเอาไว้

สำหรับคนที่จอง Online กับ S-eStore สามารถเข้าไปกรอกข้อมูลใช้สิทธิ์ได้ในเว็บไซต์ แนวทางการดูแลลูกค้า Pre-Booking Samsung Galaxy Note7 ขั้นตอนจะมีตามภาพด้านล่างเลยครับ

เครื่อง Note5 ที่มีมาให้ใช้สิทธิ์นั้นตอนแรกคิดว่าจะมีแค่สีทอง กับ สีเงิน เพราะในหน้าเว็บของ S-eStore เองที่เปิดขายก็มีแค่ 2 สีนี้ แต่วันนี้มี “สีดำ” มาให้เลือกด้วยซะงั้น เคยได้ยินมาว่าสีดำเป็นสีที่มีเฉพาะช่วงเปิดขาย Note5 ใหม่ๆ เท่านั้นและหมดไปนานแล้วแปลกดีเหมือนกัน ใครที่จองเอาไว้ก็ไปเลือกใช้สิทธิ์ได้ตามสะดวก ส่วนตัวเลือกเอา Note5 สีดำ เพราะมี S7 Edge แล้ว เอา Note5 มาใช้งานปากกาแทน Note7 ระหว่างรอ Note รุ่นต่อไปแล้วกัน

เงินส่วนต่างนั้นถ้าดูในเว็บไม่ได้แจ้งอะไร แต่ในเพจของ S-eStore แอดมินแจ้งว่าจะทำการโอนเงินคืนตามเลขที่บัญชีที่เคยให้แจ้งไปในครั้งก่อน ต้องรอดูอีกที แล้วจะมาแจ้งข้อมูลต่อในโพสนี้

วันที่ 22 ตุลาคม 2559

วันนี้พบว่า S-eStore มี 2 มาตรฐานซะแล้ว สมาชิกที่ได้สั่งจองจาก S-eStore และได้โทรติดต่อไปยัง S-eStore ช่วงหลังจากมีประกาศชดเชยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ติดต่อไปสามารถยืนยันการใช้สิทธิ์ก่อนกำหนดเวลา (วันที่ให้ใช้สิทธิ์คือ 21 ตุลาคม 2559) โดยไม่ต้องไปกรอกข้อมูลในวันที่ 21 ตุลาคม 2559 นี้อีก แถมมีการแจ้งวันที่จะดำเนินการจัดส่งเครื่องในวันที่ 21 ตุลาคม 2559 อีกต่างหาก และได้รับเครื่องที่เลือกรับแทนกันแล้วในวันนี้ แล้วไอ้คนที่ไม่ได้โทรไปถามเรื่องใช้สิทธิ์ก่อนนี่ก็รอต่อไปอีกสิ คือคนที่ไม่โทรก็ไม่ได้เครื่องเร็วในช่วงวันหยุดนี้ แต่คนที่ปฏิบัติใช้สิทธิ์ถูกต้องตามประกาศกลับต้อง “รอ” ใช่รอจัดส่งของอีก 3 – 7 วัน บอกได้คำเดียวว่า “แย่มาก” แล้วอย่าหาว่าทำไมอยากได้เร็วไม่โทรไปขอใช้สิทธิ์ล่วงหน้าละ? คิดว่าไม่โทรเหรอไอ้เบอร์ Call Center หน่ะ โทรสิ โทรหลายครั้ง หลายรอบ กี่ครั้งก็ไม่มีคนรับสาย รอสายเป็นสิบนาที เลยล้มเลิกไป ไม่คิดว่า S-eStore จะทำแบบนี้

วันที่ 26 ตุลาคม 2559

รอลุ้นว่าเครื่องจะส่งมาให้วันไหนตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่มา โทรไปหา Call Center ก็แล้วรอสายเป็นครึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้คุย ฝากข้อความให้ติดต่อกับบน Facebook Page ตั้งแต่เมื่อวานกว่าจะอ่านก็บ่ายๆ วันนี้ และติดต่อกลับมาเมื่อตอนห้าโมงเย็น แจ้งว่าเครื่อง Samsung Galaxy Note5 สีดำ ที่ได้เลือกเอาไว้ ไม่มีสินค้า เนื่องจากสินค้าขาดตลาด จึงขอเสนอให้เปลี่ยนไปรับ Note5 สีทอง หรือ Samsung Galaxy S7 หรือ S7Edge แทน หืมมม.. เลยถามกลับไปว่า Note5 สีดำ ถ้ารอจะมาตอนไหน ตอบกลับมาว่า “ยังไม่มีกำหนดว่าจะมาวันไหน” คือไม่มาแล้วใช้ไหม ก็เลยเปลี่ยนเอา Note5 สีทอง มาแทน ผมถามต่อว่าจะได้เครื่องวันไหนละ ตอบกลับมาว่า ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่? ตอบมาว่า “ใช่ ไม่เกินวันศุกร์หน้าจะได้เครื่อง” สรุปรอมา 2 วัน ยังไม่ไปถึงไหนเลย ยังไม่ได้จัดส่ง แถมเหมือนจะไม่มีของมาส่งด้วย

คำถามที่สงสัยคือ

  • ระบบกรอกใช้สิทธ์ไม่ได้อิงตามสต็อกเครื่องแต่ละรุ่น แต่ละสี ของ S-eStore เหรอ?
  • มีระบบสต็อกสินค้าหรือไม่?
  • ได้จัดเครื่องให้ตามคิวที่ลงทะเบียนรึเปล่า? (อันนี้ผมลงทะเบียนตอนประมาณ 8 โมงเช้า แสดงว่าเครื่อง Note5 สีดำมีน้อยมาก แล้วทำไมไม่จำกัดการเลือกก่อนลงทะเบียน)
  • ในระหว่างวัน ของวันที่ 21 ต.ค. วันที่ลงทะเบียน ไม่มีการตรวจสอบออเดอร์เหรอว่าใช้สิทธิ์เลือกรุ่น เลือกสีที่ไม่มีสต็อกแล้ว?
  • ทำไมวันนี้ ยังคงให้ใช้สิทธิ์เลือก Note5 สีดำ อยู่บนหน้าเว็บที่ให้กรอกใช้สิทธิ์อยู่? (ในเมื่อแจ้งมาว่าไม่มีกำหนดการนำเข้า)
  • S-eStore มีระบบบริหารจัดการหลังบ้านรึเปล่า?

ปัญหาที่คล้ายกันก็เกิดขึ้นกับรุ่น Galaxy S7Edge สีดำ ที่คนนิยมเลือกกันด้วย มีการติดต่อกลับมาแจ้งว่าสีดำหมด ให้เปลี่ยนสีแทน หรือยังคงต้องการสีดำจะต้องรอเครื่องถึงวันที่ 21 พ.ย. 59 เลย

จะเห็นได้ว่าระบบบริหารจัดการการใช้สิทธิ์ของ S-eStore นี้ไม่มีการบริหารจัดการเลย เพียงแค่ให้กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ แล้วค่อยโทรกลับมาแจ้งปัญหากับลูกค้าทีละคน ทีละคน เป็นระบบที่มีประสิทธิ์ภาพประเภทไหนกัน ผู้อ่านที่ได้มาอ่านข้อมูลในครั้งนี้คงจะมีข้อมูลในการตัดสินใจที่จะเลือกใช้บริการกับ S-eStore หรือไม่แล้วนะ

วันที่ 27 ตุลาคม 2559

มีการติดต่อมาจาก S-eStore อีกครั้ง โดยมาแจ้งเรื่องเดิม คือ Note5 สีดำหมด และให้เปลี่ยนเป็นสีทอง คือทาง S-eStore ไม่ได้มีการบันทึกรายการติดต่อลูกค้าแต่ละออเดอร์ไว้เหรอ ถึงได้ทำงานซ้ำซ้อนกันแบบนี้ พออธิบายว่าได้แจ้งเปลี่ยนสีเครื่องไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็เลยถามกลับไปว่าออเดอร์ของผมนี่ไปถึงไหนแล้ว พนักงานหายไปสักพักก็กลับมาบอกว่า ออเดอร์นี้อยู่ในรายการที่จัดส่งเมื่อวานนี้แล้ว คือน่าจะเตรียมการจัดส่งแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แล้วก็วางสายไป

วันที่ 28 ตุลาคม 2559

S-eStore ติดต่อกลับมาอีกครั้งคราวนี้เป็นการติดต่อโดยแอดมินจากเฟสบุ๊คแจ้งให้ติดต่อกลับมาที่เรา ซึ่งเราได้ถามความคืบหน้าของออเดอร์ไปทางเพจ เลยถามไปว่าออเดอร์เราเนี่ยส่งไปถึงไหนแล้ว อยากทราบสถานะ เจ้าหน้าที่รับเรื่องเอาไว้ แล้วจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง

20 นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาแจ้งว่าออเดอร์อยู่ในกระบวนการจัดส่งแล้ว เลยถามกลับว่ากระบวนการจัดส่งนี่ได้จัดส่งหรือยัง พนักงานตอบกลับมาว่ายัง เป็นกระบวนการแพ็คของสำหรับจัดส่งอะไรแบบนี้ ไหนเมื่อวานบอกว่าดำเนินการไปแล้วไง เจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ ถามกลับไปอีกว่าทาง S-eStore ไม่มีระบบแจ้งลูกค้าทางเมล์เมื่อสินค้าได้ถูกจัดส่งแล้วเหมือนร้านค้าออนไลน์อื่นๆ เหรอ? เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า ไม่มี จะให้รออีกกี่วันก็ตอบแค่ จัดส่ง 3-7 วันทำการ แล้วก็สิ้นสุดการคุย

นี่จะให้นับวันรอ 7 วันใหม่ทุกครั้งที่ติดต่อไปรึไง แล้วสรุปออเดอร์ก็ยังไม่ได้จัดส่งอีก

มีข้อมูลในเฟสบุ๊คเพจเห็นว่าแอดมินของเพจ S-eStore หรือ Samsung Mobile Thailand ไม่รู้แจ้งข้อมูลมาว่าออเดอร์ของพวกเขาจะถูกจัดส่งวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 นี้ หลายๆ คนก็ได้แจ้งข้อมูลเดียวกันนี้เช่นกัน

ถ้าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง มันน่าข้องใจที่ทาง S-eStore จะจัดส่งวันที่ 4 พ.ย. ไม่มีของ หรืออะไร ทำไมต้องใช้เวลาอีกเป็นอาทิตย์กว่าจะจัดส่งให้ลูกค้า ซึ่งได้จ่ายเงินให้แล้ว ในทางกลับกันถ้าเห็นความสำคัญของลูกค้าน่าจะเร่งดำเนินการจัดส่งให้ถึงมือโดยเร็วที่สุดไม่ใช่รึอย่างไร

วันที่ 31 ตุลาคม 2559

ได้สอบถามสถานะของการจัดส่งไปทางเพจของ S-eStore  และได้รับการตอบกลับมาว่า

จากที่ผมดู ออเดอร์ลูกค้ารอระบุรอบอยู่ครับ
เนื่องจากมาการแจ้งเปลี่ยนสีเข้ามาครับ
ถ้าหากทราบวันที่จัดส่งจะแจ้งให้ทราบครับ

“รอ” ยังต้องรออะไรอีก และไอ้ที่ว่าแจ้งเปลี่ยนสีเข้าไปเนี่ย คุณนั่นแหละเป็นคนมา(เชิงบังคับ)ให้เปลี่ยนสี เราไม่ได้เป็นคนขอเปลี่ยนสีเข้าไป ทาง S-eStore จะใช้คำว่ามีการแจ้งเปลี่ยนสีเลยทำให้ออเดอร์ต้องอยู่ในสถานะรอจัดส่งไม่ได้นะ

ระหว่างนี้ยังคงสอบถามและบ่นไปยังเพจ S-eStore เป็นระยะ แต่ก็ไม่มีการอ่าน หรือตอบกลับแต่อย่างใด

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559

แอดมินเพจ S-eStore ตอบกลับมาแล้วครับ แจ้งว่าออเดอร์จะถูกจัดส่งวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 นี้ โดยต่างจังหวัดจะใช้เวลาส่งประมาณ 2 วันทำการ

มีใครสงสัยเหมือนกันไหมว่าทำไมถึงไม่ส่งทุกวัน ทุก 2 วันก็ยังดี เอาไปส่งวันที่ 4 พ.ย. ซึ่งหลายๆ คนก็ได้รับแจ้งว่าจะจัดส่งวันที่ 4 นี้ มาเป็นอาทิตย์แล้ว ส่งทีเดียวเยอะๆ ประหยัดกว่าเหรอ? คิดว่าน่าจะเป็นออเดอร์ที่ถูกบังคับให้เปลี่ยนสีเครื่องกันส่วนมาก แล้วทำไมถึงใช้เวลาดำเนินการหาเครื่องหรือไงนานขนาดนี้

ไม่มีอะไรที่จะพูดให้รู้สึกดีขึ้นได้เลยตอนนี้ การบริการของ S-eStore นั้นแย่มากๆ

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559

วันนี้เป็นวันที่ทาง S-eStore จะดำเนินการจัดส่งเครื่องโทรศัพท์ที่ลูกค้าเลือกใช้สิทธิ์ซื้อราคาพิเศษไว้ แต่มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ช่วงบ่ายๆ ได้ลองส่งข้อความไปยังเพจ S-eStore ขอหมายเลข Tracking ของพัสดุที่จัดส่ง ในใจคิดว่าแค่ขอเล่นๆ ไม่คิดว่าจะได้จริง แต่ทางแอดมินได้ส่งหมายเลข Tracking มาให้ เป็นหมายเลขของทางขนส่ง Kerry ลองเอาหมายเลขไปเช็คสถานะดูขึ้นว่าส่งออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ วันนี้นั้นถึงศูนย์กระจายพัสดุที่โคราชแล้ว เลยติดต่อไปยังศูนย์ Kerry ที่โคราช เจ้าหน้าที่แจ้งว่าพัสดุอยู่บนรถสำหรับจัดส่งแล้ว จะดำเนินการจัดส่งให้วันนี้ รอรับโทรศัพท์จากคนส่งของที่จะโทรสอบถามด้วย และตอนบ่ายสาม ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามที่อยู่ และก็ได้พัสดุวันนี้พอดี เป็นครั้งแรกที่แปลกใจกับ S-eStore ที่ดำเนินการจัดส่งก่อนวันที่แจ้ง เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้วเมื่อมีของพร้อมที่จะจัดส่ง สรุปว่ารอเครื่องหลังจากกรอกใช้สิทธิ์ไปราวๆ 2 อาทิตย์ ถ้านับแค่วันทำการก็ 9 วัน ซึ่งไม่อยู่ในช่วง 3-7 วันหลังกรอกข้อมูลใช้สิทธิ์ตามที่ประกาศแจ้งนะ

เครื่องที่ได้มาเป็นเครื่องล็อตใหม่เอี่ยม ล็อต “2016.10.19” เพิ่งผลิตก่อนวันที่จะให้ลงทะเบียนในวันที่ 21 ต.ค. 59 แค่ 2 วัน สายการผลิต Note5 นี่ยังมีผลิตอยู่เหรอเนี่ย หรือว่าผลิตเป็นกรณีพิเศษก็ไม่อาจจะรู้ได้ เพียงแต่เสียดาย Note5 เครื่องสีดำ ที่อยากได้มากกว่า แต่ได้มาเป็นสีทองแทนเสียใจนิดหน่อยนะเนี่ย ยิ่งรู้ว่าเป็นเครื่องผลิตใหม่ๆ แต่ทำไมไม่มีกำหนดของเข้ามาใหม่ละ เสียดายเครื่องสีดำจริงๆ

ต่อจากนี้ก็ยังมีการรอคอยต่อ ต่อไปก็รอยอดเงินส่วนต่างที่ได้จ่ายไปแล้วคืนเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งได้ระบุจากครั้งก่อนๆ ว่า หลังจากได้รับเครื่องแล้วประมาณ 14 วัน และ รอหูฟังที่จะเริ่มจัดส่งวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 นี้

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559

วันนี้มีเจ้าหน้าที่ของ S-eStore ติดต่อมาขอสำเนาบัตรประชาชน กับสมุดบัญชีธนาคารอีกครั้ง เนื่องจากได้รับแจ้งมาจากอีกส่วนว่าได้รับเอกสารไม่ครบ ก็ถามกลับไปว่าเอกสารที่เคยส่งเข้าไปยืนยันใช้ไม่ได้เหรอ? เจ้าหน้าที่ตอบมาว่าใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ระบุว่า “ขอรับเงินค่าส่วนต่าง”. แล้วทำไมเพิ่งมาขอตอนนี้ ตอบมาว่าได้รับแจ้งจากอีกส่วนงานเลยติดต่อมา โดยให้ส่งเอกสารทั้งหมดไปยัง e-mail ที่จะส่ง SMS มาให้ โดยใช้เวลาคืนเงินประมาณ 7 วันทำการ

ยืดออกไปอีกกับการรับเงินคืน รู้ว่าหน่วยงานตัวเองเรื่องมากขนาดนี้แล้วทำไมไม่ขอเอกสารที่ระบุอะไรที่ต้องการให้ครบตั้งแต่วันที่เปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ก็ไม่รู้ มีปัญหามาให้ตลอดๆ

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559

วันนี้ยอดเงินคืน 17,900.00 บาท ได้คืนเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาการคืนเงินหลังจากได้รับเครื่องเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาก็ประมาณ 13 วัน โดยต้องเริ่มนับวันรอใหม่ตอนที่แจ้งให้ส่งเอกสารอีกรอบเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ก็เป็นเวลา 8 วัน หรือ 6 วัน นับจากวันปกติเวลาราชการ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559

วันนี้ได้รับหูฟัง Samsung Level Active เรียบร้อยแล้ว ถึงจะช้ากว่าคนที่จองจาก่ช่องทางอื่นๆ หน่อย แต่ก็ยังได้ในอาทิตย์แรกที่ประกาศส่งมอบละ

หมดแล้วครบทุกอย่างสำหรับเรื่องราวการจองซื้อเครื่อง Note7 ในครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มจองวันที่ 5 ส.ค. 59 จนมาถึงวันนี้ก็ 3 เดือนกว่า เกือบๆ 4 เดือน

ขอสรุปความรวมไว้ตรงนี้ว่า

เป็นการจองเครื่อง Note7 กับทาง S-eStore ร้านค้าตัวแทนของทาง Samsung ไทย ที่ได้จองแบบจ่ายเงินจองเต็มจำนวน และเกิดปัญหาการเลื่อนส่งมอบเครื่องให้แก่ลูกค้า ทั้งแบบมีเหตุผล และแบบไม่มีเหตุผลต่างๆ ทาง S-eStore ไม่มีความสามารถในการปฏิบัติ ชี้แจง แก้ปัญหาได้รวดเร็ว และเหมาะสม เหมือนกับการสั่งจองผ่านช่องทางอื่นๆ CallCenter ติดต่อไม่ได้เมื่อต้องการ ทั้งที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Samsung ไทย ในการขายเครื่อง และอุปกรณ์ของ Samsung เอง ดังนั้นควรจะมองหาตัวแทนอื่นๆ น่าจะดีกว่าในการสั่งจองหรือซื้อสินค้าในอนาคต

ส่วนคนที่กำลังอ่านอยู่คงต้องตัดสินใจเองว่าจะใช้บริการหรือไม่ เพราะบทความทั้งหมดนี้เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เจอมาเท่านั้น


อ้างอิง

Blog: สะสมแสตมร้านสะดวกซื้อ ร้าน 7Eleven และ Tesco Lotus Express

มีใครชอบสะสมแสตมแลกของพรีเมี่ยมตามร้านสะดวกซื้อบ้างครับ ผมคนนึงละ ถึงจะรู้ว่ากำเงินที่ซื้อสินค้าสะสมแสดมเอาไปซื้อของที่อยากได้เลยดูท่าทางจะง่ายกว่า และอาจจะถูกกว่าราคาสะสมด้วย แต่มันก็เป็นเพราะอะไรไม่รู้ที่สั่งการให้เราสะสมแสตมอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะเมื่อเราสะสมแสตมครบตามจำนวนแล้วเอาไปแลกและได้ของกลับมามันทำให้มีความสุขมากกว่าการกำเงินแล้วไปซื้อเองก็เป็นได้

ปีนี้ที่เห็นชัดๆ มี 2 ร้าน ที่เปิดโปรโมชั่นสะสมแสตม เริ่มโดย Tesco Lotus Express ที่มีคอเล็คชั่น Doraemon (21 ก.ค. – 31 ส.ค. 59) โดยเป็นสินค้าคล้ายกับของปีที่แล้วที่เปลี่ยนลายมาให้แลกกัน อีกร้านก็เป็นเจ้าประจำอย่าง 7Eleven เหมือนจะรู้ทางแล้วคราวนี้มากับสินค้าลาย  Hello Kitty + LINE เป็นของพรีเมี่ยมแบบใหม่ๆ กับสามารถแลกเครื่องใช้ในครัวได้อีกด้วย

สำหรับตัวผมเองแล้วเลือกแลกของพรีเมี่ยมที่คิดว่าจะเอามาใช้ได้ดีที่สุดในแต่ละรอบของโปรโมชั่น สำหรับร้าน Tesco Lotus Express เลือกกล่องแก้วถนอมอาหาร 1 ชุด มีจำนวน 4 ชิ้น ที่ดูน่าจะได้ใช้บ่อย จากรอบก่อนที่เป็นลาย B-Duck ก็ได้ใช้งานกล่องแก้วนี้จนคุ้มไปแล้ว

ส่วนของร้าน 7Eleven เลือกแลกกล่องข้าว กับเก้าอี้พับ ที่น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ต่อได้ กล่องข้าวนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะแข็งแรงแค่ไหน แต่ก็ใช้แสดมไม่มากเลยได้แลกมาก่อน และก็สะสมต่อแลกเก้าอี้พับซึ่งเคยแลกเก้าอี้พับแบบตัวเตี้ยมาแล้วเมื่อปีก่อน คุณภาพดีใช้ได้แข็งแรงทนทานพอสมควร เลือกเลือกแลกเป็นชิ้นต่อมา ของพรีเมี่ยมร้าน 7Eleven นี้ต้องลงทะเบียนแลกและนัดรับสินค้าอีกทีนึงไม่เหมือน Lotus Express ที่แลกรับได้ทันที (บางรายการ)

แล้วเลือกที่แลกสินค้าพรีเมี่ยมอะไรกันบ้าง เข้ามาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

Blog: วันที่ 29 สิงหาคม 2559

เช้าวันนี้เริ่มต้นวันด้วยน้ำฝน ฝนตกพรำตลอดเส้นทางมาทำงาน เป็นช่วงเช้าที่ทุกๆ อย่างดูช้าลง คงเป็นเพราะฝนที่ทำให้ทุกอย่างดูช้าไปหมด ผู้คนที่เดินข้างถนน ร้านค้าที่เตรียมขายของ รถประจำทาง หรือแม้แต่รสส่วนบุคคลทั่วไปก็ดูเหมือนจะทำสิ่งที่เคยทำอยู่ทุกๆ วันช้างลงไปด้วย แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราได้หันกลับไปมองในสิ่งที่เราไม่เคยมองมาก่อนได้ กลับไปคิดในสิ่งที่เราลืมคิดถึงได้ด้วยเหมือนกัน…

พูดถึงเรื่อง “ช้า” ทำให้นึกถึงไปรษณีย์ไทยเหมือนกัน พัสดุลงทะเบียนที่สั่งของไว้ตอนนี้ก็ครบ 1 อาทิตย์ กับ 1 วัน แล้วที่ยังเดินทางมาไม่ถึงบ้านเลย ครบ 1 อาทิตย์เต็มเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เช้าวันเสาร์กดเช็คสถานะ ขึ้นเตรียมจัดส่ง ก็ดีใจที่จะได้รับพัสดุแล้ว แต่ก็รอเก้อ บ่ายสองกดเช็คสถานะใหม่ดันขึ้นสถานะ “อื่นๆ” ไปรษณีย์ไม่มาซะงั้น ดีจริงๆ วันนี้วันจันทร์แล้ว ขึ้นสถานะ “นำจ่ายใหม่” คิดว่าการเดินทางของพัสดุกล่องนี้น่าจะสิ้นสุดลงเสียที เหนื่อยแทนเลย


Aquafina Vit Zaa – Green Apple, Orange  แอ๊ปเปิ้ล เขียว และ ส้ม น้ำหนัก 445 มล. ราคา 16 บาท

ขอเล่าเรื่องลองชิมนบล็อกนี้แล้วกัน ว่าจะไม่เขียนถึงแล้วเพราะมันไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็เห็นเพิ่งมาโฆษณาไม่กี่วันมานี้ ไอ้ที่ว่านี้ก็คือ อควาฟิน่า วิตซ่า – Aquafina Vitzaa เป็นชื่อสินค้าที่เรียกยากอีกตัวเลย

ง่ายๆ เลยมันก็คือเครื่องดื่ม (หรือน้ำหวาน) วิตามิน น้ำใส กลิ่นผลไม้นั่นเอง ลองชิมรสส้มก่อนถึงกับมองขวดว่ามันรสอะไร มันคือรสส้ม เป็นรสส้มที่แปลกไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย แบบว่าไม่ค่อยชอบกลิ่นส้มที่ออกเหม็นๆ แบบนี้เท่าไร ส่วนรสชาติก็หวานเหมือนเครื่องดื่มทั่วๆ ไป ส่วนสีเขียวเป็นกลิ่นแอ๊ปเปิ้ลเขียวแบบสังเคราะห์ที่พบได้ทั่วๆ ไป แน่นอนว่าต้องหอมน่ากินด้วย กลิ่นดีกว่ารสส้มมากเลยทำให้สีเขียวนี้ดูเป็นน้ำหวานกลิ่นแอ๊บเปิ้ลธรรมดาไปเลย จุดขายของน้ำชิ้นนี้ก็น่าจะเป็นวิตตามิน B3, B6 ที่ใส่เสริมเข้ามา ประมาณว่านี่คือ “เครื่องดื่มนี้มีประโยชน์นะ” และด้านความสวยงามทันสมัยยกให้เค้าเลย ขวดบรรจุภัณฑ์สีสวยดูน่ากิน ตอนที่ดูอยู่หน้าตู้นี้นึกว่าขวดเปล่า น้ำใสมาก มากที่สุด ดูแล้วน่ากินมาก เป็นเครื่องดื่มตัวใหม่ที่น่าลอง

Blog: วันที่ 22 สิงหาคม 2559

การรับไปรษณีย์แบบลงทะเบียนในช่วงปัจจุบันนี้ รู้สึกไหมว่ามันใช้เวลาการส่งนานกว่าที่เคย จากที่เคยใช้เวลาประมาณ 3 – 4 วันทำการ ที่ส่งจาก กรุงเทพฯ – โคราช ปัจจุบันใช้เวลา 5-7 วัน เรียกว่าเต็มระยะเวลากำหนดของการจัดส่งแบบลงทะเบียนเลย ไม่ได้ว่าจัดส่งช้าแล้วผิดเพราะยังอยู่ในระยะเวลาเงื่อนไข แต่มันไม่เหมือนมาตรฐานเดิมๆ ที่เคยทำเอาไว้เท่านั้นเอง ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกว่าไปรษณีย์ไทยจัดการงานได้ไม่เหมือนเดิม

Blog: 21 สิงหาคม 2559

เมื่อเช้าสั่งเคส UAG ของ Samsung Galaxy Note 7 จากเว็บของ UAG เองเลย มันมีปัญหาตอนตัดยอดจากบัตรเครดิตนิดหน่อย คือใส่ข้อมูลบัตรไปหมดแล้วกดให้ดำเนินการต่อ หน้าจอก็ประมวลผลแล้วเด้งกับหน้าจอเดิมคือแจ้งว่า “billing address info was not matched by the processor” แต่มี SMS จากธนาคารแจ้งว่ามีการใช้จ่ายแล้วเรียบร้อย ตามจำนวนเงินที่ระบุมา แต่ในเว็บการสั่งซื้อยังขึ้นให้ชำระเงินอยู่ ก็คิดสักพัก – เงินก็ตัดแล้วแต่ออเดอร์ยังไม่สมบูรณ์ – เลยเปลี่ยนวิธีจ่ายเงินโดยใช้ PayPal ก็เป็นไปตามระบบจ่ายได้สมบูรณ์แค่จ่ายเพิ่มกว่าของบัตร Visa นิดหน่อย เลยจะมาเขียนเตือนตัวเองคราวหน้าถ้าสั่งเคสจากเว็บอีกให้เลือกจ่ายแบบ PayPal น่าจะปลอดภัยกว่า

แล้วยอดที่จ่ายซ้ำ 2 ครั้งละทำไง ก็โทรไปหา Call Center ของบัตรเครดิต (ธนาคาร TMB) สอบถามถึงยอดที่จ่ายไปซ้ำทั้ง 2 ยอด รอพนักงานรับสายนานมากคงเพราะโทรวันอาทิตย์ แต่ก็ได้คุยกับพนักงานแจ้งปัญหาและให้พนักงานตรวจสอบยอดใช้จ่าย สักพักพนักงานก็แจ้งว่ามี 2 ยอด (ก็ใช่นะสิ) แต่ทางธนาคารไม่สมารถดำเนินการอะไรให้ได้เพราะยอดทั้งสองได้ทำการจ่ายไปแล้ว(คงเป็นระบบของธนาคารมั้ง) เลยถามว่าถ้าจะยกเลิกยอด 1 ยอดที่จ่ายไปในร้านเดียวกันนี่จะต้องทำอย่างไร พนักงานแจ้งว่าต้องติดต่อกับทางร้านค้าที่เราได้ทำการซื้อสินค้าด้วยเท่านั้นที่จะทำเรื่องคืนยอดเงินได้ โอเคแนะนำได้ดีมากเลย ก็เลยวางสายไปไม่ถามอะไรอีก

ก็เลยส่งข้อร้องเรียนไปในระบบบริการลูกค้าของทางเว็บ urbanarmorgear.com แจ้งปัญหาที่เกิดด้วยภาษาอังกฤษที่ดู งูๆ ปลาๆ แล้วมารอดูว่าจะยกเลิกยอดเงินที่มีปัญหานั้นได้รึเปล่า

ทางเว็บได้ตอบกลับมาเมื่อบ่ายสาม ทำงานเร็วมากแจ้งตอนเที่ยง ตอบกลับมาตอนบ่ายสาม วันอาทิตย์และน่าจะเป็นเวลาช่วง ห้าทุ่ม – ตีหนึ่ง ของทางประเทศเค้าอีก ได้ใจไปเลย เค้าอธิบายมาว่า

ปัญหาจากที่แจ้งมาจะเป็นที่ระบบของทางธนาคารเอง แล้วยอดเงินที่เราจ่ายซ้ำไปละ? ประมาณว่าถ้าข้อมูลการชำระเงินไม่ตรงกับในระบบ ยอดเงินนั้นๆ จะไม่มีใครรับไป และระบบก็จะเข้าใจว่ามัน “declined” หรือ ปฏิเสธ  ยอดนั้นไป และยอดเงินก็จะกลับเข้าบัญชีเอง ที่จะต้องใช้เวลาสักพัก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ายอดเงินนี้จะเป็นอย่างไร จะคืนเข้าบัญชีบัตร หรือธนาคารของเราจะตัดยอดให้เราจ่ายกัน เดี๋ยวจะมาแจ้งกันนะครับว่าเป็นอย่างไร ถึงจะต้องจ่ายยอดที่ซ้ำไปก็ไม่เป็นไร เพราแค่ทางเว็บเค้าดูแลลูกค้าดีขนาดนี้แล้ว มีปัญหาแค่นี้นิดหน่อยไปเลย ทำให้อยากใช้บริการจากทางเว็บของเค้ามากขึ้นไปอีก

——— Update ———

29 สิงหาคม 2559

เคสเดินทางมาถึงบ้านแล้ว เร็วเหมือนกัน ส่ง 22 ส.ค. 59 มาถึงไทยเข้าในระบบไปรษณีย์ไทย 25 ส.ค. 59 หลังจากนี้ก็เป็นส่วนของระบบไปรษณีย์ไทยที่ช้าตลอด แจ้งในระบบเตรียมนำจ่ายวันเสาร์ที่ 27 ส.ค. 59 แล้ว แต่ก็ไม่มาส่ง รอเก้อไปสิ มาส่งอีกทีวันที่ 29 ส.ค. 59 อืม.. อืม.. ไปรษณีย์ไทย

31 สิงหาคม 2559

  • เวลา 10.27 น.  เช็ครายการใช้จ่ายในบัตรเครดิตแล้ว ยอดที่ใช้ Paypal จ่ายนั้นได้ตัดเข้าบิลของบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ยอดที่ใช้บัตร Visa จ่ายโดยตรงยังค้างอยู่โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “Other Purchases” แล้ว ผ่านมา 7 วันแล้วนะ เลยโทรติดต่อไปยังธนาคาร และแจ้งข้อมูลข้างต้น ธนาคารตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันข้อมูลกับเรา คุยกันวนไปวนมาสักพัก ธนาคารจึงแจ้งเราว่าเราจะขอปฏิเสธยอดนั้นๆ ใช่หรือไม่ เราจึงขอการปฏิเสธยอดใช้จ่ายยอดนั้น ธนาคารจึงขออนุญาติทำเรื่องยกเลิกยอดและจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง
  • เวลา 10.55 น. ธนาคารติดต่อกลับมาว่าตอนนี้ยังไม่สามารถยกเลิกยอดนี้ได้ เนื่องจากทางร้านค้าได้ทำการกันเงินนี้ไว้ (เป็นระบบของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต) ซึ่งเหลือระยะเวลากันเงินยอดนี้อีก 11 วัน (นับจากวันนี้ 31 ส.ค. 59) เมื่อครบกำหนด 11 วันแล้วทางร้านค้ายังไม่ได้รับยอดนี้ไป ยอดเงินจะกลับเข้าบัญชีบัตรเครดิตของเราเอง โดยถ้าในระหว่างนี้ครบกำหนดตัดรอบบัตรเครดิต และมีบิลส่งมาเรียกเก็บเงินแล้ว ให้เราโทรติดต่อเข้าธนาคารเพื่อขอยกเลิกยอดใช้จ่ายนี้ได้ทันทีครับ

สบายใจแล้ว ตอนนี้ก็รอดูอีก 11 วัน ว่ายอดเงินที่เป็นปัญหานี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

12 กันยายน 2559

วันนี้เป็นวันสรุปยอดของบัตรเครดิต ได้ลองเช็ครายการในยอดเรียกเก็บของเดือนนี้ดู ยอดการใช้จ่ายที่เป็นปัญหาได้ถูกดึงคืนเข้าบัญชีของบัตรเรียบร้อยแล้ว 

Blog: 19 สิงหาคม 2559

จริงๆ วันนี้น่าจะได้รับเครื่อง Samsung Galaxy Note 7 แล้วตามกำหนดการส่งมอบเครื่องเดิม แต่ก็อย่างที่รู้กันมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วว่า Samsung ไทย เลื่อนการส่งมอบไปเป็นวันที่ 2 – 4 กันยายน 2559 โน่นเลย ตอนนี้ก็ได้แค่ถอนหายใจยาวๆ จองเครื่องก็วันแรก ( 5 สิงหาคม 2559) จ่ายก็รูดจ่ายเต็ม จองผ่าน s-estore ของ Saumsung ไทยเองเลย เสียความรู้สึกนิดหน่อยนะเนี่ย ยังดีที่เปิดขายทั่วไปวันที่ 9 กันยายน 2559 ได้เครื่องก่อนอาทิตย์นึงก็ยังดี แถมยังไม่รู้จะส่งเครื่องมาก่อนเพื่อให้ได้รับวันที่ 2 พอดี หรือ เริ่มจัดส่งให้วันที่ 2 กันแน่นะ

Blog: 14 สิงหาคม 2559

ช่วงสองสามอาทิตย์ที่แล้วได้ของเก่ามา 2 ชิ้น เป็นกระจกทองเหลือง กับ ถ้วยแก้วดีบุก คิดว่าจะไม่ได้มีโอกาสหาซื้อของเก่าแล้วซะอีกแต่ก็บังเอิญไปได้มาจนได้ เพราะช่วงหลังๆ มานี้มัวแต่ซื้อของกินอย่างเดียวจนไม่ได้นึกถึงพวกของเก่าสวยๆ ที่รอเรามาเป็นเจ้าของ

กระจกทองเหลืองที่ได้มาเป็นกระจกเก่า ที่มีผู้หญิงถือบานกระจกอยู่ในลายเส้นของไม้เถา-ดอกไม้ บนกระจกจะเป็นลวดลายเส้นแบบนูนต่ำในรอบๆ บานกระจกและที่ส่วนด้ามจับ คิดว่าเป็นสไตล์ อาร์ตนูโว (Art Nouveau) เพราะลายบนตัวกระจกเป็นลายเส้นโค้งอ่อนช้อย แบบพวกลายไม้ เถาวัลย์ ด้านหลังเป็นเป็นกรอบกระจกบุผ้ากำมะหยี่เฉยๆ ไม่มีอะไรปิด ตัวกระจกยังอยู่ในสภาพดีไม่แน่ใจว่ามีการเปลี่ยนกระจกก่อนหรือไม่ กระจกสะท้อนภาพดีมีเงาเหลื่อมๆ อยู่บ้างนิดหน่อย แต่สวยดีแถมได้มาราคาไม่แพงด้วย

อีกชิ้นที่ได้มาเป็นแก้ว หรือถ้วยไม่รู้ขนาดใหญ่เหมือนกัน เป็นดีบุกดุนลาย เนื้อหนาและหนักพอสมควร ที่เลือกแก้วใบนี้มาเพราะลายของแก้วเลย ตอนได้มาเป็นแก้วเลอะๆ สีดำ พอเอาไปล้างไปขัดก็สวยขึ้น ด้านในทาสีเขียวลองใส่น้ำเอาไว้รู้สึกว่าจะรั่วด้วย เลยว่าจะเอาไว้ใส่ของเล็กๆ พวกกุญแจอะไรแบบนี้

Blog + แกะกล่อง Fuchico On The Cup

ฟูจิโกะ เท่าที่รู้จักนิดหน่อยก็เป็นตุ๊กตาผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชุดพนักงานออฟฟิตสีฟ้า ที่เกาะอยู่บนปากแก้วน้ำในท่าทางต่างๆ และเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมาก ในไทยก็นิยมสะสมด้วยเช่นกัน แรกๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะก็แค่ตุ๊กตาในไข่กาชาปองเท่านั้นเอง แต่ผ่านมาได้เห็น ฟูจิโกะ ทำออกมาในหลากหลายรูปแบบ มีรูปแบบตามเทศกาลต่างๆ ก็เริ่มที่จะอยากได้บางตัวที่ชอบบ้างแล้ว จนได้มา 2 – 3 ตัวที่ชอบๆ

ที่ได้มาจะเป็น ฟูจิโกะ ในชุด ฤดูร้อน (Summer) ของปีที่แล้ว เป็นฟูจิโกะถือแตงโมกับหมูยากันยุง และ ฟูจิโกะ กับดอกไม้ไฟ อีกตัวเป็นชุดพิเศษ ฟูจิโกะ กับ ครีม พอได้มาแล้ว ก็รู้ว่าทำไมผู้คนถึงชอบตุ๊กตาผู้หญิงตัวเล็กๆ นี้นัก เพราะมันน่ารักไงละ แต่ถ้าจะสะสมมากกว่านี้ก็ต้องเตรียมพร้อมเรื่องเงินด้วยนะ เพราะแต่ละตัวก็แพงอยู่เหมือนกันราคาที่ขายก็ประมาณ 150 – 200 บาทต่อ 1 ตัว ยิ่งเป็นตัวพิเศษ หรือตัวลับ นี่ละก็ราคาก็แพงไปอีก ตั้งแต่ตัวละ 300 – 700 บาทก็มี สำหรับตัวเองแล้วคงไม่เก็บทั้งหมด เก็บเพียงเฉพาะตัวที่ชอบก็พอ

ตัวต่อมาไม่คิดว่าจะได้ซื้อมา แต่ก็ได้มาแล้วเป็นของมือสอง แบบใหม่แกะกล่องหาซื้อไม่ได้ เป็นฟูจิโกะตัวใหญ่บนบะหมี่ถ้วย ดูๆ ไปก็ตลกดี แบบตัวใหญ่นี้ออกมาหลายแบบหลายสี แบบที่ได้มาเป็นฟูจิโกะอุ้มตะเกียบ แบบที่ฟูจิโกะนั่งเฉยๆ ก็มีนะเผื่ออยากจะหามาเก็บเอาไว้

Blog: วันที่ 21 กรกฎาคม 2559

เมื่อวานนี้เป็นวันเข้าพรรษาในเมืองโคราชมีการแห่ขบวนรถเทียนพรรษากัน ก็เป็นปกติทุกปีที่จะมีคนจากต่างอำเภอ จากหลายๆ สถานที่เข้ามาชมขบวนแห่ทำให้การจราจรติดขัดเป็นปกติของทุกปี ซึ่งเราก็จะหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่พวกนั้น แต่ด้วยความบังเอิญปีนี้ไปรษณีย์ไทยไม่ได้หยุดทำการในวันเข้าพรรษา และพัสดุของเราจากญี่ปุ่นดันมาถึงแล้วด้วยสิ จะทิ้งเอาไว้ที่ไปรษณีย์คืนเดียวก็ทำไม่ได้ อยากได้ของที่สั่งไปให้เร็วที่สุด ก็ตัดสินใจว่าวันนี้ (เมื่อวานนี้) ต้องออกไปรับพัสดุที่ไปรษณีย์ให้ได้ แต่ต้องวางแผนก่อน เปิดดูเฟสบุ๊คเพจของโคราช เค้ากำลังถ่ายทอดขบวนแห่เทียนพอดีทำไมรถเทียนเคลื่อนช้าจัง ยังไปไม่ถึงไหนเลย แล้วมันจะเคลื่อนไปที่ไหนบ้างละ เปิดดูแผนที่การเคลื่อนขบวนแล้วก็เจอเส้นทางเคลื่อนขบวนอยู่บนถนนหน้าไปรษณีย์อัษฏางค์พอดี เหอะ เหอะ รถเมล์สาย 2 ที่วิ่งเส้นนั้นไม่วิ่งชัวร์ คงต้องอาศัยรถสาย 6 ที่วิ่งเส้นทางใกล้เคียงแทน

ว่าแล้วก็นั่งรอเวลาสักชั่วโมง รอให้ขบวนรถแห่เทียนวิ่งผ่านไปก่อนและก็ออกเดินทางตามแผน ไม่ผิดจากที่คิดผ่านหน้าเดอะมอลล์มีผู้คนขึ้นรถมาเยอะมากๆ สภาพอากาศก็เป็นใจ ฟ้าใสไม่มีเมฆ และร้อนสุดๆ รถก็วิ่งไปเรื่อยหยุดบ้าง วิ่งต่อบ้าง รถติดมาก ในที่สุดก็เข้าไปถึงในเมืองจนได้ ปีนี้เปิดให้รถเมล์ วิ่งทับเส้นขบวนแห่เทียนได้ด้วย และก็ลงรถตรงร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าตรงคลังเก่า เดินต่ออีก 2 บล็อก ก็ถึงไปรษณีย์อัษฎางค์ ถนนโล่งๆ คงจะแห่ขบวนเสร็จไปแล้วแน่เลย คนก็ทยอดเดินกลับไปทาง “อนุเสาวรีย์ย่าโม” กันแล้ว ส่วนเราก็เดินมุ่งหน้าไปต่อเดินไปจนถึงที่ทำการไปรษณีย์ก็ไปเจอท้ายขบวนแห่เทียนพอดี เหมือนจะโชคดีที่ได้เห็นขบวนแห่เทียนพรรษาปีนี้เป็นครั้งแรก รถแห่เทียนมีเทียนปั้นเป็นรูปร่างสวยงาม มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่จริงๆ

ที่ทำการไปรษณีย์เปิดวันหยุดแบบนี้คนเงียบมาก ในที่ทำการไปรษณีย์มีลูกค้าแค่ 3 – 4 คน มีพนักงานไปรษณีย์ยืนแอบดูขบวนแห่ตามหน้าต่าง เป็นบรรยากาศที่หาดูได้ไม่ง่ายเลย ติดต่อรับพัสดุและเสียภาษีไปอีก 300 กว่าบาท เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรประชาชนเราเนื่องจากยังไม่ได้รับใบเรียกให้ไปรับพัสดุ แต่ทราบสถานะว่าพัสดุเตรียมออกใบเรียกเพราะดูใน App ของไปรษณีย์ในโทรศัพท์สะดวกมากๆ รับพัสดุเสร็จก็เดินออกมาจากที่ทำการไปรษณีย์เห็นรถขบวนแห่เทียน บริเวณด้านหน้าถนน และรอบๆ ที่ทำการไปรษณีย์ มีผู้คนยืนดู ยืนถ่ายรูปเป็นกลุ่ม มีร้านค้าเล็กๆ หาบอาหารมาขายกันเต็มไปหมด ส่วนมากเป็นพวกขนมขบเคี้ยว อาหารง่ายๆ ท่านได้สะดวก ดูสนุกสนานสมกับเป็นงานประจำปี นี่ขนาดว่าเป็นแค่ทางท้ายขบวนนะ ถ้าเป็นช่วงเริ่มงานแห่จะครึกครื้นขนาดไหน คิดไม่ออกเลย

ออกจากที่ทำการไปรษณีย์ก็เดินย้อนกลับไปที่ตลาดแม่กิมเฮง คิดว่าคงจะมีรถวิ่งนะไม่งั้นกลับยากแน่ เดินไปเรื่อยๆ ตามข้างทางมีของกินขายตลอดทาง ถ้าเวลาปกติเป็นแบบนี้ก็คงจะดี ตรงช่วงสวนกลางถนนมีจัดซุ้มขายของกิน กับซุ้มเทียนพรรษาให้ได้เข้าชม มีที่นั่งอัศจรรย์เอาไว้ให้นั่งชมขบวนแห่เทียนที่ผ่านตรงตลาดแม่กิมเฮงอีก แต่จะมีคนขึ้นไปนั่งรึเปล่านะเพราะแดดมันร้อนมากจริงๆ ถึงตลาดแม่กิมเฮงจนได้ยังดีที่มีรถเมล์ผ่านตรงนี้อยู่ ครั้งนี้จึงได้ไปร่วมงานแห่เทียนพรรษาโดยบังเอิญ และเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ไม่คิดว่าผู้คนมากมายจะทนสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมต่างๆ มาเพื่อรอดูขบวนแห่เทียนในวันนี้ เข้าพรรษาปีหน้าคงต้องคิดแผนใหม่แล้วว่าจะมาดูขบวนแห่เทียนตั้งแต่เช้าได้อย่างไร.

Blog: วันที่ 3 กรกฎาคม 2559

วันนี้สลากออมสินที่ซื้อไว้ก็ครบ 3 ปี แล้ว เป็นการซื้อสลากออมสินครั้งแรกเลย ตอนที่ซื้อก็ปี 56 ซื้อไว้จนลืม จนมีข้อความจากธนาคารออมสินแจ้งเตือนมา ตอนนั้นราคาสลาก หน่วยละ 50 บาท ครบ 3 ปี เบิกคืนได้ 53 บาท ก็ถือว่าโอเคนะกับการหาที่เก็บเงินเอาไว้สำหรับอนาคต แถมลุ้นรางวัลสลากได้ทุกเดือน แต่ก็ไม่ได้ถูกทุกเดือน แต่ละครั้งที่ถูกก็แค่ถูกเลขท้าย 3 ตัว 4 ตัว แค่นั้นเอง พอย้อนกลับไปดู 3 ปีที่ผ่านมา ถูกสลากรวมๆ แล้วได้หมื่นกว่าบาทเลยนะเนี่ย เยอะเหมือนกัน

ไปถึงธนาคารตอนเที่ยงคนเยอะมากๆ ได้บัตรคิวที่มีคิวรอถึง 101 คนเลย นั่งรอไปเรื่อยๆ แต่ถึงคิวเราเร็วมาก แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ยื่นสลากที่เคาน์เตอร์ธนาคารเบิกเงินออก และซื้อสลากใหม่ตรงเคาน์เตอร์ได้เลย ธนาคารออมสินนี่สะดวกดีจัง แต่สลากรอบนี้ราคาต่อหน่วยเท่าเดิม เบิกคืนได้แค่ 51 บาทเอง ลดลงไปตั้ง 2 บาท แต่ก็ช่างมันเอาไว้เก็บเงินก็พอ เผื่อจะถูกสลากรางวัลที่ 1 บ้าง

รู้สึกว่าจะมีบริการใหม่ของธนาคารที่สามารถซื้อสลากผ่าน App MyMo ของธานาคารได้แล้ว แต่ต้องยื่นเอกสารสมัครขอใช้บริการซื้อสลากผ่าน App ก่อนด้วย ก็เลยสมัครซะเลยจะได้ไม่ต้องมาอีก ลองกดดูใน App สามารถซื้อสลากได้ตามจำนวนที่ระบุเอาไว้เท่านั้น ใครอยากสมัครก็แค่นำ บัตรประชาชน + สมุดบัญชี + สมัคร App My Mo ไปยื่นที่เคาน์เตอร์ธนาคาร และกรอกเอกสารนิดหน่อยใช้เวลาไม่นาน

จากนั้นก็ไปร้าน Asia Books ชั้น 2 ไปรับหนังสือที่สั่งเอาไว้ หนังสือที่สั่งไว้ก็คือ Harry Potter: The Artifact Vault ซึ่งก็น่าจะเป็นเล่มที่ 4 ของผู้เขียนในซีรีย์นี้แล้ว หนังสืออก 14 มิ.ย. 2016 เข้าไทยปลายเดือน มิ.ย. เร็วมากเลย เดี๋ยวจะเอามาพรีวิวภายในเล่มให้ดูกัน

เสื้อกล้าม F&F สีเทา แบบแพ็ค 2 ตัว ที่ขายในโลตัสนั้นผ้านุ่มดีแต่ใส่ไม่สบาย เพราะตัวผ้าไม่เนียนเรียบใส่แล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ด้านในตัวเสื้อสะกิดตลอดเวลา ไม่ใช่แค่คัน ยิ่งตอนเหงื่อออกนี่จากคันมันรู้สึกเจ็บเลย แปลกดี พอถอดออกมาดู เนื้อผ้ามีพวกใยสังเคราะห์แข็งๆ ปนมาในเนื้อผ้าแบบว่ามันถูกทอไปบนเนื้อผ้าเลย และตรงตะเข็บกุ้นแขนเสื้อที่รู้สึกคันยุบยิบดูแล้วน่าจะเป็นเพราะด้ายที่ใช้เย็บ หรือไม่ก็ลายตะเข็บนั่นแหละ ส่วนเสื้อกล้ามที่เป็นสีขาวนั้นรู้สึกว่าไม่มีปัญหานี้ปกติดี เสียดายเสื้อกล้ามสีเทาหายากเพราะเอาไว้ใส่ด้านในเสื้อทำงานมันไม่เห็นชัดเหมือนเสื้อกล้ามสีขาว

DailyBlog: 26 มิถุนายน 2559

อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยทุกๆ วันดำเนินไปแบบเดิมๆ เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาเพิ่ม เรื่องงานก็สามารถแก้ไข และดำเนินการได้เสร็จตามที่คิดวางแผนเอาไว้แต่เรื่องที่ไปชิม ไปทำอะไรมานั้นขอเล่าต่อด้านล่างแล้วกัน

ลองชิมไอศครีม KFC โคน ร็อคกี้ พิงก์ โคนละ 15 บาท

ได้ไปลองชิมไอติมโคนของ KFC รุ่นใหม่มา ปกติจะกินแค่ โคนวนิลา 10 บาท อันนี้เป็นรุ่น ร็อคกี้ พิงก์ ที่เคลือบช็อกโกแลตสีขมพู รสสตรอเบอร์รี่ อร่อยดี หวานๆ เปรี้ยวๆ แต่ทุกวันนี้อากาศร้อนไอติมละลายเร็ว กัดทีนึงไอ้ที่เคลือบไว้หลุดมาทั้งแผ่นเลย 555 #ต้องชิมให้ครบทุกรสนะ

 ลองชิมไอศครีม แดรี่ควีน DQ Passion Fruit 6.5OZ  ราคา 29 บาท

แดรี่ควีนรสใหม่ เสาวรส อัลมอนด์ บลิซซาร์ด ในรูปดูน่ากิน แต่ของจริงกับขาวๆ ซีดๆ รสชาตินั้นก็เรียกว่ามีรสเสาวรสแปล่มๆ แบบให้รู้นะว่าใส่รสเสาวรส กินเพลินๆ ตรงที่มีอัลมอนด์ชิ้นใหญ่ด้วยนี่แหละเคี้ยวมันส์มาก ก็ไม่ได้แตกต่างจากรสเดิมซักเท่าไร อย่างไรแดรี่ควีนก็เป็นไอศรีมที่มีรสหลายหลายโปร หลากหลายรสชาติฤดูกาลมาให้ลองชิมกันแบบต่อเนื่องจริงๆ

ไปดูหนัง Independence Day: Resurgence (2016)

เรื่องนี้ตอนแรกไม่คิดว่าจะไปดูเพราะภาคแรกก็ดูนานแล้ว และก็ไม่ได้อินกับหนังภาคแรกเท่าไร แต่ก็ไปดูจนได้ เป็นเรื่องที่ดำเนินต่อจากภาคแรกโดยหลังจากโดนเอเลี่ยนบุกจากครั้งที่แล้วมนุษย์ได้นำเอาเทคโนโลยีของเอเลี่ยนไปศึกษา และนำเทคโนโลยีทางด้านอากาศยาน ด้านอาวุธ มาใช้ในกองทัพของประเทศตัวเอง จนมียานอวกาศที่มีความรู้ในการทำลายเอเลี่ยนบินมาที่ดวงจันทร์-โลก แล้วเอเลี่ยนก็กลับมาที่โลกเพื่อมากำจัดตัวปัญหานั้น จนทำให้โลกเกิดภัยคุกคามอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง ตัวหนังเป็นหนังที่แอ็คชั่นแบบยิงปืนกันอย่างเมามันเกือบทั้งเรื่อง และเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ดำเนินบนเครื่องบินรบซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนุกนะ เป็นหนังที่ดูได้สนุกแบบมันส์มาก ดูแล้วคลายเครียดได้ดีถ้ามีโอกาสก็ลองไปดู หนังดูง่าย สนุก เอ็ฟเฟ็คสวยงามเหมือนจริงไม่เสียดายเงินหรอกครับ

ลองชิม S&P BlueCup Coffee เดอะมอล์ นครราชสีมา

กาแฟของ S&P มีด้วยเหรอ? ก็มีหน่ะสิอยู่ในร้านนั่นแหละ เพิ่งรู้จริงๆ นะ ที่ไปลองเป็นสาขาที่เดอะมอลล์ นครราชสีมา บังเอิญเดินผ่านตรงโซนทางเชื่อมไปส่วนก่อสร้างขยายห้าง ไปเห็นร้าน S&P ย้ายไปเปิดในโซนนั้นแล้วทำร้านใหม่ซะสวยเลย กว้างขวาง บรรยากาศดีเหมือนอยู่ในร้านอาหารหรูเลย สั่งกาแฟนัทคอฟฟี่ อะไรซักอย่างนี่แหละชี้ในเมนูไป รอซักพักก็นานอยู่ เพราะในร้านไม่มีคนต่อคิวซื้อกาแฟเลยที่เคาน์เตอร์ก็ไม่มีพนักงานชงกาแฟไม่รู้ไปไหน พอพนักงานมาก็ทำมาผิดเมนูอีก สั่ง 2 แก้ว ได้มา 3 แก้ว สั่งแบบเย็นได้มาแบบร้อน พนักงานที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าก็ดูเบลอๆ ไปค้นๆ ออเดอร์แล้วก็กลับมาหยิบคืนแก้วนึงไปให้อีกโต๊ะไม่ถามซักคำ พนักงานแต่ละคนก็เฉยๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง อืมก็คิดเงินแล้วออกมาเลย ตอนนั้นก็งงไม่ได้คิดอะไรเลยไม่ได้ไปทักท้วงพนักงานเค้า คิดเองว่าเราคงชี้ที่รูปกาแฟไม่ชัดเจนเองเลยเดินออกมางงๆ จะว่าไปแล้วกาแฟก็อร่อยนะ กาแฟก็หอมดี เมนูก็มีหลากหลาย เคาน์เตอร์ก็ทำเหมือนจะเน้นขายกาแฟจริงจังด้วย แต่ทำไมพนักงานไม่ให้ความร่วมมือกับทางร้านเท่าไรเลย เอาไว้คราวหน้าไปลองใหม่

//end.