Perfume Blog: ลองกลิ่น Giorgio Armani MY WAY Parfum

มาถึงกลิ่นสุดท้าย และกลิ่นใหม่ล่าสุดของ MY WAY ที่ออกมาในปี 2023 นี้เอง มาในความเข้มข้นของ Parfum ที่น่าจะเป็นกลิ่นที่เข้มข้น มีความนุ่มลึกของกลิ่นมากสุดในตระกูลละมั้ง เรียกว่าออกใหม่มาทุกปีมันก็ต้องเข้มข้นขึ้นบ้างละน่า

Giorgio Armani MY WAY Parfum ออกมาในปี 2023 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Sweet Floral และ Vanilla ให้สัมผัสของกลิ่นที่แตกต่างแต่ผสานกันอย่างลงตัวของความสดใสสว่างไสวของ Tuberose และความนุ่มละมุลอย่างน่าอัศจรรณ์ของ Iris Pallida มีโน๊ตกลิ่นของ Bergamot, Orange Flower, Tuberose, Iris, Cedarwood, Vanilla

กลิ่นเปิดมาให้กลิ่นหวานอุ่นเหมือนกลิ่นแสงอาทิตย์ที่ส่องมายามเช้าอุ่นๆ พร้อมกับกลิ่นเขียวเหนอะอมเปรี้ยว ตามมาด้วยกลิ่นแนวดอกไม้หวานหนักแน่นแบบกลิ่นของ Tuberrose ที่ให้สัมผัสคมๆ ของเครื่องเทศ และกลิ่นแนวฝุ่นบางเบาในพื้นหลัง ช่วงหลังของกลิ่นยังคงให้กลิ่นหวานเอียนปนกลิ่นเปรี้ยวแบบ Tuberose กับกลิ่นมักส์ และวนิลาเบาๆ คลอไปจนจบกลิ่น

MY WAY Parfum กลิ่นนี้น่าจะเป็นกลิ่นที่แตกต่างที่สุดจากชุด MY WAY เลย ให้กลิ่น Tuberose ที่แตกต่างไป โดยให้กลิ่นหวานแน่น หนัก มีความอมเปรี้ยวเอียนเหนอะๆ คล้ายกลิ่นพลาสติก มีความฝุ่นแป้งโทนเย็นนุ่มในพื้นหลังบางๆ ไม่มีความหวานกลม หรือหวานฉ่ำเหมือนรุ่นก่อนๆ แล้ว เป็นกลิ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนมั่นใจขึ้น มีเหตุผล และเป็นตัวของตัวเองสูงเลยกลิ่นนี้ กลิ่นหรูที่ดูดีสุดๆ

กลิ่นนี้มันทำให้นึกถึงกลิ่นอะไรสักอย่างที่คุ้นเคย กลิ่นที่สะอาด โดยยังคงกลิ่นหอมหวานของ Tuberose เอกลักษณ์ของ MY WAY ไว้ไม่หายไปไหน เสริมกลิ่นให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วยกลิ่นหอมเย็นของ Iris มีความสดชื่นที่กำลังดีด้วยกลิ่นแนวซีตรัส และความนุ่มสุขุมกับกลิ่นแนวไม้หอมในช่วงหลังของกลิ่น ส่วนตัวก็คิดว่ามันหอมดูดีเลยละ แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ค่อนข้างมาก กลิ่นดูเป็นการเป็นงาน ดูสวยดูหล่ออีกด้วย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: ลองกลิ่น Giorgio Armani MY WAY EDP Floral

อาทิตย์นี้มาต่อกับ MY WAY รุ่นที่ 3 ที่ออกในปี 2022 ในรุ่น MY WAY Floral มาในขวดแก้วใสแบบขุ่น Frosted Glass แตกต่างจากรุ่น EDP เดิม ให้ภาพของความนุ่มละมุนเบาสบายของกลิ่นตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านโน้ตเลย จริงๆ ในปี 2022 นี้ MY WAY มีรุ่นพิเศษออกมาด้วยชื่อ MY WAY Nacre ที่น้ำหอมมีกลิตเตอร์ระยิบระยับ ออกมาให้เก็บสะสมกัน

Giorgio Armani MY WAY Floral ออกมาในปี 2022 ยังคงเป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Floral ที่ให้กลิ่นของ Tuberose เป็นโน้ตหลัก โดยมีโน้ตกลิ่นของ Mandarin, Orange Blossom, Bitter Orange, Tuberose, Neroli, Vanilla, White Musk

กลิ่นนี้เปิดมาด้วยกลิ่นซีรัสสดชื่น แต่เป็นซีตัสคมๆ ติดหวานกมกลมกล่อมที่คลอมากับกลิ่นดอกไม้เบางเบา พร้อมกับกลิ่น Tuberose หวานกลมเอกลักษณ์ของ MY WAY แซมด้วยกลิ่นเขียวสดชื่นบางเบาในพื้นหลัง ในช่วงหลังกลิ่นซีตรัสแบบกลิ่นส้มจางลงจนเหลือแค่กลิ่นหอมหวานของ Tuberose ปนกลิ่นครีมแนววนิลาอ่อนๆ บนผิวไปจนจบกลิ่น

กลิ่นนี้ให้กลิ่นที่เบากว่า EDP เดิมพอสมควร มีกลิ่นซีตัสแบบส้มคมๆ ที่ทำให้กลิ่นโดยรวมดูสดชื่น สดใสกว่าเดิมมาก แต่ยังคงไม่ทิ้งกลิ่นหอมหวานกลมกล่อมของ Tuberose ตามสไตล์ ที่ยังคงให้ภาพของ MY WAY อยู่ชัดเจน

ในรุ่น Floral นี้ก็ยังเป็นกลิ่นที่หอมเหมือนเดิม และหอมสดชื่นเบาสบายขึ้นอีกด้วย เป็นรุ่นต่อยอดที่ให้ความเหมือนที่แตกต่าง เหมาะสำหรับอากาศร้อนๆ หรือคนที่ไม่ชอบกลิ่นหวานจัดอย่างรุ่น EDP เดิมอีกด้วย แต่มีข้อสังเกตตรงที่ กลิ่น Floral นี้ บังเอิญลองกลิ่นที่ผิว และที่เสื้อผ้า กลิ่นบนผิวนั้นให้กลิ่นหวานนำแบบ EDP แต่กลิ่นบนเสื้อผ้านั้นให้กลิ่นซีตรัสคมๆ ติดขมสดชื่นของกลิ่นช่วงต้นชัดและยาวนานกว่าบนผิวมาก และยาวไปจนช่วงกลางกลิ่นด้วย พอรวมกับ Tuberose หวานๆ แล้วมันหอมแนวสบู่หน่อยๆ น่ากินมาก และทำให้กลิ่นติดทนกว่าบนผิวไปอีก รวมๆ แล้วชอบรุ่น Floral มากกว่ารุ่นเดิมอีกนะ

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: ลองกลิ่น Dior Hypnotic Poison Eau Secrete EDT 100ml Tester [2013]

Dior Hypnotic Poison Eau Secrete ออกมาช่วงต้นปี 2013 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Amber Floral ให้กลิ่นที่ปลุกเร้าความ Sexy ในตัวหญิงสาว สร้างความตราตรึงน่าหลงใหล มีโน๊ตกลิ่นของ Sicilian Mandarin, Orange, Calabria Bergamot, Sambac Jasmine, Tunisian Neroli, Vanilla

Hypnotic Poison Eau Secrete ขวดนี้อยู่ใน Wish List กลิ่นที่ต้องหามาเก็บใน Collection Poison ให้ได้ ด้วยความที่มันเป็นกลิ่นที่อายุสั้น อยู่ไม่นานก็เลิกผลิตทำให้มันหายาก และแพงมาก ทำได้แค่คอยดูตามเว็บ ตามเพจเผื่อมีหลงมาบ้าง ปีก่อนเจอหลงมาในกลุ่มน้ำหอม 1 ขวด ลงขายเป็นน้ำหอมก้นขวดขวดหลักร้อย แต่กดซื้อไม่ทันทำให้เสียดายมาก แต่โอกาสก็วนกลับมาอีกครั้งคราวนี้ประสบความสำเร็จหามาจนได้ 1 ขวด

ขวดนี้ได้มาเป็นขวด Tester ปริมาณน้ำหอมเรียกว่าน่าจะเต็มขวด ตัวขวดเป็นทรงสูงยาวดูแปลกพิลึก จะว่าคล้ายขวดรุ่นดั้งเดิมก็คล้าย แต่ไม่เหมือนเป๊ะ ด้วยตัวขวดที่หนากว่ามาก สภาพขวดก็เนียนสวย ใหม่เอี่ยม ไม่มีสีลอก ไม่มีรอยอะไรเลย น่ายเสียดายที่ไม่มีกล่องมาด้วยไม่งั้นครบชุดสวยๆ ขวดนี้ Batch Code: 3U01 ผลิตปี 2013 เดือน 7 เกือบ 10 ปีแล้วนะเนี่ย ออกจำหน่ายช่วงต้นปี 2013 แต่หาข้อมูลไม่เจอว่าเลิกผลิตปีไหนเหมือนกัน เป็นกลิ่นที่อายุสั้นจริงๆ ต่อไปมาลองกลิ่นกันดีกว่า

กลิ่นเปิดให้กลิ่นซีตรัส แบบเปลือกส้มหอมหวานสดชื่น แต่มีความครีมมี่หอมเย็นนวลอบอวล กลิ่นในพื้นหลังมีความขมแห้งติดเขียวบางๆ พร้อมกับกลิ่นวนิลลาหอมเนียนแห้งๆ คลอมากับกลิ่น ยิ่งผ่านไปกลิ่นวนิลายิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความหวานเอียนหน่อยให้อารมณ์ Hypnotic Poison EDT ใช้ได้เลย ช่วงกลางของกลิ่นไปจะให้ความรู้สึกของกลิ่นวนิลาฝุ่นๆ อวบอวลฟุ้งๆ ที่มีกลิ่นเขียวติดขมคมๆ ในพื้นหลังยาวไปจนจบกลิ่น

แปลกดีสำหรับกลิ่นนี้ ตอนแรกคิดว่าจะมาโทนกลิ่นแน่นๆ เหมือนกับต้นฉบับซะอีก แต่กลับกลายเป็นว่า Eau Secrete นั้นออกแนววนิลา-ส้ม สดชื่นไปคนละทางกับต้นฉบับพอสมควร แต่ยังคงทำให้นึกถึงต้นฉบับอยู่บ้างกับกลิ่นวนิลาแห้งๆ ผสมกลิ่นดอกไม้อย่าง Jasmine และ Neroli  ที่ให้กลิ่นหวานอวล ฟุ้งๆ ดูฉุนหน่อยแบบนั้น

สำหรับประสิทธิภาพนั้นบอกอะไรมากไม่ได้เพราะไม่อยากเอาไปใช้งานจริงเสียดายไม่อยากฉีดเยอะ แต่จากที่ลองกลิ่นนั้น กลิ่นค่อนข้างกระจายตัวดีในช่วงแรกๆ ผ่านไปสักชั่วโมงกลิ่นก็ไม่กระจายตัวสักเท่าไหร่แล้ว หลังจากนี้กลิ่นจะลอยอยู่แค่ๆ รอบตัว ติดผิวซะมากกว่า ให้กลิ่นหวานๆ และหอมวนิลาฟุ้งๆ ติดตัว แต่มันติดตัวนานอยู่นะอยู่ได้เกือบทั้งวันเท่าที่รู้สึก เพียงแค่มันไม่ฟุ้งเท่าพี่ๆ เขาเท่านั้นเอง

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นในตระกูล Hypnotic Poison ที่พลังเบาบางกว่าเขาเพื่อน แต่ก็ให้กลิ่นหอมสดชื่น และดูใช้งานง่ายกว่าเขาเพื่อนอีกเหมือนกัน ให้กลิ่นหอมหวานอบอวลของวนิลา และ Jasmine ไม่ทิ้งลายต้นฉบับ แต่ให้ความต่างด้วยความสดชื่นจากกลิ่นซีตรัส และ Neroli เพิ่มเข้ามา ก็ถือว่าเป็นการสร้างความแตกต่างในตระกูล Hypnotic Poison แต่ก็นั่นละ กลิ่นนี้เลิกผลิตไปแล้วไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะกลิ่นมันดูค่อนข้างธรรมดามาก จริงๆ ก็ดูไม่เข้าพวกนั่นละเลยอายุสั้น เหมือนรุ่นพี่ที่เลิกผลิตไป

ส่วนตัวบล็อกนั้นไม่เสียดายที่เอามาเก็บเลย เป็นหนึ่งในกลิ่น Poison ที่อายุสั้น และหาขวดสภาพสมบูรณ์มาเก็บยากอีกกลิ่น ยังไงก็ต้องมีบนชั้นสักขวดละ หน้าตาก็แปลกกว่าเขา กลิ่นก็ไม่เข้าพวก แบบนี้ยิ่งต้องเอามาเก็บ แล้วก็เหลืออีกกลิ่นที่ยังหาไม่ได้คือ Hypnotic Poison Eau Sensuelle รุ่นที่ที่ออกมาก่อน ยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลยสักครั้ง ไว้มีโอกาสเจอจะเอามาเล่าให้อ่านกันต่อไป

Dior Hypnotic Poison Eau Secrete EDT 100ml Tester [2013]

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Vintage Perfume Haul [2023 – Part 2] [Christian Dior – Poison, Tendre Poison, Poison Girl, Dune, Forever and Ever, I love Dior]

Vintage Monday อาทิตย์นี้มาต่อกับ Vintage Perfume Haul Part 2 ของน้ำหอมที่เลือกเก็บเอามาสะสมช่วงปีที่ผ่านมา บล็อกครั้งนี้เป็นของ Christian Dior ล้วนเลย เพราะเน้นเก็บของ Dior เป็นหลักนั่นเอง ระหว่างปีก็มีหยิบขายแก้ร้อนไปบ้าง มาดูกันว่าเหลืออะไรเก็บสะสมอยู่บ้าง

ชุดแรกนี้เป็นขวดที่เพิ่งได้มาไม่กี่วันนี้ก็ว่าได้ ขวดที่ตื่นเต้นที่สุดก็เป็น Hypnotic Poison Eau Secrete ขวด Tester 100ml น้ำหอมเกือบเต็มขวดที่ได้มาแบบบังเอิญที่สุด แบบที่มันคงต้องมาอยู่กับเราเพราะโพสลงขายมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วไม่มีสนใจมันเลย แบบนี้เขาเรียกพรมลิขิต อีกขวดก็เป็นขวดโลชั่นของ Hypnotic Poison ที่รู้สึกว่าจะหาซื้อยากเพราะเหมือนจะไม่มีขายทั่วไปในไทย ชอบตรงที่เป็นรูปร่างขวดแบบ Vintage Poison เลย แถมเป็นขนาดใหญ่ 200ml ด้วย ตัวจริงสวยมากๆ จับเต็มไม้เต็มมือ ขวดนี้ยังมีโลชั่นเหลือเกือบเต็ม ยังไม่หมดอายุ กลิ่นก็เป็นกลิ่นของ Hypnotic Poison เลย กลิ่นจะออกนวลๆ เบาๆ หน่อย และมีพวกผงไมก้าระยิบระยับติดหลังทาด้วย ไม่ชอบเลยเหมือนตัวตกสะเก็ด

Dior Hypnotic Poison Eau Secrete EDT 100ml Tester

Dior Hypnotic Poison Lait Satine Pour Le Corps Silky Body Lotion 200ml

ต่อเป็นเป็นขวดเปล่าของ Poison EDT ขวด Splash จุกแก้วแบบแต้ม ได้มาราคาไม่แพง 2 ขวด และก็ได้ Tendre Poison มาเพิ่มอีก 2 ขวดเหมือนกัน ขวดแรกเป็นขวดใหญ่เบิ้ม 100ml สภาพดีมาก น้ำหอมเหลือเกือบๆ ครึ่งขวด โชคดีมากที่ได้ไซส์นี้มาเก็บเพราะหายากเหมือนกัน อีกขวดเป็นขนาด 50ml สภาพพอใช้ น้ำหอมเหลือพอประมาณ มาพร้อมกล่องสภาพพอเป็นกล่องได้อยู่ ก็เอามาเก็บอีกขวด เพราะไม่เสียหายอะไรถ้าจะมี Dior Poison มาเก็บเยอะกี่ขวดก็ได้

Christian Dior Poison EDT 50ml Splash

Christian Dior Tendre Poison EDT 100ml

Christian Dior Tendre Poison EDT 50ml

ชุดต่อมาเหมือนจะเป็นโชคดีที่เขาจะมาอยู่กับเรา เพราะได้ Tendre Poison ขวด 100ml มาอีกขวด เป็นขวด Tester ที่มาพร้อมกล่อง Tester รุ่นเก่า น้ำหอมเต็มขวดอีกด้วย สุดยอดมากๆ ราคาก็สุดยอดเช่นกัน แต่มาครบชุดเนียนเกริบแบบนี้ยังไงก็ต้องเอามาเก็บละ

Tendre Poison อีกขวดได้มาแค่ขวด เป็นขวดรูปร่างสูงยาวเรียว รูปร่างแปลกที่ไม่เคยเห็นทั่วไป แต่เคยเห็นผ่านตามาบ้าง มันเป็นขวดของรุ่น Refillable Natural Spray หรือขวดรีฟิลนั่นเอง หายากมากๆ และ Dune EDT 50ml ขวดจุกแก้ว น้ำหอมเกือบเต็มขวด สภาพสวย พร้อมกล่องสภาพดี เป็นอีกกลิ่นที่ขวดแปลกแต่สวยดูมีลายเส้นน่ามอง

Christian Dior Tendre Poison EDT 100ml Tester

Christian Dior Tendre Poison Refillable Natural Spray EDT 75ml + ภาพปลอกด้านนอกของรุ่นนี้จาก Internet

Christian Dior Dune EDT 50ml Splash

แถมกับขวดเล็กๆ มีทั้งมาเป็นชุด และแบบแยกกล่องยังคงเน้นเป็น Tendre Poison อยู่ แบบขวดสเปรย์ขนาด 7ml นั้นน่าจะมาจากชุด Christian Dior Voyage Set รวมกลิ่นของสมัยนั้น มีขวดจุกแก้วของ Poison ขนาดไม่ค่อยเจอ 15ml และ ขวดสเปรย์พกพา ของ Poisonและ Dune

La Collection Exclusive Christian Dior 5ml x5

Christian Dior Forever and Ever EDT 5ml, Tendre Poison EDT 5ml, Pure Poison 7ml

Christian Dior I Love Dior EDT 5ml

Christian Dior Poison Esprit de Parfum 15ml

Christian Dior Poison EDT 7.5ml Purse Spray

Christian Dior Dune EDT 15ml

ตบท้ายด้วยกลิ่นที่ไม่ Vintage สักเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ใน Theme จาก Dior นั่นก็คือ Poison Girl Edp ขวด 100ml เหลือครึ่งขวดเอามาไว้ใช้งานเพราะชอบกลิ่นของรุ่น EDP มากๆ หอมน่ากิน น่าดมสุดๆ กลิ่นไม่โบราณใช้งานจริงได้ดี และขวด Roller Pearl ของ Poison Girl รุ่น EDT เอามาเก็บเพราะขวดรุ่นนี้ไม่มีขายทั่วไป หาซื้อยาก ขวดนี้ก็ได้แบบกล่อง Tester มา ตัวจริงสวยดี สวยกว่าขวดของ Miss Dior Roller Pearl อีก

Dior Poison Girl EDP 100ml Tester

Dior Poison Girl EDT 20ml Roller Pearl

Perfume Blog: ลองกลิ่น THE ORIGINAL TRILOGY – Christian Dior Eau Noire, Cologne Blanche และ Bois D’Argent 2022

ครั้งนี้จะมาลองกลิ่นน้ำหอมใหม่ ที่ไม่เชิงจะเป็นกลิ่นใหม่ แต่เป็นกลิ่นที่หายจากเคาน์เตอร์ไปนานกลิ่นนึง นั่นคือ Eau Noire จาก Christian Dior โดยถูกนำกลับมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ผู้สร้างกลิ่นนี้อย่าง Francis Kurkdjian นั้นได้กลับมาเป็น Perfume Creation Director ในปลายปี 2021 ที่ผ่านมา โดยช่วงต้นปี 2022 ก็มีชุดเซ็ตกลิ่น 3 กลิ่น ที่รวม Eau Noire ออกมาเป็นรุ่น Limited จาก Francis Kurkdjian ทั้ง 3 กลิ่นเป็นชุดกลิ่นที่แสดงถึงความสง่างาม และแสดงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมในโน๊ตกลิ่น อย่างโน๊ตของ Lavender, Orange Blossom และ Iris

ชุดกลิ่น 3 กลิ่น ที่ชื่อว่า THE ORIGINAL TRILOGY – LIMITED EDITION ประกอบด้วยกลิ่น Eau Noire, Cologne Blanche และ Bois D’Argent มาในขวดขนาด 40ml ชุดนี้ในเว็บของ Dior ก็ประมาณ 11,000.- บาท เป็นราคาตอนที่วางจำหน่ายเมื่อต้นปี 2021 ตอนนี้ชุดนี้น่าจะไม่มีจำหน่ายแล้วแล้ว แต่จะมีจำหน่ายแยกเป็นกลิ่นในขนาดปกติทั้ง 3 ขนาดแทน

ทั้ง 3 กลิ่นที่บล็อกได้มาเป็นแบบขวด Miniature ขนาด 7.5ml ตามเก็บมาทีละขวดตั้งแต่ปีก่อน จนตอนนี้ครบชุดแล้วก็ได้โอกาสเอามาลองกลิ่นลงให้อ่านกัน เรามาลองกลิ่นกันดีกว่า

Christian Dior Bois D’Argent EDP

เปิดมาแบบกลิ่น Iris นวลเนียน พร้อมกลิ่นหอมบางเบาที่ให้สัมผัสของกลิ่นแบบ Musk ในพื้นหลังแบบที่กลิ่นดูชื้นฉ่ำแบบผ้ากำมะหยี่นุ่ม ตามด้วยกลิ่นหอมเครื่องเทศหอมซ่าเบาๆ เสริมให้กลิ่น Iris และ Musk ดูมีมิติไม่นุ่มจนเกินไป มันเป็นกลิ่นที่หอมเย็น หวานนวลเบา ติดเครื่องเทศจางๆ อารมณ์แบบนี้ไปจนจบกลิ่น

กลิ่นนี้ให้กลิ่นที่หอมเบา เบาและบางเฉียบที่สุดในชุดเลย  เป็นกลิ่นละมุน หรูหราเหมือนกัน ได้กลิ่นแล้วนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมา บอกไม่ถูก กลิ่นมันนุ่มเบาเหมือนขนนก ปุกปุยเหมือนนุ่น สะอาดเหมือนผ้าปูที่นอนใหม่อะไรแบบนั้น จะว่าไปกลิ่นโดยรวมกันก็เหมือนกับพวกกลิ่นใบชาที่หอมเย็นติดซ่านิดๆ ในท้ายกลิ่นด้วย หอมดีจริงๆ กลิ่นนี้

เป็นอีกลิ่นที่ให้กลิ่นดี สมกับที่เลือกมาไว้ในชุดกลิ่นนี้ แต่เสียดายที่กลิ่นมันไม่ค่อยฟุ้งสักเท่าไหร่ ออกแนวกลิ่นติดตัวที่แรงหน่อย แต่ไม่แรงพอที่จะกระจายออกไปไกล ทำให้กลิ่นมันค่อนข้างจะจางหายไปเร็วตามช่วงเวลาที่ผ่านไป คิดว่าไม่สมราคาสักเท่าไหร่

สำหรับกลิ่นที่รู้สึกว่าคล้ายกับกลิ่นนี้ก็ Amber Niute จาก Dior เหมือนกัน ให้กลิ่นที่คล้ายในช่วงกลางกลิ่นไปแล้ว แถมกลิ่นแรงติดทนกว่าด้วย อีกกลิ่นที่นึกถึงก็ Diptyque Fleur de Peau ที่ให้กลิ่น Iris แนวหอมเย็นในช่วงต้นคล้ายกัน แต่ Diptyque ให้กลิ่นที่แรงกว่า หอมเย็นสะใจกว่า และติดทนกว่าอีกด้วย

Christian Dior Cologne Blanche EDP

เปิดกลิ่นมาแบบกลิ่นหอมหวานแนวส้ม กับกลิ่นเครื่องเทศเอียนๆ มาพร้อมกับความนวล ให้อารมณ์แป้งหอมเนื้อแน่นหนัก รวมกันแล้วเป็นกลิ่นที่หอมหวานเอียนแปลก มีความขมจางๆ แบบกลิ่นหวานขมนวลของ Almond ที่คุ้นเคยแทรกมาในพื้นหลัง เมื่อผ่านช่วงแรกไปสักพักให้กลิ่นที่หอมเย็น แนวแป้งหอมฟุ้งๆ หวานแห้งแบบกลิ่นวนิลาขมที่ให้ความรู้สึกสะอาด

กลิ่นสะอาดๆ หอมหรู ที่ไม่เหมือนกลิ่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แต่เหมือน “กลิ่นเครื่องสำอาง” มากกว่า กลิ่นหอมดีมาก หอมเย็นติดหวานที่แปลกมีเสน่ห์ คงเป็นเพราะกลิน Almond ในพื้นหลังที่ทำให้รู้สึกหนึบๆ มันๆ เหมือนกลิ่นดินปั้นอะไรสักอย่าง อาจจะดูเป็นกลิ่นแปลก กลิ่นสารเคมีถ้าไม่คุ้นกับกลิ่นแบบนี้ ส่วนตัวชอบกลิ่นหวานติดขมแบบนี้ เหมือนกลิ่นใน Hypnotic Poison ที่ตัดความหวานเลี่ยนออกไป ลงตัวดี

โดยรวมให้กลิ่นหอมแนวแป้ง หอมเย็น กลิ่นสะอาด มีกลิ่นส้มแซมบางๆ พอสดชื่นไม่แป้งเกินไป ตบท้ายด้วยกลิ่น Almond โดดออกมาพาให้ดูเป็นคนสำอางค์ ให้กลิ่นแบนนี้ไปจนจบกลิ่น แต่ไม่รู้สึกถึง Vanilla สักเท่าไหร่คงรวมๆ อยู่ในกลิ่นนั่นละ กลิ่นนี้เหมาะกับใช้เป็นกลิ่นติดตัวสุดกลิ่นดูสะอาดตลอดเวลา และเหมาะกับอากาศร้อนด้วยไม่ฉุน

Christian Dior Eau Noire EDP

กลิ่นเปิดมาแบบกลิ่นสมุนไพร กลิ่นรากไม้แห้งๆ ขม หวาน เค็มๆ มีกลิ่นไหม้แบบกลิ่นกาแฟ ผสมปนเป แบบน่าสับสนในกลิ่นเปิด ทิ้งให้กลิ่นแห้งไปสักพักกลิ่นเปิดแรงๆ เริ่มจางลงแต่ยังคงไว้ในกลิ่นสมุนไพรขม ติดกลิ่นกองไฟไหม้ๆ คล้ายกลิ่นไม้ติดไฟหอมคมๆ ของกลิ่นไม้ช่วงไฟใกล้จะมอด ผ่านไปช่วงกลางของกลิ่นนั้นกลิ่นจะเริ่มนุ่มขึ้น และแทรกด้วยกลิ่นแนวดอกไม้ขรึม กับกลิ่นแผ่นหนังหน่อยๆ จะว่าหอมก็หอมนั่นแหละ หอมแบบมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

กลิ่นแปลกดี ให้ความสับสนในกลิ่นว่ามันจะหอม หรือจะไม่หอมดี ให้กลิ่นหอมแนวสมุนไพร เครื่องเทศแห้ง ติดเขียว มีความขม-หวานแปลกแบบน่าสนใจ แต่ไม่ฉุนกลับรู้สึกโล่งด้วยกลิ่นคมๆ ขมๆ แบบกลินเมล็ดกาแฟไหม้ และกลิ่นเครื่องแกงกะหรี่บางๆ หอมชัดเจนในช่วงหลังของกลิ่น

ถึงอย่างนั้นกลิ่นก็ไม่เหมือนไปกินแกงกะหรี่มาแบบ Eau Noire น้ำเขียว ปี 2004 กลิ่นรุ่นใหม่นี้ให้ความสดชื่นแบบแยกออกว่าเป็นกลิ่นน้ำหอม ให้กลิ่นแนวน้ำหอม Woody ชัดขึ้นดูขรึมขึ้น เท่ห์ขึ้นเยอะ

ในกลิ่นเก่านั้น เปิดมาหอมแนวสมุนไพรอมเปรี้ยว ติดเขียวสดชื่นโดดเด่น อย่างกับเด็ดกิ่งสมุนไพรมาดมอย่างนั้น กลิ่นหอมเข้มติดขมในพื้นหลัง ปล่อยให้กลิ่นแห้งผ่านไปสักพักจะรู้สึกถึงความเป็นกลิ่นเครื่องเทศแกงกะหรี่ เค็ม หวาน แต่หอมเย็นของ Lavender แซมกลิ่นไม้แห้ง กับกลิ่นหนังแข็งๆ อย่างกับกลิ่นตู้เก็บเครื่องปรุงในห้องครัวอย่างนั้นละ ช่วงหลังของกลิ่นที่ให้กลิ่นสมุนไพร-เครื่องเทศอ่อนนุ่ม โปร่งใส แต่ก็ยังคงให้อารมณ์กลิ่นแกงกะหรี่อยู่

ส่วนตัวพอเอาทั้ง 2 รุ่นมาลองกลิ่นพร้อมกันแล้วชอบกลิ่นของรุ่นเก่ามากกว่า ให้กลิ่นที่เบา นุ่มนวล โปร่งใส และน่ากินกว่า แต่กลิ่นไม่เบาอย่างที่คิด ยังคงเป็นน้ำหอมกลิ่นแรงเหมือนกันอยู่ แค่ไม่โฉ่งฉ่างกระแทกจมูกแบบในรุ่นใหม่ก็เท่านั้นเอง แถมกลิ่นช่วงท้ายในุร่นเก่านั้นยังคงโปร่งใส สว่าง นุ่มกว่าด้วย

แอบแถมลองกลิ่น Eau Noire รุ่นเก่าให้ไปด้วยอีกนิด เป็นรุ่นที่น้ำสีเขียวสวยมาก รุ่นนี้ได้แบบแบ่งขายมาหลายปีแล้ว จำได้ว่าลองกลิ่นสเปรย์แรกนั้นให้อารมณ์กลิ่นเครื่องแกงกะหรี่วิ๊งๆ ไปตลอดวัน จะหอมก็หอม จะฉุนก็ฉุน ให้กลิ่นน่ากินมาก ครั้งนี้เอามาลองใหม่กระตุ้นความจำ แต่อยากบอกว่าพอได้ลองกลิ่นรุ่นเก่าอีกครั้งกลับรู้สึกว่ามันหอมแรงแต่นุ่มลึกขึ้นมาก คงเป็นเพราะประสบการณ์ลองกลิ่นมั่วๆ ที่ผ่านมาด้วยละมั้งเลยทำให้ชอบกลิ่นรุ่นเก่ามากขึ้นไปอีก

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: DIOR TOBACOLOR EDP

ครั้งนี้ได้กลิ่นใหม่ที่หาขนาดทดลองยากมากมาลองกลิ่นกัน กลิ่นนั้นคือ TOBACOLOR กลิ่นจากกลุ่มน้ำหอมไลน์ Maison Christian Dior ที่เพิ่งเข้ามาขายในไทยแบบกล่อง Limited เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา อยากลองกลิ่นตั้งแต่เห็นออกมาเมื่อปีก่อน ด้วยที่มีโน๊ตกลิ่นหลักของใบยาสูบที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ได้ขวดจิ๋วขนาด 7.5ml มาลองกลิ่น ว่าแล้วก็มาลองกลิ่นกันดีกว่า

TOBACOLOR ออกมาในปี 2021 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Amber ที่ให้กลิ่นเข้มข้น เย้าวยวนแบบตะวันออก เป็นกลิ่นที่จุดประกายถึงการเดินทางที่ท่องไปด้วยความอิสระ มีโน๊ตกลิ่นจาก Tobacco, Honey, Plum, Peach

กลิ่นหอมหวานแน่น ที่ให้กลิ่นแบบใบยาสูบหวาน ทึบ ผสมกับกลิ่นของน้ำผึ้งหวานครึ้มๆ ปนกลิ่นควันไฟจาง และกลิ่นพวกขนมหวาน คลอกลิ่นโทนเครื่องเทศแนวหอมนุ่มที่ไม่เผ็ดซ่าอย่างเครื่องเทศทั่วไป  รวมกันแล้วมันนึกไปถึงกลิ่นเหล้าจางๆ ผสมกับกลิ่นยาสูบหอมอุ่นๆ เหมือนอยู่ในบาร์ที่สูบบุหรี่กันควันขโมง แต่จะว่าไปกลิ่นแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงกลิ่นของพลาสติก กลิ่นยางสังเคราะห์ด้วยเหมือนกัน กลิ่นหอมหวานทึบที่อยากจะดมพร้อมกับความรู้สึกว่าไม่ควรดมอะไรแบบนั้น

กลิ่นหอมนุ่มมากเลยกลิ่นนี้ กลิ่นใบยาสูบหวานๆ ที่มีความแน่นของกลิ่นที่กำลังดี กลิ่นให้อารมณ์เงียบขรึม อบอุ่น หรูหน่อยๆ ดูมีสไตล์ กลิ่นแบบนี้ให้อารมณ์น้ำหอมของ Kilian บางกลิ่นอยู่เหมือนกัน ด้วยเนื้อกลิ่นที่แน่นฉ่ำแบบถึงใจแบบนี้ถ้าไม่ดูยี่ห้อก็คงคิดว่าเป็นกลิ่นสักกลิ่นจาก Kilian ละ สำหรับกลิ่นนี้ให้ภาพของผู้ชายเท่ๆ ลักษณะสันโดด รักอิสระชอบทำอะไรคนเดียวไม่สนใจใคร มีเสน่ห์มาก แต่ก็ให้ภาพของผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง มีความกล้าที่จะเลือก กล้าที่จะทำ แต่ก็ใส่ใจคนรอบข้างด้วย โดยโทนกลิ่นจะเอนไปทางสำหรับผู้ชายมากหน่อย กลิ่นกระจายตัวค่อนข้างดีทั้งในช่วงต้น และช่วงกลาง กลิ่นติดทนดีสมราคาอีกด้วยแค่แต้มลองกลิ่นก็ติดยาวไปเกือบทั้งวัน

เป็นกลิ่นที่ไม่เหมือนน้ำหอมจาก Dior เลยสำหรับกลิ่นนี้ กลิ่นมันโดดออกจากพวกพ้องมาก ลองกลิ่นครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกันแต่พอลองไปสักสองสามครั้งก็โอเค ชินละ แต่ก็ไม่คิดว่า Dior จะทำกลิ่นที่ LOUD แบบนี้ มันช่างสะใจดีจริงๆ แถมอยู่ในกลุ่ม Maison Christian Dior อีกต่างหากค่าตัวไม่ต้องพูดถึง สูงลิบ ยิ่งช่วงนี้ขยันปรับราคาขึ้นเดือนต่อเดือนอีกต่างหาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะหามาใช้สักขวดนึง ตอนนี้คงใช้แค่ขวดเล็กจิ๋วต่อไปก่อน

Gallery: DIOR TOBACOLOR

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Christian Dior Poison Girl Unexpected EDT

.

มาถึงกลิ่นล่าสุดในตระกูล Poison กันแล้วนั่นก็คือ Poison Girl Unexpected ที่ออกมาในปี 2018 ถัดมาอีก 1 ปีจากรุ่น EDT ให้กลิ่นที่มีความสดใหม่ด้วยกลิ่น Top notes จากกลิ่น Tranzanian Ginger แบบ Double dose ให้ความสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อ เสริมด้วยกลิ่น Spice มอบความ Sexy รวมกับกลิ่น Salty note ดูสดใสแบบ Ginger Tonic ด้วยโน๊ตกลิ่นของ Tanzanian Ginger, Damascus Rose, Venezuelan Tonka Bean, Vanilla, Musk

กลิ่นเปิดมาหอมหวานอมเปรี้ยวใสๆ เหมือนกลิ่นยาสีฟันโคโดโมะสักรสชาติ กลิ่นหอมอมเปรี้ยวแบบเลมอน อมหวานแบบส้ม กับกลิ่นหอมชุ่มฉ่ำให้กลิ่นซ่าคมๆ สาบนิดๆ เหมือนกลิ่นขิงแช่น้ำตอนซื้อไส้กรอกอีสานข้างถนน เมื่อผ่านไปสักพักจะรู้สึกถึงกุหลาบที่ให้กลิ่นบางเฉียบคลอรอบๆ กลิ่น พร้อมกับกลิ่นหอมมันเหมือนถั่วอะไรสักอย่างคู่มากับกลิ่นครีมเนียนๆ ในพื้นหลัง ที่มีกลิ่นวนิลาคลอมาบางๆ

กลิ่นนี้ให้กลิ่นเปิดที่แปลกเกินคาดสมกับชื่อ Unexpected จริงๆ ด้วยกลิ่นที่หอมเปรี้ยวอมหวานแบบกลิ่นยาสีฟันเด็กหอมแนวเบอร์รี่ ซีตรัส ปนกลิ่นเลมอนซ่าๆ แล้วกลิ่นแบบขิงสาบๆ ก็โผล่ขึ้นมาทำเอาคิดว่ามันเป็นกลิ่นแบบนี้จริงๆ หน่ะเหรอ และสิ่งที่ทำให้แปลกใจอีกทีก็คือกลิ่นโดยรวมที่ค่อนข้างเบา กุหลาบบางๆ กลิ่นครีมมี่ มันๆ แบบกลิ่นถั่ว ที่รู้สึกถึงกลิ่นวนิลลา กับ Tonka Bean ที่เป็นจุดเด่นของ Poison Girl น้อยมากจริงๆ แปลกใจเกินคาดเลยละ

ด้วยความแปลกใจในกลิ่นที่ไม่ชัดเจนเหมือนรุ่นพี่ก็จัดการฉีดลองกลิ่นอีกครั้ง ผลก็ยังคงเหมือนเดิมกลิ่นเปิดที่แปลกหอมน่าสนใจ และกลิ่นช่วงหลังที่หอมนุ่มบางเบา แต่ชัดเจนตรงที่ให้กลิ่นช่วงหลังแบบกลิ่นกุหลาบผสมกลิ่นแนวซีตรัสคมใสคลอมากับกลิ่นแบบถั่วหอมมัน ที่ให้วนิลาบางๆ ในพื้นหลัง เป็นกลิ่นที่บางใส โปร่ง และสดชื่นดี กลิ่นไม่แรงกระจายตัวไม่มาก แต่กลิ่นหอมสบาย ติดทนพอประมาณ 4-5 ชั่วโมงพอได้อยู่ ใช้งานง่ายได้ทุกโอกาส เหมาะกับเป็นกลิ่นประจำตัวอีกด้วย ให้ลุ๊คดูสดใส น่ารัก แต่ก็มั่นใจพอประมาณ

กลิ่นล่าสุด และกลิ่นสุดท้ายในตระกูล Poison Girl ที่ได้มาลองกลิ่น ทำเอามึนไปพักนึงเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างน่าผิดหวังด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างบางเบาไปหน่อย แทบจะเป็นกลิ่นติดผิวได้เลย น่าเสียดายกลิ่นเปิดมาอุส่าห์แปลกใหม่ทำเอาแปลกใจตามชื่อได้แล้วด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นแรงคงจะถูกใจแน่นอน กลิ่นแปลกมีเอกลักษณ์ ที่ให้กลิ่นกุหลาบอมเปรี้ยวเนียนๆ ติดตัวไปตลอดวันดูดีเลยละ ส่วนตัวบล็อกนั้นชอบตัว EDP มากที่สุดเพราะกลิ่นมันเข้ม หอมหวานฉ่ำๆ วนิลาเนียนแรงๆ ฟุ้งสะใจ นั่นแหละที่ต้องการเพราะมันแสดงถึงความเป็น Poison ของจริงเหมือนต้นตระกูลที่ทำไว้

Christian Dior Poison Girl Unexpected EDT 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Christian Dior Poison Girl EDT

.

มาถึงกลิ่นต่อไปจาก Dior Poison Girl ในรุ่น EDT ออกมาในปี 2017 ปีถัดมาจากรุ่น EDP ถูกวางให้เป็นรุ่นที่อัพเดทจากรุ่นเดิมให้มีความทันสมัย ที่ทำให้ดูบอบบางขึ้น มีความเป็นผู้หญิงชัดเจน และดูจับต้องได้มากขึ้นกว่าเดิม มีโน้ตกลิ่นหลักๆ คือ Sicilian Sweet Orange, Bitter Orange, Neroli, Grasse Rose, Damascena Rose, Vanilla, Tonka Bean

กลิ่นเปิดยังคงให้ความรู้สึกถึงกลิ่นส้ม กับเลมอนติดขมปลายๆ ที่ให้ความหวานสดใส แต่แทรกขึ้นด้วยกลิ่นหอมหวานข้นคล้ายคาราเมล กับวนิลาหอมมัน แทรกด้วยกลิ่นแบบ Orange Blossom กับกลิ่นกุหลาบเนื้อกลิ่นบางคลอเป็นพื้นหลัง กลิ่นตอนแห้งไปสักพักกลิ่นดอกไม้แบบ Neroli กับ Orange Blossom เริ่มเด่นชัดขึ้นมาพร้อมกับความติดเขียวใสๆ ทำให้กลิ่นจากหวานเข้มนวลช่วงแรกเริ่มลดลง กลิ่นดูใสสดชื้นขึ้นมาก  พอเข้าช่วงกลางของกลิ่นนั้นเริ่มสร้างความหวานนวลฉ่ำๆ กลับเข้ามาในกลิ่นอีกครั้ง กลิ่นหอมกลมของคาราเมลผสมวนิลา และความเนียนครีมแบบ Tonka Bean ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ให้ความหอมมันที่กลมกล่อม แต่เนื้อกลิ่นเบาขึ้นและดูใสสดชื่น

กลิ่นช่วงแรกมันคล้ายกับรุ่น EDP อยู่นะ แต่ช่วงหลังๆ นั้นกลิ่นแบบแค่คล้ายเท่านั้น ด้วยกลิ่นที่หวานฉ่ำน้อยกว่า และมีกลิ่นแบบคาราเมลแทรกขึ้นมาชัดกว่ากลิ่นวนิลาหอมมันแบบที่เจอในรุ่น EDP โดยกลิ่นในช่วงท้ายยังคงเดินตามรอย EDP ด้วยความหวานเนียน ฉ่ำกลมกล่อมของวนิลา กับ Tonka Bean แต่เพิ่มมาด้วยกลิ่นคาราเมลจางๆ ดูหอมสดชื่นดี สรุปแล้วกลิ่นโดยรวมของรุ่น EDT นั้นยังคงให้อารมณ์ประมาณกลิ่น EDP อยู่ไม่หนีหนายไปไหนเพียงแต่มันมีความเบาของเนื้อกลิ่นมากกว่า ลดความฉ่ำของกลิ่นลงพอประมาณ เพิ่มกลิ่นดอกไม้ใสชัดขึ้น มีกลิ่นคาราเมลมาลดความเด่นของวนิลาในช่วงท้ายลง ให้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นลิปสติก “มันๆ” เหมือนพลาสติก มีเสน่ห์ยั่วๆ ดี กลิ่นดูใช้ง่ายในสภาพอากาศร้อนขึ้นเยอะ ถึงจะไม่ดูอบอุ่น Cozy แบบรุ่น EDP ก็เถอะ

กลิ่นนั้นเข้มกำลังดี กระจายตัวดีจนอาจจะดีมากด้วย กลิ่นมันฟุ้งตลบในช่วงแรกมาก ระหว่างวันกลิ่นก็ยังคงโชยมาให้รู้สึกตลอดเวลา ซึ่งความทนก็ติดทนนานไม่แพ้รุ่น EDP เลย อยู่ได้ 5-6 ชั่วโมงโดยเฉพาะบนเนื้อผ้าที่ติดนานสะใจ กลิ่นยังคงดูหรู น่าซบ กลิ่นดูสบายเหมาะกับวันที่อากาศอบอุ่นอยู่แล้วไม่ต้องการกลิ่นที่แน่นเกินไป แค่รุ่น EDT ก็โอเคแล้วละ

Christian Dior Poison Girl EDT 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Thé Cachemire EDP

.

Thé Cachemire ออกมาในปี 2018 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Light Floral ให้กลิ่นจากการผสมกันของภาพขณะจิบชา และม้วนแขนเสื้อ Cashmere sweater ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นดอกไม้สีขาวหอมมักนุ่ม สร้างความอบอุ่น ผ่อนคลาย เสริมความสดชื่นให้กับผู้ที่ได้กลิ่น

ให้กลิ่นเขียวอุ่นๆ ในช่วงกลิ่นเปิด ในกลิ่นเขียวนั้นรู้สึกถึงกลิ่นเลมอน กลิ่นมะกรูด และกลิ่นใบชา แทรกขึ้นมาด้วยกลิ่นอมหวานแปร่งให้ความรู้สึกเปียกชื้น เมื่อผ่านไปสักพักจะเริ่มมีกลิ่นแนวดอกไม้สีขาว ที่ให้ความรู้สึกสะอาดอย่างกลิ่นดอก Magnolia ชัดๆ ลอยคลอมากับกลิ่นอมเปรี้ยวแบบผลไม้เบอร์รี่บางๆ  ช่วงท้ายให้ความรู้สึกถึงเครื่องเทศเผ็ดซ่าที่ให้กลิ่นหอมโปร่งแนวกลิ่นใบกระวาน คลอไปกับความนุ่มมันแบบมักส์ รวมกันให้กลิ่นดูอบอุ่นน่าเคารพยังไงไม่รู้

เป็นกลิ่นที่ออกแนวกลิ่นเขียวเหนอะแต่สดชื่น หอมอมหวานนุ่ม ติดเครื่องเทศหอมอุ่นกลิ่นแห้งนิดๆ  ทำให้กลิ่นดูอบอุ่นแต่เบาสบาย ให้ความรู้สึกสะอาดดี เหมาะกับช่วงอากาศร้อนด้วย ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นมันเหมือนกับกลิ่นใบชาเขียว หรือพวกลิ่นใบชาแห้งๆ ที่ให้กลิ่นหอมเย็น แต่ก็ดูเป็นกลิ่นอุ่นๆ ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สดชื่นหลังจากได้กลิ่น ชอบนะ แต่ไม่คิดจะเอากลิ่นแบบนี้มาเป็นกลิ่นน้ำหอมติดตัวหรอกไม่รู้ทำไม

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Rose Gipsy EDP

.

Rose Gipsy ออกมาในปี 2018 กลิ่นแนว Light Floral ให้ความสดชื่นอย่างกลิ่นจาก May Rose พร้อมกับโน้ตกลิ่่นเขียวสดใส กับกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อยให้ความซาบซ่าแบบ Peppery scent ทำให้ให้ Rose Gipsy เป็นกลิ่นที่หอมบางเบา มอบความสดชื่นในเความเข้มข้นที่กำลังดี

กลิ่นเปิดมาแบบกุหลาบบางเบา ให้กลิ่นกุหลาบอ่อนโยน โปร่งนุ่ม ที่มีความหวานติดเปรี้ยวนิดๆ กำลังดี มีกลิ่นเขียวฉ่ำในพื้นหลังให้อารมณ์น้ำค้างยอดหญ้า ที่กลิ่นโดยรวมทำให้นึกถึงกุหลาบดอกเล็กๆ ดูบอบบางที่ต้องจับด้วยความระมัดระวัง

ก็น้ำหอมกลิ่นกุหลาบนั่นหละ  คล้ายกับกลิ่นกุหลาบอื่นๆ จากยี่ห้อเดียวกันแต่ใน Rose Gipsy นั้นให้โทนกุหลาบที่บาง เบา ลอยๆ กว่ากลิ่นอื่นมาก เป็นกลิ่นที่หอมนุ่มเบาแบบกลิ่นบนผิวที่จะลอยมาให้รู้สึกเมื่อเข้ามาใกล้ๆ ดูพิเศษดี ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นมันอ่อนไป กลิ่นเบามากแทบจะไม่ได้กลิ่นเวลาใช้งานจริง แต่คนชอบกลิ่นบางเบาน่าจะชอบกลิ่นนี้เพราะให้กลิ่นกุหลาบที่เหมือนจริงและแรงกำลังดีเหมือนตอนก้มดมดอกกุหลาบ

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Lucky EDP

.

Lucky ออกมาในปี 2018 ให้กลิ่นแนว Light Floral เป็นกลิ่นตัวแทนของความโชคดี ให้ภาพสะท้อนของความสัมพันธ์อันพิเศษระหว่าง House of Dior กับ ดอก Lily-of-the-Valley เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นของดอกไม้สีขาว และ Lily-of-theValley ให้กลิ่นบอบบางอันโดดเด่น ดังการเป็นกลิ่นของดวงดาวแห่งความโชคดี

กลิ่นหอมครีมบางเบาแบบกลิ่นดอก Lily-of-the-Valley ให้กลิ่นหวานนวลใส อมเปรี้ยวนิดๆ แบบกลิ่นดอกไม้ไหวโปร่งบาง ไม่ได้ให้กลิ่นติดคาวแหลมๆ เหมือน Lily-of-the-Valley สมัยก่อนที่ Dior ชอบทำ พร้อมกับกลิ่นแนวดอกไม้ขาวพริ้วไหวฟุ้งกระจายคลอมารอบๆ ให้กลิ่นหอมรัญจวล เนื้อกลิ่นโปร่งใส ติดเขียวสดชื่นในพื้นหลัง กับกลิ่นโปร่งซ่านิดๆ ให้อารมณ์เหมือนกลิ่นอากาศสะอาดๆ ที่รู้สึกได้ในกลิ่นรอบๆ

หอมมาก กลิ่นดอกไม้โปร่งเบา หวานใส กำลังดี ให้กลิ่นที่เรียกได้ว่ากลิ่นน่ารัก ดูน่าทะนุถนอม ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นของฤดูใบไม้ผลิ ถึงจะไม่เคยไปอยู่ในฤดูใบไม้ผลิก็เถอะ นึกถึงอากาศอบอุ่น ต้นไม้แตกใบอ่ิอน น้ำค้างบนยอดหญ้าชุ่มฉ่ำ และที่สำคัญกลิ่น Lily-of-the-Valley ที่ให้กลิ่นฟรุ้งฟริ้งแบบผู้ดีเหมือนฝันมากสมกับเป็นกลิ่นของดอกไม้สำคัญของแบรนด์ ถึงจะเป็นกลิ่นแนวสดชื่นบางเบาแต่กลิ่นมันกระจายตัวฟุ้งกำลังดี ไม่อ่อนจนเกินไปด้วย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Christian Dior Poison Girl EDP

.

ครั้งนี้มาถึงคิวกลิ่นใหม่จากไลน์ Poison นั่นคือ Poison Girl ที่ออกมาในปี 2016 หลังจากที่ออก Hypnotic Poison EDP มาในปี 2014 แต่ก็ไม่ได้จำหน่ายในไทย โดย Poison Girl กลิ่นนี้เป็นรุ่น EDP หาอยู่หลายเดือนกว่าจะได้มาหายากมาก เพราะได้กลิ่นอื่นในชุด Poison Girl มาก่อนแล้ว 2 กลิ่นคือ Poison Girl EDT และ Poison Girl Unexpected แต่ก็ยังไม่ได้เอามาลองกลิ่นเพราะอยากจะได้ตัว EDP ที่ออกมาเป็นตัวแรกในชุดมาลองกลิ่นไล่ตามปีที่ออกวางจำหน่ายมากกว่าจะได้เข้าใจง่าย

.

โดย Poison Girl นั้นจริงๆ ไม่ได้มีวางขายตามเคาน์เตอร์ในไทยอย่างเป็นทางการ แต่จะมีขายเฉพาะเคาน์เตอร์ตาม Duty Free ในไทยตามสนามบินอย่างเดียวทำให้ไม่เคยเห็นกลิ่นตระกูล Poison Girl กล่องขายจริงวางจำหน่ายทั่วไป (อันนี้ถามมาจาก SA Dior โดยตรง) แต่เท่าที่หาซื้อได้ก็จะมี่แค่เป็นกล่องเทสเตอร์ หรือกล่องขาวเท่านั้นที่ขายตามร้านน้ำหอมในไทย กล่องเทสเตอร์นี้ได้มาจากไหนอันนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ถ้าคนที่เข้าใจกระบวนการก็น่าจะพอรู้ว่าได้มาอย่างไร ซึ่งตัวบล็อกเองก็ได้แบบขวดเทสเตอร์กล่องขาวมาทั้ง 3 กลิ่น ทำให้กว่าจะได้มาครบทั้ง 3 กลิ่นนั้นก็ใช้เวลาและทรัพย์พอสมควร เล่นเอาอดอยากไปเลย

.

Poison Girl EDP ออกมาในปี 2016 เป็นการนำเสนอกลิ่นใหม่จากชุด Poison ซึ่งเน้นการตลาดไปยังกลุ่มคนที่อายุน้อย หรือวัยรุ่น วัยทำงานที่มีความชื่นชอบในแบรนด์ นำเสนอโดยว่า “I am not a girl, I am Poison.” เป็นกลิ่นที่ให้ภาพของหญิงสาวในยุคปัจจุบัน รักความอิสระ และมีเสน่ห์เย้ายวน  ด้วยแรงดึงดูดใจอันเกินต้านทานดุจยาพิษที่มอบความพึงพอใจให้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ด้วยความขมอมหวานที่ทำให้น้ำลายสอจากกลิ่น Bitter Orange นำไปสู่ความนุ่มสว่างใสจาก Tonka bean และความหอมแรกแย้มให้ความแหลมคมและน่าสัมผัสอย่าง Grasse Rose โน้ตกลิ่นหลักๆ คือ Bitter Orange, Orange Blossom, The Grasse Rose, Venezuelan Tonka Bean

กลิ่นเปิดมาแบบเลมอน กับส้มใสติดขมนิดๆ ดูสดชื่น มีกลิ่นหอมใสนวลบางๆ แบบกลิ่น Orange Blossom ให้ความหวานกรุบน่ารักต่อจากนั้นเริ่มรู้สึกถึงกลิ่นกุหลาบที่คลอมาให้กลิ่นแบบหอมนวลนุ่มหวานแบบกำลังดี เมื่อกลิ่นแห้งไปสักพักความหวานในพื้นหลังเริ่มมีความฉ่ำเข้มขึ้นจนเหมือนกลิ่นน้ำหวานข้นๆ ปนกับกลิ่นกุหลาบ ที่มีความหวานเนียนของวนิลาทีออกนวลแบบติดขมลึกๆ แทรกมากับความหวานช่วงต้น ทำให้กลิ่นดูหวานฉ่ำๆ แต่เก๋ดีทีเดียว ดูมีอะไรพิเศษในกลิ่นไม่ใช่แค่หวานฉ่ำธรรมดาทั่วไป ในช่วงท้ายนั้นออกจะไปทางกลิ่นวนิลาหวานแน่นๆ ครีมนวลให้ความนุ่มอบอุ่นฟุ้งๆ ไปจนจบกลิ่น

กลิ่นหอมแนววนิลา คลอมาด้วยกุหลาบกับความหวานลึกติดขมนิดๆ เป็นกลิ่นที่หอมทุ้มๆ จนเกือบฉุน ถ้าได้กลิ่นผ่านๆ จะรู้สึกว่าหอมมาก พร้อมกับความนุ่มเนียนของวนิลากับ Tonka Bean หวานเนียนในช่วงหลังที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นรู้สึกดี ส่วนตัวแล้วชอบกลิ่นแบบนี้มาก เป็นกลิ่นหอมแรง หวานแน่น วนิลานวลๆ ครีมในช่วงท้ายติดผิวกลิ่นกลมกล่อมหวานนวลเนียนอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นดูหรู น่าเข้าไปซบ น่าเข้าไปดมใกล้ๆ ใช่แล้วมันเป็นกลิ่นที่แรงดีใช้ได้กลิ่นนึงเลย กลิ่นออกไปทางฉุนนิดๆ จากวนิลาเข้ม กลิ่นอุ่นเหมาะกับสภาพอากาศเย็น แต่คิดว่าถ้าสเปรย์ไม่เยอะก็ใช้ในอากาศร้อนได้ดีเลยละ ใช้ดีๆ ก็เหมาะกับทุกโอกาสกเลยกลิ่นนี้ น่าแปลกใจทำไมไม่เอามาขายในไทย สงสัยกลัวไปตีกับ Dior Addict EDP ละมั้ง

Christian Dior Poison Girl EDP 100ml

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Dolce&Gabbana Dolce EDP

.

Dolce EDT ออกมาในปี 2014 เป็นกลิ่นแนว Floral ที่เป็นกลิ่นแรกในไลน์ Dolce ให้กลิ่นที่มอบความเป็นหญิงสาวด้วยกลิ่นสดชื่นที่มีความละเอียดอ่อน สร้างความเป็นอมตะดุจงานศิลปะ Dolce คือกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้ที่ได้สัมผัส ด้วยโน้ตกลิ่นของ Neroli leaves, Papaya Flower, Water Lily, White Amarylis, Musks, Cashmeran

กลิ่นหอมดอกไม้เย็นๆ แบบกลิ่นดอกไม้สีขาวเน้นๆ เลย ให้กลิ่นหวานฉ่ำเย็น มีความเขียวใสบางๆ แบบกลิ่นดอกส้มหรือ Neroli คลอมากลับกลิ่นหอมแหลมของดอกไม้บางชนิดที่มีความเย็น หอมหลอนๆ ที่่ให้กลิ่นหวานแหลมพร้อมกับกลิ่นหอมมนุ่มครีมมี่เหมือนผ้ากำมะหยี่นุ่มรองไว้ในกลิ่นพื้นหลัง กลิ่นมันดูสดใส สดชื่นดีมากๆ

เป็นกลิ่นแนวดอกไม้ขาวแน่นใช้ได้กลิ่นหนึงเลย ให้ความใส ความหวานแหลมของดอกไม้ พื้นหลังติดกลิ่นเขียวสว่างใส ที่ให้กลิ่นดูเย็นสบาย โปร่งสะอาด สดชื่น ช่วงหลังให้กลิ่นนุ่มๆ หวานๆ ดูเป็นกลิ่นที่หอมปลอดภัย ใช้งานได้ทุกวันไม่มีอะไรพิเศษ เหมาะเป็นกลิ่นสำหรับคนที่ชอบกลิ่นแนวดอกไม้สะอาดๆ กลิ่นดูชัดเจนใช้เป็นกลิ่นประจำตัวน่าจะชอบกลิ่นนี้เพราะกลิ่นเวลาผสมกับกลิ่นตัวแล้วมันให้เอกลักษณ์เฉพาะตัวไปตามแต่ละคน กลิ่นนี้ก็เหมือนกันกลิ่นมันต่างกันไปตามแต่ละคน และแตกต่างตามจุดที่ฉีดด้วยแปลกดี

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Diorissima EDP

.

Diorissima ออกมาในปี 2018 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Fruity Floral เป็นกลิ่นที่สร้างความงงงวย และน่าแปลกใจ ด้วยกลิิ่นที่มีความบอบบางละเอียด และกลิ่นที่ความคมชัดใส สร้างความสมดุลเผยออร่าที่สว่างไสวตามชื่อของกลิ่น ที่ให้กลิ่นสดชื่น ซาบซ่า และนุ่มนวลอบอุ่น จากโน๊ตกลิ่น Orange, Gardenia, Musk

กลิ่นส้มหอมสะอาดติดหวานบางๆ กลิ่นส้มใสสดชื่น โปร่งสบาย ให้อารมณ์แนวกลิ่นแชมพูสระผม สักพักลิ่นหอมเริ่มออกไปทางกลิ่นนวลมันที่หวานแบบแป้งหอมบางๆ ที่ยังคงมีกลิ่นหอมส้มแปลกๆ คลอมาตลอดยิ่งทำให้กลิ่นดูสดชื่นไปอีก ช่วงกลิ่นแห้งไปแล้วกลิ่นจะมีกลิ่นหอมซ่าๆ แบบเปลือกส้มกับกลิ่นหอมหวานแบบน้ำจางๆ ไปทางกลิ่นดอกไม้หอมๆ แบบที่จ่าจะเป็นกลิ่น Gardenia ตามโน้ตกลิ่น ให้กลิ่นชัดสดใสบนพื้นหลังแบบกลิ่นหอมมักส์เนียนๆ โปร่งใส ให้กลิ่นนุ่มครีมมี่แบบกลิ่นนมเปรี้ยวผสมโซดาแปลกดีพิลึก

กลิ่นหอมดีนะ กลิ่นหอมสดชื่นแบบกลิ่นส้มผสมกลิ่นดอกไม้หอมสะอาดชัดๆ ที่ไม่เคยเจอกลิ่นแบบนี้ที่ไหน ให้กลิ่นเหมือนแชมพูหอมสะอาดสดชื่น แต่ก็มีความหวานนวลเนียนในพื้นหลัง ยิ่งทำให้กลิ่นมีเสน่ห์ขึ้นมาก ถึงกลิ่นโดยรวมจะออกไปทางกลิ่นเบาสบาย ไม่รุนแรง แต่ด้วยกลิ่นส้ม กับ ดอก Gardenia ที่ให้ความรู้สึกชัดเจนและรวมกันเป็นกลิ่นหอมสดชื่นแบบแปลกๆ มันก็ทำให้น่าสนใจที่จะชวนมาลองกลิ่นอยู่นะ  ส่วนตัวชอบกลิ่นที่ดูไม่โดดเด่น แต่สามารถสะกิดใจให้หันกลับไปมองแบบนี้ได้ มันแปลกดีจริงๆ

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Jasmin Des Anges EDP

.

Jasmin Des Anges ออกมาปี 2018 แนวกลิน Fruity Floral ให้กลิ่นของสวนดอก Jasmine ใน Grasse สถานที่ที่่มีกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้ในอากาศ ด้วยกลิ่นหอมเข้มข้นที่เหมาะกับฤดูร้อนของกลิ่น Jasmine และ Apricot ที่หอมหวานอย่างน่าหลงใหล

กลิ่นเปิดมาก็ได้กลิ่นมะลิชัดหอมมาก หอมหวานกลมกล่อม ในกลิ่นมะลิมีกลิ่นหวานฉ่ำๆ ของผลไม้อะไรสักอย่างน่าจะเป็นกลิ่น Apricot กับ Peach คลอมากับกลิ่นมะลิ ทำให้กลิ่นมะลิหวานใสนั้นมีความฉ่ำหวานมากยิงขึ้น หอมจริงช่วงกลิ่นเปิดไปถึงช่วงกลาง ช่วงหลังนั้นมันทั้งหวานทั้งนุ่มแบบกลิ่นวนิลาบางๆ กับหอมมันแบบมักส์เบาๆ คลอมากับกลิ่นดอกมะลิจากช่วงต้น กลิ่นหรูมากดูพิเศษอีกด้วย สมบูรณ์แบบเลยกลิ่นนี้

กลิ่นนี้ให้กลิ่น Jasmine ที่ชัดใส และมีความเข้มที่กำลังดี หอมหวานอบอวล กลิ่นหวานแหลมแทบจะแทงจมูกแต่ก็ไม่ ให้กลิ่นหวานชัดกลมกล่อมดีมากๆ กลิ่นโดยรวมค่อนข้างโปร่งฟุ้งกระจายดีมาก แต่ก็มีความหวานฉ่ำๆ ในพื้นหลัง เป็นกลิ่นที่แรงพอประมาณแต่สามารถใช้งานในสภาพอากาศร้อนได้ แปลกไหม ไม่แปลกหรอกกลิ่นมันเข้ากับอากาศร้อนจริงๆ นะ พอลองกลิ่นแล้วอยากบอกว่าชอบกลิ่นนี้มากเป็นพิเศษเลย

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Rose Kabuki EDP

.

Rose Kabuki ออกมาในปี 2018 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Light Floral ให้กลิ่นอันบริสุทธิของกุหลาบที่เพิ่งผลิบานมาพร้อมกับความนุ่มอย่างแป้งละเอียดอ่อน ที่ให้ภาพของ Kabuki การแสดงเก่าแก่ของญี่ปุ่นมาตีความจากกลิ่นสดชื่นมีพลังของกุหลาบเปล่งประกายจากความนุ่มดุลแป้งบางเบาเปรียบเสมือม่านการแสดง และเครื่องสำอางค์ของนักแสดงบนเวที มีโน้ตหลักๆ จาก กุหลาบ และ มักส์

กลิ่นเปิดมาแบบกุหลาบสดฉ่ำ กลิ่นกุหลาบหวานบางๆ อมเปรี้ยวแบบกลีบกุหลาบที่ถูกดึงออกจากดอก ให้กลิ่นอมเปรี้ยวแต่นุ่ม พร้อมความเขียวบางๆ เหมือนน้ำค้างบนใบหญ้าเพิ่มความสดชื่นให้กลิ่น พร้อมกับกลิ่นหอมนวลหวานของมักส์ในพื้นหลังที่คลอมาผสมกับกุหลาบยิ่งทำให้กลิ่นกุหลาบฉ่ำขึ้นไปอีก

เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ให้อารมณ์ของกุหลาบสด กลิ่นหอมอมเปรี้ยวที่ยังคงหวานนุ่ม และฉ่ำ ให้ความสดชื่น โปร่งสบายเหมือนอยู่ในสวนกุหลาบตอนเช้าๆ กลิ่นผ่อนคลายดีมาก ฟุ้งกระจายดีอีกด้วย โดยที่กลิ่นมาเป็นกุหลาบตั้งแต่ต้นจนจบอายุของกลิ่นมันดีมากๆ สำหรับคนที่ชอบกลิ่นกุหลาบ

มันเป็นกลิ่นกุหลาบที่อาจเคยเรียกว่าตามหามาก่อน ในช่วงแรกที่บล็อกเริ่มสนใจน้ำหอมอาจจะเคยผ่านตากับบล็อกตามหาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่เหมือนกุหลาบจริงมาบ้าง จนไปเจอกับ DKNY A Drop of Rose ที่ให้กลิ่นตรงใจ แต่มันดันเลิกผลิตไปแล้วนี่สิ แต่ก็มาเจอ Rose Kabuki นี่หละที่ให้กลิ่นเหมือนกุหลาบสดมากเหมือนกัน ถูกใจมากน่าเก็บไปคิดที่จะไปเอาขวดใหญ่มาซะแล้ว

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Sakura EDP

.

Sakura ออกมาปี 2018 เป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Light Floral ให้กลิ่นหอมบางเบาอย่างโน้ตกลิ่น Cherry Blossom ลอยมาตามลม ให้กลิ่นของความสดชื่นจากฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นนี้อยากลองมานานแล้วอยากรู้ว่ากลิ่นดอกซากุระมันกลิ่นเป็นยังไง โน๊ตกลิ่นหลักก็ Cherry Blossom น่าลองกลิ่นเลย

กลิ่นหวานเขียวสดใสคลอมากับกลิ่นดอกไม้บางเบา เหมือนกลิ่นกุหลาบบางๆ ผสมกับกลิ่นมะลิ สักพักกลิ่นจะเริ่มมีความเหนอะแบบกลิ่นอมเปรี้ยวเยิ้มๆ แทรกมากับกลิ่นดอกไม้ ทำให้นึกถึงกลิ่นแบบสบูก้อนอาบน้ำที่หอมนุ่ม โดยรวมกลิ่นให้เหมือนหญ้าเขียวขจีในสวนดอกไม้ตอนเช้าๆ เบาสบาย หอมสะอาด สดชื่น กลิ่นดูใช้ง่ายมาก เป็นกลิ่นใช้ได้ทุกวัน

กลิ่นดอกซากุระมันเป็นแบบนี้เหรอ? ไม่เคยได้กลิ่นดอกจริง แต่มันให้กลิ่นหอมดอกไม้ แบบให้ความรู้สึกถึงดอกไม้สีชมพูเยอะๆ ติดกลิ่นเขียวฉ่ำน้ำอมหวานแบบกลิ่นหญ้าตัดใหม่หอมๆ ให้กลิ่นดอกไม้แปลกๆ คงเป็นกลิ่นดอกซากุระละมั้ง กับกลิ่นกุหลาบบางๆ กลิ่นโปร่งเบาสบาย หอมหวานแบบช่อดอกไม้สดอย่างที่ชอบบรรยายกัน แต่มันก็ดูธรรมดาไปหน่อย ดูเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ทั่วๆ ไปไม่มีอะไรพิเศษ แถมเหมือนกับกลิ่นอื่นจากบ้านเดียวกันอีก เหมือนกับกลิ่น Forever and Ever Dior มาก ต่างกันแค่ความแรงและความทนของกลิ่นที่ Sakura ทำได้ดีกว่ามาก

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Balade Sauvage EDP

.

Balade Sauvage ออกมาในปี 2018 ให้กลิ่นสดชื่นจากกิ่งมะเดื่อปลิวไหวตามลม ผสมความสดชื่นจาก Bergamot และ แร่ธาตุจาก Volcanic rock มอบประสบการณ์แบบกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าประทับใจ คำบรรยายในเว็บ Dior ที่อ่านแล้วก็งงๆ พยายามเรียงมาได้ประมาณนี้ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ได้ยินมาว่าเป็นกลิ่นหอมที่น่าสนใจจากหลายๆ คนเยอะกลิ่นนึ่งเลย อ่านรีวิวน้ำหอมของฤดูร้อนกีคนก็ต้องมีกลิ่นนี้เข้ามาเกือบทุกครั้งน่าลองดี

กลิ่นเปิดหอมกลมหวานเหมือนช่อดอกไม้หอมนวลแล้วระเบิดด้วยกลิ่นเขียวใส คมติดขมนิดๆ แบบกลิ่นต้นฟิกซ์ หรือต้นมะเดื่อฝรั่ง ให้กลิ่นเขียวเข้มๆ แทรกขึ้นมาให้กลิ่นอมหวานเย็นๆ อารมณ์แป้งหอมนิดๆ ทำให้ความหวานนุ่มดูลึกเข้มข้นในพื้นหลัง มีความหอมกลมๆ หวานใส แบบกลิ่นดอกไม้ ผลไม้คลอมาชัดๆ กับกลิ่นต้นที่ในช่วงกลางนี้มันทำให้กลิ่นหอมเยิ้มมาก มากจนน่ากิน เป็นกลิ่นที่มีมิติดีผิดคาด

เป็นนน้ำหอมที่กลิ่นใส แนวโปร่งเบา แต่ไม่เบาให้กลิ่นนุ่มเข้มมีมิติ แนวฟรุตตี้นิดๆ วูดดี้หน่อยๆ หอมสดชื่นกลมกล่อมดีมาก เหมาะกับอากาศร้อนซะด้วย กลิ่นนี้คนที่ไม่ชอบกลิ่นใสแบบน้ำหอมกลิ่นฟรุตตี้ ซีตรัสใส ที่ออกมาสำหรับหน้าร้อน น่าจะชอบกลิ่นนี้เพราะกลิ่นมีทั้งความใส ผลไม้ ดอกไม้ และกลิ่นเข้มๆ แบบไม้หอมแบบกลมกล่อมนุ่ม ที่ไม่ได้หอมแบบทึบๆ อบอุ่นอะไรแบบนั้น มันดีมากๆ

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Maison Christian Dior Rouge Trafalgar EDP

.

Rouge Trafalgar ออกมาในปี 2020 นำหอมแนวกลิ่น Fruity-Floral กลิ่นให้ความสนุกสนานมีความสุข เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ Christian Dior’s haute couture fashion shows. ด้วยโน๊ตกลิ่น Red Berries, Strawberry, Raspberry, Mandarin, Black Currant, Violet Leaf, Wood notes, Patchouli, Musk

เปิดมากลิ่นแบบฟุร๊ตตี้หวานหนึบๆ เหนียวๆ ให้กลิ่นหวานแบบสตรอเบอร์รี่สุกผสมกับกลิ่นราสเบอร์รี่หวานหอมน่ากิน สักพักกลิ่นเริ่มมีความอมเปรี้ยวบางๆ กับกลิ่นแบบซีตรัสฉ่ำน้ำให้กลิ่นหอมแบบกลิ่นเครื่องสำอางหวานๆ มันๆ ช่วงกลางของกลิ่นเริ่มมีความนุ่มแบบมักส์นวลที่ติดขมปนหวานลึกๆ ในกลิ่น

กลิ่นหอมแบบกลิ่นแนวฟรุ๊ตตี้ที่ออกไปทางกลิ่นสำหรับผู้ใหญ่หน่อย เพราะกลิ่นไม่สดใสจ๋าแบบกลิ่นฟรุ๊ตตี้ที่เจอส่วนใหญ่ ให้กลิ่นลดความสดใสลงแบบดูดี หวานแบบติดกลิ่นทึมๆ มีมิติ ถึงอย่างนั้นกลิ่นก็ยังคงหอมสดชื่น หวานโปร่งๆ กำลังดี ให้กลิ่นผลไม้แบบรู้สึกได้ ช่วงท้ายของกลิ่นให้ความเข้มอมขมหน่อยๆ ของผลไม้กลิ่นดูนุ่ม อบอุ่นกำลังดี

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday

Perfume Blog: Christian Dior Miss Dior EDP 2021

.

Miss Dior EDP ออกวางจำหน่าย 1 กันยายน 2021 (ในไทย) ซึ่งออกรุ่นใหม่อีกครั้งในคอนเซ็ป Reinvents itself with a new scent. ด้วยโน๊ตกลิ่น Centifolia Rose, Lily-of-The-Valley, Apricot, Peony, Iris, Musks, Vanilla, Benzoin, Tonka Bean, Sandalwood การปรับครั้งนี้นอกจากกลิ่นแล้ว ก็มีปรับปรุงรูปร่างขวด และเพิ่มโบว์ทำจาก Poignard fabric ที่เป็นผ้าจริง จากเดิมที่เป็นแค่พลาสติกสีเงิน เพื่อทำให้กลิ่นดู Luxury และดูเป็น Haute Couture ตามสไตล์เสื้อผ้าของแฟชั่นชั้นสูง

กลิ่นเปิดมาเบามากแทบจะไม่รู้สึกกลิ่นอะไร มีกลิ่นดอกไม้บางแบบกลิ่น Peony หอมเย็นแนวกลิ่นแป้งหอมบางๆ พอกลิ่นเริ่มแห้งจะมีกลิ่นหวานแนวผลไม้ให้กลิ่นฉ่ำแบบกลิ่นพีช ผสมกับกลิ่นดอกไม้หวานอมเปรี้ยวแบบกุหลาบ ช่วงนี้กลิ่นให้ความหวานหอมแบบชุ่มชื่น มันๆ ในกลิ่นช่วงหลังนั้นหอมนุ่มแบบมักส์ กับวนิลาฟุ้งๆ หวานครีมเนียนฉ่ำติดผิว ลองใช้มาสองสามวันแล้วรู้สึกว่ากลิ่นมันค่อนข้างเบา ฟุ้งกระจายก็โอเค ความทนก็พอประมาณจริงๆ ผ่านชั่วโมงแรกไปแล้วกลิ่นบนผิวก็เบามากจนแทบไม่ได้กลิ่นแล้ว แต่กลิ่นก็ยังอยู่นะเป็นแนวกลิ่นติดผิวเบาๆ น่าเสียดายประสิทธิภาพต่างจาก EDP เดิมมาก ถึงยังไงกลิ่นก็หอมและดูใช้งานง่ายไม่ทำร้ายใครแน่นอน

ความรู้สึกแรกที่ลองกลิ่นคือ มันไม่เห็นฉ่ำเหมือนตอนฉีดลองที่เคานห์เตอร์เลย ลองฉีดบนกระดาษก็ยังไม่เหมือน กลิ่นจากขวดที่ซื้อมาให้กลิ่นที่แผ่วบางของกลิ่นแนวดอกไม้หวาน แบบ Miss Dior Blooming Bouquet ซึ่งต่างจากแนวเดิมของ Miss Dior EDP แต่ถ้าถามว่ามันหอมไหม แน่นอนมันหอมนั่นแหละ กลิ่นดอกไม้หวานใส หอมแนวหวานฉ่ำๆ สดชื่น นุ่มครีมมี่ตามสไตล์ในช่วงท้าย สามารถเป็นคู่แข็งกับ Blooming Bouquet ได้เลยจากกลิ่นหวานกว่า กลมกว่า และกลิ่นติดชัดกว่าน่าจะทำให้ชอบได้ไม่ยาก

ส่วนตัวคิดว่ามันน่าผิดหวังนิดๆ  มันดูกลายเป็นน้ำหอมดอกไม้สีชมพูทั่วๆ ไป กลิ่นดูราคาถูกไม่มีจุดเด่นอะไรเลยจริงๆ และผิดหวังอีกที่รุ่น EDP ถูกปรับสูตรแบบที่แตกต่างจากกลิ่นเดิมแบบนี้ เหมือน Dior Homme EDT ที่ถูกทำแบบนี้มาก่อนหน้าแล้วครั้งนึง แต่ Dior Homme EDT ที่ปรับใหม่มันต่างจากเดิมไปเป็นอีกกลิ่นเลย แต่มันดันหอมไง กลิ่นดี ติดทน ก็เลยไม่มีใครบ่นอะไรมาก เพราะถ้าชอบกลิ่นแนวเดิมก็ไปรุ่น Intense ได้อยู่ ซึ่ง Miss Dior ก็เหมือนกันหากชอบกลิ่นแนวเดิมก็ไปรุ่น EDT ก็ยังให้อารมณ์แนวเดิมของกลิ่นอยู่ แต่ที่น่าแปลกตรงที่กลิ่นขวดที่เคาน์เตอร์ทำไมกลิ่นมันหอมอีกแบบนึงละ รู้สึกจะหอมกว่าด้วย เหมือนจะได้กลิ่นช็อกโกแลตอีกต่างหากแต่ขวดนี้กลับไม่รู้สึก เดี๋ยวมีโอกาสจะแวะกลับไปลองกลิ่นขวดที่เคาน์เตอร์อีกที

Christian Dior Miss Dior EDP 2021 100ml

.

จากลองกลิ่นไปแล้วมาดูพรีเมี่ยมที่ได้มาช่วงแนะนำกลิ่นใหม่กันดีกว่า สำหรับ Miss Dior EDP 2021  ได้มาแค่อย่างเดียว เป็นกระเป๋าผ้าแบบหูรูด ที่ได้มาตอนซื้อ Sauvage Elixir กับกล่อง Miss Dior ลายพิเศษ อีกอย่างนึงที่เห็นมาเป็นสมุดโน๊ต Miss Dior ลายดอกไม้ที่ต้องซื้อของหลายบาทถึงจะได้

[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]

#VintageMonday #PerfumeFriday