แกะกล่อง UAG MONARCH Samsung Galaxy Note20 Ultra

วันนี้จะมาเล่าเรื่องได้เคสมือถือใหม่มาใช้ เป็นเคสของ UAG รุ่น MONARCh ที่ยังไม่เคยซื้อมาใช้งานเลย เพราะมันแพงมาก เป็นรุ่นที่แพงที่สุดของยี่ห้อนี้เลย ที่หาเปลี่ยนเคสมือถือใหม่ก็เพราะ ได้ทำมือถือตกพื้นปูนซีเมนต์ ไปแล้ว เป็นการตกพื้นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีได้ ซึ่งเคสที่ใส่อยู่ตอนนั้นก็คือ PITAKA Air Case เป็นเคสเคฟล่าบางๆ เท่านั้น ก็ตามคาดละตกจน ตัวเครื่อง กับเคสกระเดนไปคนละทาง ตัวเคสก็บาดเจ็บจนไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก เคสแตกตรงจุดที่ตกเลย เล่นเอาตัวเครื่องเป็นรอย กระจกก็เป็นรอยเจ็บใจมาก ก็นี่แหละเลยทำให้มาหาเคสใหม่

เคสใหม่ที่อยากได้คิดไว้ว่าก็ต้องจับถนัดมือ และที่สำคัญต้องดูดีด้วย เลยมาจบที่ UAG MONARCH เพราะดูท่าทางจะแข็งแรง ทนทาน และที่สำคัญมันดูสวยดีอีกด้วย

ตัวเคสยังคงทำจากวัสดุคล้ายพลาสติก และยาง ผสมกันเหมือนรุ่นอื่นๆ ของ UAG แต่มันจะแข็งกว่าหน่อย ด้านข้างเป็นสันเรียบ ไม่โค้ง จับได้เต็มนิ้ว เต็มมือ ด้านหลังมีลวดลายเอกลักษณ์ของยี่ห้อ วัสดุเป็นเฟรมพลาสติกสีดำ ลายด้านหลังเป็นลายเคฟล่า ที่ไม่รู้ว่าทำจากแผ่นเคฟล่าจริงรึเปล่า เป็นวัสดุผิวเรียบ ลื่น แข็ง การตัดช่องปุ่ม รูต่างๆ ยังคงเว้นระยะสวยงามตามมาตรฐาน

ลองใช้งานจริงมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว ช่วงสอง สามวันแรกรู้สึกว่ามันจับไม่ถนัด มันลื่นมือมาก เพราะลวดลายนูดด้านหลัง แล้วก็อวัสดุลายเคฟล่าที่ลื่นๆ จนตัดใจโพสขายไปทีนึง แต่ก็เอากลับมาลองใช้ใหม่ เพราะคิดว่าเคสมันสวยนะต้องให้โอกาสมันหน่อย และก็ใช้มาจนทุกวันนี้ กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเคสที่จับถนัด เต็มมือ ถือมือเดียวได้ง่ายเพราะาลายนูน และลายเคฟล่าด้านหลังนี่แหละเป็นที่ยึดอย่างดีถ้าคุ้นกับมันแล้ว

ด้านหน้าก็มีส่วนยื่นสูงขึ้นป้องกันหน้าจอเวลาคว่ำตัวเครื่อง แต่ถ้าตกก็โดนมุมของหน้าจอก็คงแตกอยู่ดี มีจุดที่สังเกตอยู่ 1 จุด คือ ด้านหลัง ไม่มียาง หรือตัวเคสที่ยกสูงทั้ง 4 มุมเหมือนรุ่น Plasma แต่วัสดุลวดลายที่มีโลโก้ UAG ตรงกลางมันออกจะนูนกว่าส่วนอื่น วางบนพื้นแล้วมันไม่เรียบ ซึ่งคิดว่าน่าจะทำให้พลาสติกเป็นรอย หรือถลอกได้ง่าย ถึงคิดว่าตัวพลาสติกจะสีดำไม่ได้ทำสีก็เถอะ นอกนั้นอย่างอื่นก็โอเคหมดแล้วละ

น้ำหอม Montblanc EXPLORER Discovery Kit 🛍

วันก่อนได้น้ำหอมขนาดทดลองของ Montblanc กลิ่นใหม่มา กลิ่น EXPLORER เป็นขนาดทดลองที่มาพร้อมกับ เจลอาบน้ำ อาฟเตอร์เชฟ ไว้ทาหลังโกนหนวด และถุงผ้า แพ็คเกจเป็นกล่องเหล็กด้วย มันดีมากเลยที่เลือกกลิ่นนี้มาลองก็เพราะแพ็คเกจนี่แหละ ชอบกล่องเหล็ก 😄

มาเรื่องของกลิ่นกลิ่นนี้เขาว่ากันว่าเป็นกลิ่นโคลนของน้ำหอมราคาแพง Creed Aventus ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของสัปรดอะไรแบบนั้นหน่ะ ลองฉีดตัว EXPLORER ดูแล้วกลิ่นคล้ายกันมากกลิ่นออกมาสดชื่น แห้งๆ ใสๆ เหมือนจะสดชื่นมากกว่าตัว Aventus ไปด้วยซ้ำ ส่วนตัวคิดว่า Aventus กลิ่นติดอุ่นๆ ไปสักหน่อยไม่สดชื่นสะใจ แต่กลิ่นมีมิติ ดูมีอะไรมากกว่า ตัว EXPLORER กลิ่นหอมเย็นมาตั้งแต่ต้น กลิ่นใส ติดหวานแห้งๆ กลิ่นสบายจมูกดีมากไม่ฉุน ใช้ง่ายแน่นอน เหมาะกับตอนกลางวัน ตอนอากาศร้อนด้วย ลองฉีดบนผิวแล้วกลิ่นกระจายดี แต่ติดไม่ทนเท่าฉีดที่เสื้อ เพราะส่วนตัวเหงือออกง่าย และออกมากเลยส่วนใหญ่จะใช้ฉีดที่เสื้อแทน

สรุปแล้วเป็นน้ำหอมกลิ่นดี สดชื่น ใช้ง่าย เหมาะกับอากาศร้อน ให้อารมณ์ทำงานใส่เชิ๊ตสบายๆ แต่ก็ดูเนียบไปพร้อมกัน ที่สำคัญขวดใหญ่ราคาไม่แพงมากด้วย 👍

และที่ว่าเป็นกลิ่นโคลนของ Creed Aventus ก็ไม่ถือว่าผิดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ซะดีเดียว กลิ่นโดยรวมมีความเหมือน แต่ก็ไม่เหมือนเป๊ะ Aventus ยังคงมีเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่เหมือนเดิม ที่ส่วนตัวเข้าไม่ถึงเท่าไหร่เพราะเคยลองแล้วมันก็หอมนะกลิ่นสดชื่นจริง กลิ่นใสๆ ติดเขียวหน่อยๆ เหมาะกับอากาศร้อนบ้านเรา แต่คิดว่ากลิ่นแบบนี้กับราคาขนาดนั้นไม่กล้าซื้อขวดเต็มมาใช้หรอก ซื้อทีก็ซื้อแบบแบ่งขายมาใช้เอาเป็นครั้งคราว 😬

Blog: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 แกะกล่องต้นคริสต์มาส จาก บ้านแอนด์บียอนด์

แบบว่าปีนี้อยากได้ต้นคริสต์มาสสักต้นเพราะต้นเก่ามันก็ขี้เหร่แล้วเลยทิ้งไป ความต้องการครั้งนี้คือต้องเป็นต้นคริสต์มาสที่เหมือนของจริงสักหน่อยไม่เอาแบบต้นแบบเดิมที่เป็นใบฝอยๆ สีเขียวที่ยื่นออกมาจากลำต้นทือๆ แบบเก่านั้นไม่เอาแล้ว นึกได้ว่าเคยเห็นต้นคริสต์มาสแบบที่เป็นใบพลาสติกเหมือนจริงที่เดอะมอลล์เมื่อปีก่อน เป็นต้นที่เอามาประดับตามพื้นที่ในห้าง แต่มันดันไม่มีขายในห้างนี่สิ ปีนี้ก็เดินไปดูที่เดอะมอลล์อยู่นะก็เหมือนเดิมมีต้นไม้สวยๆ ของประดับดูดีประดับอยู่ในห้าง แต่บู๊ทที่จัดขายของตกแต่งจริงๆ กลับเอาของอะไรมาขายไม่รู้ แต่ด้วยความบังเอิญเจอโพสโฆษณาใน instagram ขายต้นสนสดจากต่างประเทศเลยกดเข้าไปดูเป็นเว็บของ http://www.baanandbeyond.com เป็นเว็บขายของตกแต่งบ้านที่เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ เขาเป็นเจ้าเดียวละมั้งที่นำเข้าต้นสนสด หรือต้นคริสต์มาสจริงๆ เข้ามาขาย แต่เราอยากได้ต้นไม้ปลอมลองกดเข้าไปหาในเว็บก็เจอหลายแบบอยู่ เรียกว่าเป็นเว็บแรกๆ เลยนะที่ขายของเทศกาลเยอะมากกว่าเจ้าอื่นๆ กดๆ จนได้มา 2 อย่าง สั่งซื้อครั้งแรกทางร้านจัดส่งผ่าน DHL ก็สะดวกดีเหมือนกัน

เลือกแบบต้นต้นเล็กๆ ราคาไม่แพง จริงๆ มีอีกหลายแบบที่น่าซื้อ แต่มันดูแล้วแปลกๆ คือคิดต่อไม่ค่อยออกว่าถ้าซื้อมาแล้วจะเป็นยังไง เพราะรูปสินค้าก็มีแค่รูปเดียวเกือบทุกรายการไม่มีหลายๆ มุมมอง เลยลองเอาแบบนี้มาดูก่อน ดูแล้วเข้าท่ากว่าแบบอื่นหน่อย อีกชิ้นที่ซื้อเป็นชุดอุปกรณ์ตกแต่งมา 1 ชุด ราคาค่อนข้างแพงแต่อยากได้ลูกสนมาประกอบฉากสักหน่อย เลยเลือกชุดประดับชุดนี้มา ในเว็บมีหมายเหตุตัวเล็กๆ ว่าจะสามารถเริ่มจัดส่งได้วันที่ 11 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป แต่ของก็ส่งมาถึงบ้านในเวลาแค่ 3-4 วันเอง คงระบุหมายเหตุเผื่อเวลาไว้ละมั้ง

ยี่ห้อ KASSA HOME ต้นคริสต์มาส รุ่น ST17-T120G ขนาด 70 x 35 x 35 ซม. สีเขียว

อย่างที่บอกของมาส่งที่บ้านเร็วมาก กลับมาก็เจอลังกระดาษกล่องใหญ่วางรออยู่แล้วเปิดกล่องมาก็เจอกล่องต้นคริสต์มาสแกะออกมาก็มีสภาพเหมือนรูปในเว็บหล่ะ กิ่งลีบๆ แบนๆ ตัวกิ่งหรือใบของมันเป็นพลาสติกขึ้นรูปเป็นกิ่งของต้นสนเลย มีแกนเป็นลวดสามารถดัดงอได้ แกนของต้นไม้นั้นน่าจะเป็นไม้แล้วหุ้มด้วยโฟม

โดยกิ่งสนจะถูกเสียบเข้าไปในแกนโฟมนั้นเลย ตรงนี้ชอบมากทั้งกิ่งสน และลูกสน สามารถดึงออกมาเสียบใหม่ได้ เหมาะแก่การเอาไปเป็นอุปกรณ์ประกอบถ่ายรูปมากๆ รู้สึกโชคดีที่เลือกต้นนี้มา

ตัวฐานของต้นไม้เป็นแผ่นไม้แปะด้วยก้อนโฟมห่อด้วยผ้ากระสอบบางๆ ดูรวมๆ แล้วสวยดีดูเป็น Country Style ดีเหมือนกัน สรุปโดยรวมแล้วดูสวยดีเลยละหลังจากจัดแต่งดัดกิ่งให้ดูเป็นต้นไม้แล้ว มีลูกสนของจริงเสียบมาด้วยมีหลายลูกเลยนะ ดูสมจริงดี คะแนนเต็ม 10 ให้ 10 คะแนนเต็มเลยสำหรับต้นคริสต์มาสรุ่นนี้

มาถึงอุปกรณ์ตกแต่งกันบ้าง อันนี้คือแปลกใจมากเพราะหยิบออกมาจากกล่องแล้วมันมาในกล่องพลาสติกใสขนาดใหญ่ แบบว่าใหญ่สะใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ทั้งกล่องทั้งอุปกรณ์ตกแต่งข้างใน เรียกว่าเอามาห้อยกับต้นคริสต์มาสที่ซื้อมาด้วยไม่ได้เลยมันหนักไป แต่ลูกสนที่อยากได้ก็สมใจนะ ลูกใหญ่สะใจ มีถึง10 ลูกเลย อุปกรณ์อื่นๆ ก็โอเคเอาไปเป็นอุปกรณ์ประกอบถ่ายรูปได้ทั้งหมดไม่เสียของ ของตกแต่งในเว็บจะบอกขนาดเอาไว้แต่ไม่ได้เที่ยบขนาดเองถึงว่าราคาค่อนข้างแพง แต่ก็สมราคาละ

แต่ในเว็บมันมีต้นคริสต์มาสอยู่อีกแบบนึงดูน่าสนใจ แต่รูปของต้นไม้ในเว็บมันดูไม่น่าจะสวยเท่าไหร่เลยไม่ได้สนใจ แต่พอเห็นต้นที่สั่งมาคุณภาพดี ดัดกิ่งได้ มันก็น่าลุ้นว่าจะออกมาสวยก็ได้นะ ในเว็บเหลือแต่ต้นไซส์ใหญ่แล้วด้วย คิดก่อนว่าจะลองสั่งมาดีไหม

Blog: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 เปิดกล่องน้ำหอมเทสเตอร์ หรือ น้ำหอมกล่องขาว ข้างในมันเป็นยังไงนะ

วันนี้จะมาเปิดกล่องน้ำหอมเทสเตอร์ หรือว่า น้ำหอมกล่องขาว ว่าข้างในมันเป็นยังไง มันเป็นของแท้รึเปล่า? ขวดมันจะเหมือนตัวที่ขายจริงไหม? มันจะหอมกว่ารุ่นขายจริงไหม? แล้วทำไมถึงเอามาขายในราคาถูก? คำถามพวกนี้แหละที่สงสัยและบางข้อก็พอจะมีคำตอบ ข้อแรกเลยมันเป็นน้ำหอมของแท้นี่แหละ มีโค้ดใต้ขวดตรงกลับโค้ดบนกล่องเอาไปตรวจสอบได้ เพียงแต่ไม่ได้เป็นกล่องสีสวยๆ แบบขายจริง ขวดของมันก็เป็นแบบขวดขายจริงเลย แต่บางทีจะมาแค่ขวดไม่มีฝามาให้ บนกล่องและก้นขวดน้ำหอมจะระบุไว้ว่า Tester Not For Sale เท่านั้น มันก็หอมเหมือนกับตัวที่ขายจริงแหละ เพียงแต่ข้อนี้รู้สึกไปเองจากน้ำหอมขวดทดลองใช้ที่ได้มามันดันหอมกว่าแบบขวดขายจริงเลยสงสัย ส่วนข้อสุดท้ายนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงเอามาขายได้ หรือเอามาขายราคาถูกเหมือนกัน เค้าบอกแค่ว่า BA ของแบรนด์ในห้างหามา แค่นั้นแหละรายละเอียดก็ไม่รู้อยู่ดี

น้ำหอมที่เอามาเปิดกล่องเป็นน้ำหอมใหม่ของ Dolce&Gabbana The only One ตัวนี้เพิ่งวางขายประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลองซื้อหลอดเล็กทดลองมาใช้แล้วดันชอบกลิ่นก็ไปหาขวดใหญ่มาใช้ต่อยาวๆ อีก 1 ได้มาก็แพงอยู่เพราะมันเพิ่งออกยังไม่มีตัวทดลองมาขายเยอะแต่ไม่ใช่ราคาที่ติดอยู่บนกล่องนะ ราคาบนล่องรู้สึกว่าจะเป็นราคเต็มที่ขายจริงของตัวนี้เลยไม่รู้เหมือนกันทำไมมีป้ายราคาของห้างติดอยู่ กลิ่นของรุ่นนี้เป็นกลิ่นแบบดอกไม้ กับกลิ่นขนมหวานๆ ส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นเปิดมันหอมเหมือนดอกไม้หอมฟุ้งๆ บางทีก็รู้สึกเหมือนกลิ่นของถังพลาสติกที่ซื้อมาใหม่แบบนั้นเลย สักพักไปจะเป็นกลิ่นหอมประมาณกลิ่นวนิลลา กลิ่นคาราเมลแบบชัดเจน แล้วก็เป็นกลิ่นหอมแบบนั้นไปเรื่อยๆ เพราะชอบฉีดใส่เสื้อผ้ากลิ่นเลยไม่ค่อยเปลี่ยนไปแบบฉีดบนผิวสักเท่าไหร่ ความทนก็อยู่ได้ตั้งแต่เช้าจนเย็น เพียงแต่กลิ่นประมาณชั่วโมงที่ 4-5 ไปแล้ววจะอ่อนลงแบบต้องเข้ามาใกล้ๆ ถึงจะได้กลิ่น ตอนพิมพ์อยู่ตอนนี้ก็ค่ำแล้วยังไงได้กลิ่นบนเสื้ออยู่เลย

แกะกล่อง Casio G-STEEL นาฬิกา G-SHOCK สายเหล็ก

จริงๆ ว่าจะเขียนลงบล็อกตั้งแต่วันที่ได้มาแล้วละ แต่ก็ลืมไปเลยเอามาเล่าย้อนหลังให้อ่านกัน ไปได้นาฬิกา G-SHOCK ตัวนี้มาเพราะโปรลดราคา 50% ที่จัดที่ร้านมีจงมี ที่ The Mall Korat เพราะถ้าไม่เห็นคำว่า 50% นี้ก็คงไม่ไปดูและซื้อมาหรอก แต่รุ่นนี้ที่ร้านจะอยู่ในโซนลดราคาที่ 40% ก็ยังลดเยอะอยู่ดีนะ รุ่นนี้เป็นรุ่น G-STEEL รุ่นสายโลหะของ G-SHOCK ไม่รู้ว่าเป็นรุ่นที่เท่าไหร่แต่ที่มีสายโลหะแบบนี้เห็นแค่รุ่นนี้รุ่นเดียว รุ่นเพื่อนๆ ของมันจะมีสายผ้า สายเรซิ่น แต่หน้าปัดเป็นโลหะแบบนี้ก็มี รุ่นนี้เป็นสายโลหะ ชื่อรุ่น GST-S110D-1ADR ราคาเต็มอยู่ที่ 13,500.- บาท แต่ก็อย่างที่บอกไปมันลดราคา 40% ได้มาที่ 8,100.- บาท ถือว่าไม่เลวเลยราคานี้ โปรดลดราคามีถึงสิ้นเดือน มิถุนายน 61 นี้ แต่ถ้าพลาดโปรนี้ไปก็รอหน่อยเพราะ ร้านมีจงมี มีโปรลดราคาค่อนข้างบ่อย แต่ลด 40-50% นี้ไม่บ่อยนะ

 

นาฬิกามาในกล่องเหล็กหกเหลี่ยมเหมือนเดิม เพียงแต่กล่องจะเป็นสีเทา ในกล่องมีเล่มคู่มือ แผ่นพับเล็กๆเรื่องการใช้งาน ใบรับประกัน และสายนาฬิกาส่วนที่เอาออกตอนวัดขนาดข้อมือ ความรู้สึกที่จับครั้งแรกคือ มันหนักเหมือนกันนะ ด้วยความที่ใส่แต่พวกสายเรซิ่นมาตลอดมันรู้สึกแปลกที่มีอะไรหนักๆ ที่ข้อมือ หน้าปัดเป็นแบบเข็มปรับได้อิสระ มีหน้าจอดิจิตอลแสดงสถานะที่เปลี่ยนไปแสดงนาฬิกาดิจิตอล หรือแสดงวันที่ได้ มีไฟ LED ด้านล่าง และยังใช้ระบบพลังงานแสดงอาทิตย์อีกด้วย พอลองใส่แล้วขนาดมันใหญ่พอๆ กับตัวยักษ์ดำตัวเก่า แต่น้ำหนักจะมากกว่าเยอะหน่อย ใส่แล้วมันให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆ นะ

 

Blog: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เล่าเรื่องแป้งโยคี

สวัสดีบล็อก! วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็เป็นเรื่องได้ อาทิตย์ก่อนแป้งที่ใช้หมดเลยแวะไปดูกระปุกเล็กที่เซเว่น รู้สึกว่าเคยเห็นผ่านตาว่ามีขายอยู่ หยิบมาดูขวดแรกที่เห็นคิดว่าอันนี้แหละ แต่เหลือบไปเห็นอีกขวดนึงอยู่ข้างๆ กันไม่มีสติ๊กเกอร์สวยๆ ติด คิดว่าเป็นรุ่นเก่าแต่ก็สงสัยเลยหยิบมาดูปรากฎว่ายี่ห้อมันคล้ายกัน แต่มันไม่เหมือนกัน เอ๊ะแล้วยังไงละทีนี้ แป้งที่ว่านี้คือ แป้งโยคี ที่ว่ามันคล้ายกันเพราะรูปร่างขวดเหมือนกัน ขนาดเท่าๆ กัน ยี่ห้อใหญ่ๆ เขียนว่า “แป้งโยคี” เหมือนกัน ต่างกันที่บริษัทที่ผลิต ด้วยความสงสัยเลยหยิบมาทั้ง 2 แบบ กลับมาอ่านดูมันไม่เหมือนกับขวดที่ใช้ประจำนี่ อันนั้นจำได้ว่าซื้อที่โลตัสเป็นขวดใหญ่ มันคาใจเย็นวันนั้นเลยแวะไปดูที่โลตัส มันคนละยี่ห้อจริงๆ ด้วย ส่วนผสมก็ต่างกัน สรุปแล้วแป้งโยคีนี่มันมี 3 แบบเลยละ

อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงได้มีปัญหากับแค่ซื้อแป้งโยคีนี่ เพราะว่ามันใช้แล้วได้ผลดี เลยอยากจะซื้อแบบเดิม กลัวเปลี่ยนรุ่นใช้แล้วจะเกิดสิ่งผิดพลาดได้ ผลที่ว่านี้ก็คือ “ใช้ระงับกลิ่น” ตัวบล็อกเองใช้โรยรองเท้ามันช่วยให้รองเท้า และเท้าเวลาใส่รองเท้านานๆ ไม่มีกลิ่น และได้ผลดีเลยด้วย ยังใช้ทาเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อีก เลยพยายามหาแป้งรุ่นเดิมเพราะแป้งที่ชื่อใหม่ (บริษัทที่ผลิตคนละบริษัท) มันมีส่วนประกอบต่างกับรุ่นที่ใช้อยู่บ้าง เลยเกิดอาการสับสน วันนี้เลยจะเอาทั้ง 3 แบบที่เจอมาให้ดู เผื่อใครที่สงสัยเหมือนกัน

รูปด้านบนเป็นรูปของแป้งโยคีทั้ง 3 แบบ

  • แบบแรก ขวดใหญ่ เป็นแป้งโยคีที่บล็อกใช้ประจำตัวนี้แหละที่หาซื้อ
  • แบบที่สอง เป็นแบบที่มีสวนผสมใกล้เคียงกับที่ใช้อยู่ แต่ยังไม่ได้ลองใช้
  • แบบที่สาม เป็นแป้งยาเอาไว้ทำอะไรก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

จะเห็นว่าทั้งสามแบบจะใช้ชื่อว่า “แป้งโยคี” รูปแบบของฉลากก็คล้ายกันอีก โทนสีส้ม รูปแบบขวด สีของขวด ทำไมมันคล้ายกันแบบนี้ มันเกี่ยวข้องกันใช่ไหมทั้ง 3 แบบ งงไปหมด แต่ก็รู้แล้วว่าแป้งโยคีที่ขายในเซเว่นไม่ใช่แบบที่ตามหา หมดข้อสงสัยแล้ว!

แป้งโยคี  บริษัท โยคี (1997) จำกัด น้ำหนัก 100 กรัม ราคา 55 บาท ผลิตโดย บ.ศิริบัญชา จำกัด

แป้งโยคี ในรัศมีวงกลม น้ำหนัก 60 กรัม ราคา 25 บาท ผลิตโดย บ.เฮอร์นิเทคอินเตอร์ คอสเมติกส์

ยาผงโยคี บริษัท โยคี (1997) จำกัด น้ำหนัก 60 กรัม ราคา 25 บาท ผลิตโดย บ.ศิริบัญชา จำกัด

แกะกล่อง เคส Nillkin Samsung Galaxy Note 7 + Fan Edition

ตอนนี้ Samsung Galaxy Note 7 ได้กลับมาจำหน่ายใหม่ในชื่อ Samsung Galaxy Note Fan Edition และมีจำหน่ายในไทยแล้วเช่นกัน คิดว่าหลังจากขายในไทยแล้วจะหาอุปกรณ์เสริมได้ง่ายขึ้น แต่ก็เปล่าเลยยังคงหาอุปกรณ์พวกเคสได้ยากอยู่ดี เคสของ Samsung แท้ที่ใช้พวก NFC ก็นำมาใช้กับ Note FE ไม่ได้ เคสธรรมดาก็หายากซะเหลือเกิน แต่ก็ยังไม่หมดช่องทางเสียทีเดียวใน Lazada ยังมีร้าน Nillkin Shop ที่ยังเอาเคสของ Note 7 มาขายอยู่เลือกมา 2 แบบ แบบแรกเป็นแบบ TPU ใส อีกแบบเป็นแบบคือแบบพลาสติกแข็ง

Nillkin Nature TPU Case Samsung Galaxy Note 7 ราคา 199 บาท

ส่วนตัวไม่ชอบเคสแบบ TPU นี้สักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแบบบางเฉียบอีกคิดว่ามันคงจะย้วยไป ย้วยมา เหมือนที่เคยซื้อของยี่ห้ออื่น แต่ก็อยากลองของ Nillkin ดูว่าจะแตกต่างจากเคส TPU อื่นๆ ไหม ตัวเคสอย่างที่บอกเป็น TPU ที่มีความยืดหยุ่น เลือกสีโปรงใสธรรมดามาลอง ตัวเคสมีจุกปิดช่องเสียบสายชาร์จ และช่องเสียบหูฟังมาให้ ด้านหลังจะมีลายจุดเล็กๆ อยู่เพื่อไม่ให้เคสดูดติดกับกระจกด้านหลังเครื่อง จับดูแล้วรู้สึกว่าจะเหมือนกับเคส TPU ของยี่ห้ออื่นที่ขายทั่วๆ ไป

ลองใส่เข้ากับเครื่องแล้วดูสวยดี ไม่ทำให้เครื่องหนาขึ้น เหมือนไม่ได้ใส่ แต่ก็พบว่ามันย้วยจริงๆ ทั้งด้านข้าง และด้านหลัง ด้านหลังนี่เคสไม่ได้แนบสนิทกับตัวเครื่องมันโป่งเป็นช่องอยู่ ด้านข้างก็โป่งออกมานิดๆ ไม่อยากจะคิดว่าเอาใส่กระเป๋ากางเกงแล้วพวกฝุ่น หรือทรายหลุดเข้าไปได้นี่จะขูดกับตัวเครื่องแค่ไหน เคส TPU รุ่นนี้คงไม่ใช้ไม่อยากกังวลเรื่องฝุ่น

Nillkin Frosted Shield Samsung Galaxy Note 7 ราคา 279 บาท

เคสรุ่นนี้เคยใช้มากับเครื่อง Galaxy S8+ เครื่องก่อน เป็นเคสพลาสติกสีด้าน ผิวสัมผัสนุ่มมือแต่กระชับมือ เคสออกแบบมาให้กระชับพอดีกับตัวเครื่องมากๆ ใส่แล้วมั่นใจว่าจะไม่มีอาการขยับของตัวเครื่องทำให้เกิดรอยแน่นอน ตัวเคสคลุมทั้งตัวเครื่อง เว้นช่องไว้สำหรับปุ่มปรับประดับเสียง ปุ่มเปิดเครื่อง ลำโพง และช่องเชื่อมต่อต่างๆ เมื่อกดเคสเข้ากับเครื่องแล้วเคสจะคลุมพอดีเป๊ะกับตัวเครื่องเลย

หลังจากใส่แล้วก็จะได้เครื่องที่มีการป้องกันอย่างดี แต่คงไม่กันการตกกระแทกหรอก กันรอยได้อยู่ ใส่แล้วไม่ทำให้เครื่องดูหนามากขึ้น แต่ทำให้จับกระชับมือมากขึ้น เป็นเคสที่เอามาใช้บ่อยๆ แนะนำให้ลองใช้ดูราคาไม่แพงด้วย แต่อยากให้รุ่นนี้ทำเป็นแบบพลาสติกใสมาบ้างเพราะอยากเห็นสีของตัวเครื่องมากกว่า ใส่เคสแล้วมันคลุมมิดดูเป็นโทรศัพท์พลาสติกไปเลย

แกะกล่อง ของเล่นผู้ใหญ่ TENGA POCKET

TENGA POCKET ราคาชิ้นละ 259 บาท (แล้วแต่ร้านค้า)

พูดถึงของเล่นผู้ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักเปิดเผยมาจากญี่ปุ่นก็น่าจะรู้จัก TENGA กัน บล็อกเองรู้จักกับ TENGA มานานแล้วเคยซื้อมาใช้มาลองหลายรุ่นแล้วก็ผ่านไป จนมาเห็นรุ่นนึงที่ยังไม่เคยซื้อมาเป็นรุ่น Pocket ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับรุ่น EGG เดิมเพียงแต่เปลี่ยนรูปร่างเป็นแบบแบนๆ ในซองพลาสติก วันนี้จะมาแกะดูข้างในห่อกัน

แพ็คเกจเป็นแบบห่อพกพาง่าย มี 3 สี แต่ละสีก็จะมีลายข้างในแตกต่างกัน ความหมายของสีก็น่าจะเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของ TENGA

  • สีขาว ลายคลื่นยาวๆ แบบสัมผัสนุ่มนวล
  • สีแดง ลายจุดวงกลม แบบสัมผัสกลางๆ
  • สีดำ ลายบล็อกสีเหลี่ยม แบบสัมผัสเข้มๆ ชัดเจน

แกะห่อสีดำออกมาแล้วจะเจอตัว POCKET ซิลิโคนรูปร่างแบนๆ อยู่ในพลาสติกใสอีกชั้น และซองเจนหล่อลื่น ตัวซิลิโคนขนาดไม่ใหญ่มีลักษณะแบนเปิดข้างในจะเห็นลายบล็อกสี่เหลี่ยมชัดเจนมาก เห็นแล้วก็น่าลองจริงๆ เนื้อซิลิโคนเหมือนรุ่น EGG แต่เหมือนจะหนากว่านิดหน่อย สีขาวเนื้อเหนียวยืดหยุ่นดี ลายด้านในก็ชัดเจน ลายบนซิลิโคนดูทนทาน

วิธีใช้ตามที่แนะนำบนซองก็คือใส่เจลลงในซิลิโคน แล้วก็ใช้งาน หลังจากใช้งานแล้วก็เอาซิลิโคนใส่ลงในซองใหญ่พับซองแล้วก็ทิ้งได้เลย ลองใช้งานสีดำไปแล้วรู้สึกว่าคิดถูกที่เลือกสีนี้มาลองก่อน ควบคุมความแน่น หลวมด้วยตัวเอง ลายบล็อกสี่เหลี่ยมนี่สุดๆ คิดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่ชอบอะไรเร่งเร้า อย่างว่าใครชอบนุ่มๆ เพลินๆ ก็ลองสีแดงหรือขาวดู สรุปรวมแล้วใช้งานง่าย สะดวก ให้สัมผัสดี ไม่หกเลอะเทอะ

ถ้าถามว่าหลังจากใช้แล้วสภาพมันยังดีอยู่จะล้างแล้วเก็บเอาไว้ใช้งานใหม่ได้อีกไหม จริงๆ แล้วก็ทำได้เพราะมันเป็นซิลิโคนถ้าดูแลเรื่องความสะอาด ทำให้แห้งดี และใช้งานเองอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จากประสบการณ์ที่เคยใช้งานรุ่น EGG แล้วก็เอากลับมาใช้งานได้อีกหลายครั้งมากจนมันขาดถึงได้ทิ้งไป ถ้าเราไม่รุนแรงกับมันมากนักก็คงใช้ได้นานอยู่นะ อันนี้แล้วแต่เลยจะใช้อย่างไรก็พิจารณาเอา แต่ตามคำแนะนำมาตรฐานทั่วไปแนะนำให้ใช้แค่ครั้งเดียวแล้วไปซื้อมาใหม่ซะอุดหนุนเค้าบ่อยๆ จะได้มีหลายๆ รุ่นให้เล่นกัน

แกะกล่อง Staedtler® Noris® Digital ปากกา S Pen แบบดินสอไม้

Staedtler® Noris® Digital Stylus Pencil ราคา 1,290 บาท

แกะกล่องปากกา S Pen วันนี้จะมาแกะกล่อง S Pen ดินสอไม้ หรือ Staedtler® Noris® Digital เป็นอุปกรณ์เสริมพวก Samsung Note ทั้งหลาย S Pen รุ่นนี้หาซื้อมาตั้งแต่ตอนเปิดตัวพร้อมกับ Samsung Tab S3 แล้ว ไม่มาขายในไทยสักทีเลยได้ S Pen ของ Tab S3 มาใช้แทน แต่ในที่สุดก็เข้าไทย เข้ามาครั้งนี้มาเป็นของแถมสำหรับคนที่สั่งจองเครื่อง Samsung Note8 และได้โอกาศซื้อมาเก็บสะสมสักที ได้มาจากห้องซื้อขายใน Facebook ราคาที่ได้มา 850 บาท เรียกว่าถูกกว่าราคาจริงพอสมควรเลย

ปากกามาในกล่องกระดาษของ Staedtler ดูสวยงาม ด้านหลังกล่องมีบอกรุ่นของอุปกรณ์ที่รองรับไว้เบื้องต้น ภายในกล่องที่ได้มามีแค่ตัวปากกา ไม่มีหัวปากกาให้เปลี่ยนกับคีมเปลี่ยนแถมมาเหมือนกับชุดปากา S Pen จาก Samsung เอง

ตัวปากการูปดินสอไม้รูปร่างและสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Staedtler มีปลอกปากกาแบบใส่มาให้ด้วย วัสดุเป็นวัสดุที่ออกไปทางพื้นผิวยาง-ซิลิโคน-พลาสติก อะไรประมาณนั้น ไม่รู้เรียกว่าอะไรนะวัสดุประเภทนี้ แต่ภายนอกเหมือนมีฟิล์มพลาสติกเคลือบอยู่ ตรงบริเวณหัวปากกาที่เป็นพื้นผิวเหมือนไม้ให้อารมณ์เหมือนกระดาษแข็ง ส่วนหัวสีดำเป็นพลาสติก และหัวปากกาก็เป็นแบบพลาสติก โดยรวมแล้วดูสวยงามเหมือนดินสอไม้จริงๆ สัมผัสที่จับปากกานั้นก็เหมือนจับดินสอไม้น้ำหนักกำลังดีแต่ไม่แน่ใจว่าใกล้เคียงกับดินสอไม้จริงหรือเปล่า

เทียบขนาดกับ S Pen รุ่นต่างๆ (เรียงจากด้านบน: Staedtler® Noris® Digital / S Pen (Tab S3) / S Pen (TabA 10.1 with S Pen) / S Pen (Note FE)) จะเห็นว่าความยาวของ Staedtler นั้นยาวกว่า S Pen ขอรุ่นอื่นๆ ได้ลองใช้งานเบื้องต้นคู่กับตัว S Pen Tab S3 แล้วรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างเท่าไหร่ สามารถวาดเส้นเล็กด้วยน้ำหนักเบาๆ และลงน้ำหนักเพื่อวาดเส้นใหญ่ได้ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ S Pen Tab S3 จะสามรถคุมน้ำหนักที่ลงได้ดีกว่าเพราะตัวปากกาใหญ่กว่าจับถนัดมือแต่สวยน้อยกว่านะ สรุปง่ายๆ ว่าเป็น S Pen ที่ใช้งานได้ผลเหมือนกับ S Pen จาก Samsung นั่นหละ แต่ก็เพราะด้วยรูปร่างดินสอไม้นี้ ทำให้มันเพิ่มความน่าใช้ และน่าสะสมขึ้นไปอีก ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็เพราะรูปร่างของมันถึงซื้อมายังไงละ

แกะกล่อง Samsung GALAXY Note Fan Edition

เครื่อง GALAXY Note Fan Edition ที่ได้มานี้เป็นเครื่องจากเครือข่าย KT จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นเครื่องแบบ 1 ซิม แพ็คเกตของ Samsung GALAXY Note Fan Edition ยังคงเป็นกล่องสีดำตัวหนังสีสีน้ำเงินเหมือนกับรุ่น  GALAXY S7 Edge โดยมีกล่องสวมชั้นนอกที่ด้านหน้ากล่องมีรูปหัวใจสีน้ำเงิน พร้อมกับชื่อรุ่น Fan Edition ชัดเจน ด้านในเป็นกล่องที่เปิดออกด้วยระบบแม่เหล็ก เปิดออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง และอุปกรณ์ภายในกล่อง

Samsung Galaxy Note Fan Edition วางขายในเกาหลีเมื่อวันที่ 7/7/2017 อ้างอิง Samsung KR

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง
  • เคส Clear View Cover สีเดียวกับตัวเครื่อง
  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบขากลม
  • สายเคเบิลแบบ USB C
  • ตัว USB OTG สำหรับเสียบอุปกรณ์ USB
  • หัวแปลง Micro USB to USB C
  • หัวปากกา S Pen 5 หัว พร้อม แหนบ
  • หูฟังรุ่่นเดิมในกล่องพลาสติกสีดำใส

 

สีของตัวเครื่องที่เลือกมาคือ สีฟ้า (Blue Coral) มีขอบอลูมิเนียมตัวเครื่องเป็น สีทองชมพู (Rose Gold) ด้านหน้าไม่มีโลโก้ Samsung แล้ว มองดูด้านล้างหน้าจอก็จะเห็นปุ่ม Home พร้อมกับระบบสแกนนิ้วมือ แบบดั้งเดิม สะดวกใช้งานมาก

ด้านหลังจะมีเลนส์กล้อง เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ โลโก้ Samsung พร้อมกับชื่อรุ่นอยู่ด้านล่าง

ด้านข้างซ็ายจะมีแค่ปุ่มปรับระดับเสียง ด้านขวามีแค่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านบนเป็นช่องใส่ซิมการ์ด และ การ์ดหน่วยความจำแบบ Micro SD Card  ด้านล่างจะช่องเชื่อมต่อแบบ USB C ช่องลำโพง และ ปากกา S Pen

 

ปากกา S Pen ของ Note FE นี้จะมีสีเดียวกับตัวเครื่อง หัวปากกาจะเป็นแบบหัวแหลมเล็กกว่า Note 5  ตรงที่กดปลายปลากกาจะเป็นอลูมิเนียมสีเดียวกับขอบตัวเครื่องกลมกลืนกันดี

ดูจากภายนอกแล้วมันก็คือ Note 7 นั่นแหละ เพียงแค่ปรับปรุงเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ที่มีความจุน้อยกว่าเดิม จาก 3,500mAh เป็น 3,200mAh นั่นเอง

สิ่งที่ชอบ

  • ชอบสีฟ้าของตัวเครื่องมากๆ ด้านหน้าของเครื่องเป็นสีเหมือนด้านหลัง ไม่ชอบ S8+ ตรงที่กระจกด้านหน้าเป็นสีดำเหตุผลที่เค้าบอกมาก็เพราะจะซ่อนช่องเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีเยอะมาก พอเลือกตัวเครื่องด้านหลังเป็นสีดำกลับทำให้ทุกอย่างดำไปหมดเลยดูไม่สวย ส่วน Note FE ก็มีเซ็นเซอร์เยอะเหมือนกับ S8+ นะ ที่เห็นมีแค่ 3 ช่องด้านบนนั้น เซ็นเซอร์ตัวอื่นๆ อยู่ใต้ฟิล์มสีฟ้านั่นเอง ถามว่ามีปัญหากับพวกเซ็นเซอร์ใต้ฟิล์มสีฟ้าไหม? ไม่มีปัญหาใช้งานได้ปกติ เรียกว่าออกแบบได้ฉลาดมากซ่อนเซ็นเซอร์ใต้ฟิล์มสีทำให้ด้านหน้าเครื่องดูไม่รกแต่ไม่รู้ทำไมไม่ทำกับ S8+ แบบนี้บ้าง
  • ชอบปุ่ม Home และ สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหน้าที่เดิมคุ้นเคย
  • มีปากกา S Pen
  • ชอบสแกนม่านตาเร็วมากไม่ตั้งใจมองก็สแกนได้ ข้อนี้อยากบอกว่าสแกนม่านตามันเร็วกว่าของ S8+ ที่ใช้อีกนะ กดปุ๊ปมองจอก็ปลดล็อกปั๊ป ของ S8+ มันสแกนได้บ้างไม่ได้บ้างต้องเอามือไปจิ้มสแกนนิ้วข้างหลังแทนน่าหงุดหงิด ข้อนี้เป็นความรู้สึกตัวตัวนะครับ

ข้อสังเกต

  • กล้องถ่ายรูป ปิดเสียงชัตเตอร์ไม่ได้ แม้จะเปลี่ยนเป็นโหมดไม่ใช้เสียงแล้ว ซึ่งเสียงชัตเตอร์นี่ดังมากกก ปรับระดับเสียงให้เบาลงไม่ได้ด้วย / แก้ปัญหาโดยใช้ App ถ่ายรูปตัวอื่นโหลดใน Play Store
  • ใช้ Samsung Pay ในไทยไม่ได้ ต้องใส่ซิมเกาหลีเท่านั้นถึงจะใช้งานได้
  • หาฟิล์มกันรอยดีๆ ในไทยไม่ได้ / ตอนนี้ยังหาฟิล์มที่คลุมขอบโค้งแบบที่ไม่ใช่ TPU และขายในไทยไม่ได้ ต้องสั่งจากต่างประเทศ

หลังจากรอคอยมานานเรียกว่าถูกใจมาก รูปร่าง สีสันตัวเครื่อง ที่สำคัญคือ S Pen นี่แหละสิ่งที่ต้องการ ตอนนี้ได้เอามาใช้แทน S8+ เครื่องเดิมแล้ว การใช้งานหลังจากนี้มีปัญหาอะไรจะเขียนเล่าไว้ในบล็อกต่อๆ ไปครับ

 

แกะกล่อง รองเท้า บาจา Bata รุ่น Star Wars

รองเท้า บาจา รุ่น Star Wars [Bata Star Wars exclusive collection] ราคา 499 บาท

รองเท้ารุ่นนี้วางขายในเว็บ Lazada เท่านั้น (เค้าว่ามา) โดยมีจำหน่ายเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าเดี๋ยวก็หมด เดี๋ยวก็มาขายใหม่ ไม่เหมือนว่าจะเป็นรุ่นลิมิเต็ตอะไรนะ  แต่เป็นรุ่นที่เรียกว่า “Bata Star Wars exclusive collection” ตัวเองก็ไม่ได้เป็นแฟนหนัง Star Wars แต่อย่างใด อยากได้รองเท้าใส่สบายสักคู่นึงเฉยๆ ราคาป้ายอยู่ที่ 999 บาท แต่สามารถซื้อได้ 499 บาท ตามช่วงโปรโมชั่นที่มีมาบ่อยมาก เข้าไปดูในเว็บเห็นว่ามีขนาดเท้าของเราเลยกดซื้อไป เลื่อนลงมาเห็นส่วนของรีวิวก็เห็นว่ามีรีวิวย้อนกลับไปเกือบๆ ห้าเดือนแล้ว ส่วนใหญ่ก็บอกว่าสวยสมราคาดี ขนาดใหญ่ไปบ้าง อะไรบ้างเดี๋ยวต้องมาดูกัน

แกะกล่องออกมารองเท้าแพ็คอยู่ในกล่องอย่างดี  มีกระดาษยัดข้างในและแกนพลาสติกใส่ไว้ทำให้รองเท้าไม่เสียรูปทรงเวลาอยู่ในกล่อง ตัวรองเท้าทำจากผ้าสีดำ เนื้อผ้าดูทนทาน ด้านในรองเท้ามีลายกราฟฟิก แต่ไม่รู้ว่าเป็นลายอะไรเหมืือนกัน พื้นรองเท้ามีตราโลโก้ Star Wars ตัวหนาเห็นได้ชัดเจน พื้นรองเท้าน่าจะทำจากยางหนา และแน่นดีมาก ต้องดูตอนใส่จริงว่าจะใส่สบายหรือไม่  ตัวรองเท้าจะมีหัวของ Darth Vader ตัวร้ายในหนัง สีเงินติดอยู่ข้างๆ ด้วย พื้นรองเท้าเป็นยางสีขาวมีลายกราฟฟิกสวยดี

ลองใส่แล้วตอนไปดูหนังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รองเท้าใส่แล้วรู้สึกว่าจะใหญ่กว่าปกติ 1 เบอร์ ปกติจะใส่เบอร์ 43 สั่งมาเบอร์ 43 แต่มันหลวมหน่อยๆ ไม่กระชับ เหมือนที่มีคนมารีวิวเอาไว้ในเว็บจริงๆ ด้วย แต่ก็โอเคใส่แล้วสบายไม่คับดี ช่วงหัวรองเท้าตื้นกว่ารองเท้าแบบ slip on ทั่วไปตอนแรกกลัวว่าจะใส่เดินแล้วรองเท้าจะหลุดง่ายแต่พอใช้จริงแล้วโอเคเลย มาถึงเรื่องของพื้นรองเท้าด้านในที่เป็นยางแน่นๆ นั้น เรียกว่าแน่นจริงๆ แต่ก็ไม่แข็งถึงกับใส่ไม่สบายนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นพื้นที่ใส่แล้วนุ่มสบายสักเท่าไหร่ พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางใส่เดินบนพื้นกระเบื้องแล้วไม่ลื่น สรุปแล้วเป็นรองเท้าที่คุณภาพดีสมราคา เอาไว้ใส่ในวันสบายๆ ได้ดีคู่หนึ่งเลย แต่ถ้าจะใส่เอาไว้เดินมากๆ ก็อาจจะเมื่อยเท้านิดหน่อยนะ

ลองชิม เนสกาแฟ โกลด์ ไอซ์ คอฟฟี่ คอนเซนเทรท เอสเพรสโซ และ ม็อคค่า

Nescafe Gold Iced Coffee Concentrate Espresso, Mocha ขนาด 96 มิลลิลิตร ราคาประมาณ 75 บาท

กาแฟบีบ อาจจะเป็นชื่อที่เรียกแล้วเข้าใจกันง่ายที่สุดสำหรับการลองชิมกาแฟใหม่ในครั้งนี้ ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่นำเข้ามาจำหน่าย จริงๆ แล้วก็เห็นว่ามาขายตั้งแต่เมษายนแล้วละ เพียงแต่ว่าที่โคราชยังหาซื้อไม่ได้ ครั้งนี้ได้มาลองชิมซึ่งเป็นของฝากที่ส่งมาให้จากต่างจังหวัดเลย เพราะยังหาซื้อที่โคราชไม่ได้ (เห็นว่าที่ TOP มีขาย แต่อยู่ไกลเลยไม่ได้ไปดู)

ได้มา 2 รส รสเอสเพรทโซ กับ ม็อคค่า รูปร่างภายนอกจะเป็นแบบขวดมีฝาปิด ขวดเป็นแบบบีบได้ หัวบีบเป็นหัวบีบที่ดูแล้วทนทานไม่รั่ว ไม่ตัน

วิธีชงก็บีบกาแฟ ประมาณ 2 ช้อนชาครึ่ง ผสมกับนมสดประมาณ 100 มล. คนให้เข้ากันแล้เติมน้ำแข็ง

  • รสม็อคค่า ได้กลิ่นหอมกาแฟกับช็อกโกแลต มีรสหวานแบบหวานช็อกโกแลต หวานกำลังดี กาแฟไม่เข้มมาก มีความหอมช็อกโกแลตระหว่างดื่ม
  • รสเอสเพรสโซ ได้กลิ่นหอมกาแฟแบบกาแฟเย็นที่คุ้นเคยเลยละ รสกาแฟเข้มและเด่นกว่าม็อคค่า ตามด้วยรสหวานมัน เป็นรสกาแฟแบบกาแฟกระป๋องที่หวานหอม อร่อยมาก

ลองชงแล้วก็ง่ายและสะดวกดีสำหรับการชงกาแฟเย็นแบบรวดเร็ว เพียงแต่สงสัยว่าชงตามปริมาณที่ระบุมาแล้วควรใส่แก้วแล้วใส่น้ำแข็งมากน้อยแค่ไหนถึงจะได้รสที่เป็นมาตรฐาน คิดว่าคงให้ใส่ตามใจชอบละมั้ง เพราะที่ลองชิมไปชงตามที่ระบุและใส่แก้วขนาดเล็ก ดื่มใกล้หมดแก้วจะรู้สึกว่ามันหวานคอจนขนลุกเลย ครั้งต่อไปคงจะต้องใส่นมและน้ำแข็งเพิ่มสักหน่อย

สรุปแล้วเป็นการทำกาแฟเย็นเองที่ง่ายมากไม่ต้องกะปริมาณให้ปวดหัว ชงไปแล้วรสไม่ถูกใจก็บีบกาแฟเพิ่ม ถ้าเข็มข้นไปก็ใส่นม หรือน้ำแข็งเพิ่มเท่านั้น ก็จะได้รสชาติกาแฟเย็นที่ถูกใจสุดๆ แล้ว

แกะกล่อง วิทยุ TECSUN รุ่น R-9012

ครั้งนี้จะมาแกะกล่องวิทยุ TECSUN รุ่น R-9012 ที่สั่งมาจาก Lazada เป็นวิทยุที่รับคลื่น FM, MW, SW เรียกว่ารับคลื่นได้หลากหลายในตัวเดียวเลย ที่ซื้อมาก็เพราะจะลองเล่นช่วงคลื่นสั่น (Shortwave Radio) วันนี้ก็เลยจะมาแกะกล่องดูข้างในว่าตัววิทยุเป็นอย่างไร มีอะไรในกล่องบ้าง และการใช้งานคร่าวๆ

วิทยุมาในกล่องกระดาษลูกฟูกปกติตามสไตล์ วิทยุจะอยู่ในซองพลาสติกกันกระแทก มาพร้อมกับคู่มือภาษาจีน ทั้งกล่องมีเท่านี้เลย

  • ด้านหน้าจะเป็นลำโพงขนาดค่อนข้างใหญ่ มีแผงหน้าปัดแสดงรายการหมายเลขคลื่นในย่านความถี่ต่างๆ ด้านล่างมีสวิตช์เลื่อนเปลี่ยนย่านความถี่
  • ด้านหลังมีช่องใส่ถ่านขนาด AA จำนวน 2 ก้อน มีแผงพลาสติกเปิดออกมาใช้เป็นขาตั้งได้
  • ด้านขวามีปุ่มหมุนจูนคลื่นวิทยุ ด้านล้างจะเป็นสวิทตช์ปิด-เปิดเครื่อง
  • ด้านซ้าย เรียงจากด้านบนจะมีเชื่อกคล้องข้อมูล ตัวปรับความดังเสียง ช่องเสียบหูฟังแบบโลหะ ช่องเสียบไฟ
  • ด้านบนจะมีเสาอากาศ ด้านล่างไม่มีอะไร

วัสดุตัวเครื่องนั้นทำจากพลาสติกที่ดูมีคุณภาพดีเลยทีเดียว การประกอบเครื่องแน่นบีบแล้วไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าด สวิทเลื่อนมีจังหวะดีไม่หลวม ปุ่มหมุนจูนคลื่นนั้นหมุนหนืดดีมาก และปุ่มปรับเสียงหมุนได้ลื่นดี

การใช้งานก็รับคลื่นวิทยุ FM ได้ชัดเจนถ้าอยู่ในที่โล่ง คลื่นที่สัญญาณอ่อนก็ฟังได้ เพียงแต่มีเสียงรบกวนแบบวิทยุปกติ แต่ครบช่วงคลื่นที่มีรึเปล่าไม่รู้ไม่ขอออกความคิดเห็น

คลื่น MW หรือ AM นั้นไม่รู้ว่าที่บ้านเป็นพื้นที่อับสัญญาณหรืออย่างไรรับสัญญาณชัดๆ ได้ไม่กี่คลื่น แม้จะดึงเสาสัญญาณออกมาแล้ว

คลื่น SW ลองหมุนจูนฟังดูทุกคลื่นความถี่อย่างคร่าวๆ แล้วช่วงเวลากลางวัน สามารถรับคลื่นจากประเทศได้อยู่ ไม่ชัดมากแต่ก็ฟังได้ น่าตื่นเต้นมากๆ เดี๋ยวจะลองเล่นลองเปลี่ยนสถานที่ดูเรื่อยๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังในบล็อกต่อไปนะครับ

สรุปแล้ววิทยุ TECSUN รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การเป็นวิทยุได้ด้วยตัวของมันเอง ด้วยการใช้งานที่ง่าย และมีช่วงคลื่นความถี่ที่หลากหลาย เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับวิทยุสักเครื่อง เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ ( ͡° ͜ʖ ͡°)

แกะกล่อง ตลับลูกอม Miniaturely Tablet Sailor Moon Part 6

Miniaturely Tablet Sailor Moon Part.6 ราคา 4,040 Yen / ราคารวมส่งจากญี่ปุ่นแล้วประมาณ 1,500 บาท

ตลับยา Sailor Moon รุ่นนี้คงจะเรียกว่าตลับยาไม่ได้แล้ว คงเป็นแค่ตลับใส่ลูกอมซะมากกว่า ใส่ลูกอมที่แถมมา ส่วนยาใส่ได้แค่ยาแก้แพ้มั้งเม็ดเล็กๆ ในกล่องใหญ่จะมีตลับยาอยู่ 6 กล่อง มีแบบซ้ำ 2 กล่อง

แพ็คเกตยังคงเป็นกล่องพลาสติกใส มีโครงพลาสติกตั้งตัวตลับยาด้านในดูดีเหมือนเดิม มีห่อลูกอมอยู่ใต้ฐานกระดาษด้านล่าง ลูกอมรสพีชหอม หวานเย็นๆ อร่อยดี

ตัวตลับยังคงทำรายละเอียดได้ดี ใช้พลาสติกสี – พลาสติกใส เป็นส่วนๆ จริง ไม่ใช่แค่เอาสีทา ทำให้มีรายละเอียดที่ดีสวยงามสมจริง เพียงแต่ช่องใส่ยา หรือลูกอมจะเล็กไปหน่อยเพราะใส่ได้ตามความยาวของคฑา ช่องร้อยโซ่พวงกุญแจของบางตลับจะเป็นพลาสติกขนาดเล็กดูแล้วบอบบาง

สรุปแล้วก็เป็นอีกหนึ่งชุดที่ทำออกมาแบบสวยเหมือนจริง ขนาดเล็กน่ารักดี

Blog: แกะกล่อง ยักษ์ดำในตำนาน Casio G-SHOCK GX-56BB-1DR

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แวะไปร้านนาฬิกาที่เดอะมอลล์ เห็นในเพจของร้านประกาศโปรโมชั่นลดราคา 50% เลยไปดูสักหน่อย นาฬิกาที่ใช้อยู่ก็ยังไม่พังนะแค่อยากได้ใหม่เฉยๆ อยากใส่ G-SHOCK เหมือนเดิม เคยมี G-SHOCK อยู่ตัวนึงซื้อตอนที่กำลังจะเรียนจบ ป.ตรี เก็บเงินซื้อเองจำไม่ได้ว่าราคาเท่าไรแล้ว แล้วมันเหมือนจะถ่านหมด พอเอาไปให้ที่ร้านซ่อมของ Casio ที่เดอะมอลล์ดูเขาบอกว่ามันเสียแล้ว เลยไปร้านนาฬิกาซื้อถ่านมาเปลี่ยนเอง เปลี่ยนถ่านใหม่มันก็ติดนะ ใช้ได้ วัน – สองวัน มันก็ดับไปเลย แล้วก็ไม่ติดอีก ก็เลยใช้ตัวนาฬิกาเครื่องคิดเลขของ Casio นี่แหละใช้อยู่เพราะมันถูกดี จนเห็นประกาศโปรลดราคาของทางร้านเลยทำให้คิดถึง G-SHOCK ขึ้นมา

เล่าย้อนอดีตไปแล้วก็มาดูที่ร้านลดราคากัน ร้านที่ว่านี้ก็คือ “ร้าน มี จง มี”  ร้านแว่นและนาฬิกาที่อยู่ชั้น 2 ในห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา พอถามพนักงานก็ถึงรู้ว่าที่ลดราคา 50% นั้น ลดแค่เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น โดยรุ่นที่ลดราคาจะรวมอยู่ในตู้กระจกที่จัดไว้ ดูรวมๆ แล้วก็หลายสิบรุ่นอยู่นะ เลยขอดูตัวนึงเป็นรุ่นอะไรไม่รู้ เห็นเป็นแบบเข็มสีดำใหญ่ดี ห้าพันกว่าๆ ลด 50% ก็ไม่แพงมาก แต่ตาดันไปมองเห็นตัวดิจิตอลสีดำ หน้าเหลี่ยมๆ อยู่อีกตู้นึงที่ไม่ลดราคา มันคือยักษ์ดำในตำนานนั่นเอง ขอดูตัวนี้ด้วยเอามาเทียบกัน ไปไปมามา ก็ได้ตัวยักษ์ดำมาจนได้

ลืมบอกตัวที่ไม่ได้อยู่ในตู้กระจกลด 50% จะลดราคาที่ 25% อยู่ด้วย โดยปกติจะลด 20% และแอดร้านใน Line จะลดเพิ่มอีก 5% เป็น 25% แต่มีเงื่อนไข เรื่องการจ่ายเงินสด กับ รูดบัตรเครดิต ด้วยนะ โดยตัวยักษ์ดำที่ได้มานี้ ราคาป้ายอยู่ที่ 6,500 (ราคาเต็มไม่ค่อยแน่ใจมองไม่ถนัดแค่คิดว่าน่าจะเท่านี้) ลด 25% จ่ายเงินสดจะอยู่ที่ 4,875 บาท ถ้ารูดบัตรจะอยู่ที่ 5,006 บาท ทางร้านคิดแบบไหนก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ก็เป็นปกติของร้านค้าบางร้านที่จะชาร์จค่ารูดบัตร …คิดว่านะ โดยโปรลด 50% ถ้ารูดบัตรจะลดแค่ 45% นะเท่าที่จับใจความได้

CASIO G-SHOCK GX-56BB-1DR หรือที่เรียกกันว่า “ยักษ์ดำ”

นาฬิกามาในกล่องกระดาษสีดำ ที่มีคู่มือภาษาอังกฤษเล่มเล็ก พร้อมกับใบรับประกันของทางร้าน ในกล่องกระดาษจะมีกล่องเหล็กหกเลี่ยมใส่นาฬิกาอยู่อีก 1 กล่อง มีฟองน้ำกันกระแทกแน่นหนา

นาฬิกาสีดำ ขนาดใหญ่ ก็เรียกว่าใหญ่นะสำหรับนาฬิกาดิจิตอล สายเรซินหนาดูแข็งแรง หน้าจอแสดงผลแบบสีดำ ตัวเลขสีขาว แสดงผลชัดเจน ในหน้าจอแสดงผลนี้รอบๆ จอจะเป็นแผงรับแสงอาทิตย์เพื่อใช้เป็นพลังงานโดยมีแบตเตอร์รี่เก็บพลังงานอยู่ภายใน สเป็กโดยละเอียดมีอะไรบ้างก็หาอ่านได้ในเว็บของ CASIO เลยนะ

ลองใส่ดูก็พอจะเห็นแล้วละว่ามันใหญ่ ใส่ที่ข้อมือแล้วก็ใหญ่จริงๆ แต่ด้วยความชอบก็ไม่สนใจหรอก เพราะมองดูมันแล้วมันสวยจริงๆ คิดถูกแล้วที่เลือกยักษ์ดำมา

เคส Samsung Galaxy S8+ จากงาน Samsung x LINE FRIENDS Pop Up Event

ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน Samsung x LINE FRIENDS Pop Up Event ที่ สยามสแควร์วัน โดยเป็นงานที่ Samsung ร่วมกับ LINE FRIENDS จัดขึ้นสำหรับโทรศัพท์ S8, S8+ เป็นหลัก ภายในงานจะมีเคสมือถือ S8, S8+ ตัวคาแรคเตอร์ไลน์ให้ซื้อกันด้วย รู้สึกว่าจะมี 4 ลาย 4 แบบ เคสชิ้นละ 650 บาท เป็นแบบเคสพลาสติกใส 2 แบบ และแบบพลาสติกสีทึบ 2 แบบ

เพราความอยากได้เคสใสๆ อยู่แล้วแต่ไม่มีโอกาสไปกรุงเทพฯ เท่าไหร่ ก็เห็นประกาศขายเคสรุ่นนี้ ลายหมีบราว มือสองอยู่ ก็ไม่รออะไรกดซื้อไปทันที เดี๋ยวมาดูกันว่าเป็นยังไง

ตัวเคสเป็นพลาสติกใส เรียบ พิมพ์ลายด้านล่าง เคสเป็นแบบเกาะมุม 4 มุม เปิดหัวท้าย ด้านข้าง ทั้งหมด ลองใส่ดูก็สวยดีนะ แต่ดูเหมือนจะใส่เพื่อความสวยงามเฉยๆ ไม่ได้มีการปกป้องเครื่องเท่าไหร่ มุมส่วนที่เกาะเครื่องไว้แค่ดันนิดหน่อยก็หลุดออกได้ง่าย ดังนั้นถ้าตกพื้นก็คงแยกส่วนเครื่องกับเคสแน่นอน

มาดูส่วนที่เป็นข้อสังเกตกันบ้าง

  • ตัวเคสแบบพลาสติกใสธรรมดาปกติ เนื้อพลาสติกไม่ได้ดูมีคุณภาพแต่อย่างใด เป็นพลาสติกอ่อน ไม่แข็งบิดตัวได้ง่าย ซึ่งตอนได้มาด้านหลังส่วนที่เป็นพลาสติกใสก็เป็นรอยขนแมวอยู่แล้ว หลังจากใส่ใช้งานไปเพียง 1 ครั้ง ขนแมวขึ้นพรึบ ลายพร้อยเลย
  • ตัวเคสด้านหลังนั้นเหมือนจะยกสูงจากด้านหลังของตัวเครื่องนิดนึง และฝุ่นสามารถเข้าไปอยู่ข้างในได้ ดังนั้นเวลาเกิดการกดทับเคสกับเครื่องอาจจะถูฝุ่นที่อยู่ด้านในทำให้ด้านหลังเครื่องเป็นรอยได้

จากที่ได้ใช้ดูแล้ววัสดุคุณภาพไม่สมราคา 650 บาท เลย ถึงจะซื้อมือสองมาไม่ใช่ราคาเต็มก็ยังเสียดายเงิน แต่ก็ถือว่าเป็นเคสที่ดูแล้วสวยน่าใช้นะ เก็บเป็นของสะสมได้อยู่

แกะกล่อง ปากกา S PEN Samsung Galaxy Tab S3

S PEN Samsung Galaxy Tab S3 ราคา 1,290 บาท

ปากกา S PEN รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่อง Samsung Galaxy Tab S3 เป็นปากกา S PEN แบบแยก เห็นตอนเปิดตัวก็ลุ้นว่าจะมาเข้ามาขายแยกรึเปล่า คิดว่าน่าจะเอามาวาดกับ Samsung Tab A 10 ที่มีอยู่ คงจะจับวาดถนัดมือดีไม่น้อย

ปากกา S PEN รุ่นนี้หาซื้อยากจริงๆ ตาม Shop Samsung ในห้างไปถามทีไรก็ไม่มีขายสักที คอยจ้องดูในเว็บ S-eStore เรื่อยๆ มาแป๊บๆ ก็หมด แต่ในที่สุดก็ได้มา

แพ็กเกจเป็นกล่องฝาพลาสติกใส แบบอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ๆ ในกล่องจะมีแหนบ และ หัวปากกา สำหรับเปลี่ยนมาให้ในชุดเลย

ตัวปากกาขนาดเท่าๆ กับปากกาปกติ ความกว้างกำลังดี จับถนัดมือ ปุ่มกดได้ดี ตัวปากกาทำจากพลาสติก เคลือบพื้นผิวหนีด ลื่นหน่อยๆ แบบผิวซิลิโคน ตัวคลิบหนีบเป็นโลหะพิมพ์โลโก้ Samsung หัวปากกาเป็นแบบหัวแหลมขนาดเล็ก ตามกล่องบอกว่ารองรับแรงกดได้ที่ 4096 ระดับ

จากที่ได้ลองใช้คู่กับ Samsung Galaxy Tab A และคู่กับตัวปากกา S PEN เดิม แล้วก็พอจะรู้สึกถึงความแตกต่างนะ รู้สึกถึงแรงกดที่ใช้แรงกดน้อยๆ ก็วาดเส้นบางๆ ได้ง่ายขึ้น คงเป็นเพราะหัวปากกาที่เล็กลง แรงเสียดทานเลยน้อยลงไปด้วย ทำให้ลงน้ำหนักได้เบาขึ้นได้  และสิ่งที่รู้สึกได้ชัดเจนคือ ความถนัดมือในการวาด หรือเขียน เพราะขนาดปากกาเหมือนกับปากกาขนาดปกตินั่นเอง

สรุปแล้วก็พอใจกับตัวปากกา S PEN รุ่นนี้นะ วาดรูปได้สนุกขึ้นเยอะ แต่ก็ยังติดอยู่ที่มันเป็นปากกาแบบแยกชิ้น เวลาพกไปใช้นอกสถานที่จะไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเวลาใช้ร่วมกับ Tab A 10 นี้ จะต้องดึงปากกาที่อยู่กับตัวเครื่องออกก่อนถึงจะใช้ปากกา S PEN Tab S3 นี้ได้ ใช้ไปก็กลัวจะลืมปากกาเดิมทิ้งเอาไว้ที่ไหนอีก  Update: ได้ลองปิดฟังก์ชั่นประหยัดแบตในส่วนของการปิดการตรวจจับปากกา S PEN เมื่อมีปากกาเสียบอยู่ในเครื่องดู พบว่าสามารถใช้ปากกา S PEN Tab S3 ได้โดยไม่ต้องดึงปากกาของเครื่องออกมาแล้ว แต่เวลาใช้นอกบ้านก็คงจะใช้ปากกาที่เสียบมากับเครื่องจะสะดวกรวดเร็วมากกว่า

แกะกล่อง ฟิล์มกันรอย กับ เคสใส Samsung Galaxy S8+

เคยเห็นมาบ้างกับฟิล์มกันรอยของ Samsung แต่ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในไทยเห็นแล้วอยากลองซื้อมาติดดู รุ่นที่มีขายเหมือนจะเป็นรุ่น S7, S7 Edge อยากหากซื้อมาลองกับ S7 Edge มาก แต่ก็หยุดหาไปเพราะเจอฟิล์มที่ใช้ดีมาติดแล้ว คราวนี้ไม่พลาดในเมื่อ Samsung ได้นำฟิล์มของ Galaxy S8 มาจำหน่าย น่าจะติดดีเพราะ Samsung ออกแบบและผลิตมาจำหน่ายเอง จะได้ลดภาระเรื่องการหาฟิล์มดีๆ ติด โดยเฉพาะพวกจอโค้งแบบนี้  กับอีกอย่างคือ เคสใส หรือ Clear Cover ของ Samsung ที่ได้ใช้กับ S7 Edge มา เรียกได้ว่าเป็นเคสที่ดีเคสนึงเลยก็ว่าได้ ตัวเคสบาง ใส ใส่แล้วไม่ทำให้เครื่องเป็นรอย และยังดูสวยอยู่ เลยไม่พลาดที่จะหยิบมาใช้อีกเหมือนกัน

Samsung Screen Protection from External shock SCREEN PROTECTOR ราคา 290 บาท

ในแพ็คจะมีฟิล์มให้ 2 แผ่น กับชุดอุปกรณ์ติดฟิล์ม ติดค่อนข้างง่ายเพราะบนฟิล์มจะมีเส้นบอกตำแหน่งให้ติด ตัวฟิล์มใส ติดแล้วแสดงภาพได้สวยไม่มีจุดๆ ของเนื้อฟิล์ม ติดลงขอบโค้งได้ ฟิล์มไม่เด้ง เรียกว่าโอเคเลยละ แต่มีข้อสังเกตดังนี้

ข้อสังเกต

  • ไม่สามารถเอาเทปใสดึงฝุ่นออกจากฟิล์มด้านในได้ เมื่อดึงออกมาแล้วตัวฟิล์มจะเป็นรอยทันทีปิดฟิล์มบนจอแล้วแสดงผลมีรอยเทปกาว เลยคิดว่าตัวฟิล์มน่าจะเป็นแบบ TPU แต่เนื้อไม่นิ่มเหมือน TPU ยี่ห้ออื่น
  • ตัวฟิล์มสะท้อนแสงมาก พอติดแล้วทำให้หน้าจอสะท้อนแสดงเป็นฝ้าขาวมากขึ้นมองจอลำบางเวลาแสดงจ้า
  • ตัวฟิล์มจะมีขอบขาวล้อมลอบฟิล์ม ทำให้เห็นขอบฟิล์มชัดเจนมากหลังจากติดเสร็จแล้ว ขอบขาวนี้จริงๆ ไม่มีสีเป็นฟิล์มใสๆ นี่หละ แต่เมื่อใช้งานไปฝุ่นจะเข้าไปติดในขอบนี้ทำให้ขอบเป็นสีขาว และเห็นเศษฝุ่นติดอยู่เต็มไปหมด เพราะขอบนี้ไม่ได้ติดลงบนจอมันบานอยู่แบบนั้นเอานิ้วลูบก็สัมผัสได้ถึงขอบที่เปิดออกมาน่ารำคาญมาก ด้วยปัญหานี้แหละถึงดึงฟิล์มออกใช้แบบไม่ติดฟิล์มสบายตา สบายใจกว่าเยอะ

Samsung Ultra-thin and translucent CLEAR COVER ราคา 690 บาท

เคสใสอันนี้ซื้อมาเพราะประสบการณ์การใช้งานที่ดีกับเคสใสรุ่นก่อนหน้าที่ใช้กับ S7 Edge เลย เคสใสสำหรับ S8+ รุ่นนี้ตัวเคสเป็นพลาสติกใสสีเทาสำหรัรบใช้กับเครื่องสีดำ ตัวเคสทำจากพลาสติกแข็งใส บาง ด้านหลังเคสมีจุดเล็กๆ ด้านในเพื่อไม่ให้เคสแนบกับเครื่องแล้วเกิดลายน้ำ ผิวด้านนอกเรียบมันเงาเหมือนพลากสติกทั่วไป เมื่อใส่กับตัวเครื่องแล้วค่อนข้างพอดีแต่รู้สึกได้ถึงตัวเครื่องมีการขยับอยู่ด้านในเคสตลอด ใส่แล้วจับกระชับมือไม่ทำให้เครื่องใหญ่เกินไป และยังคงความสวยของเครื่องเอาไว้ได้ แต่มีข้อสังเกตดังนี้

ข้อสังเกต

  • ตัวเคสขนาดไม่พอดี ใส่แล้วไม่แนบไปกับตัวเครื่องเหมือนกับเคสใสรุ่นก่อนที่ใช้กับ S7 Edge ที่เคสแน่นพอดีกับตัวเครื่อง 100% ใส่แล้วรู้สึกได้ว่าแน่นกระชับปลอดภัยไม่ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอย แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เคสใสสำหรับ S8+ รุ่นนี้ มันหลวมๆ ตรงช่วงบน กับมุมด้านล่าง เครื่องสามารถขยับขึ้นลงภายในเคสได้ ขอบด้านข้างกว้างกว่าตัวเครื่อง ทำให้ฝุ่นเข้าไปและถูกับขอบเครื่อง ซึ่ง S8+ ของผมตอนนี้เป็นรอยเรียบร้อยแล้วเพราะเคสตัวนี้เซ็งมาก เป็นรอยตรงบริเวณขอบด้านข้าง กับส่วนบนที่มันขยับไปมาได้ ทั้งตัวเครื่อง และเคสก็เกิดรอยบริเวณเดียวกันเพราะการเสียดสีกัน
  • พลาสติกตัวเคสคุณภาพไม่เหมือนกับเคสใสรุ่นก่อน รุ่นนี้เป็นพลาสติกใสแข็ง ไม่ค่อยยืดหยุ่น ขอบเคสคม เหมือนเคสพลาสติกถูกๆ ที่ขายทั่วไป เคสใสรุ่นเก่าเป็นพลาสติกที่ไม่บางมากมีความยืดหยุ่นดี ทำสีสวยไม่ลอกเวลาใสกับเครื่องแล้วกระชับพอดีตัวเครื่อง
  • จากข้อสังเกตสองข้อข้างบนก็ทำให้ผมถอดเคสเก็บกลับเข้ากล่องไปเรียบร้อย ใช้แบบไม่ใส่เคสแบบนี้สบายใจกว่า

จะว่ายังไงดีกับการซื้ออุปกรณ์เสริมแท้จาก Samsung ในครั้งนี้ กับการที่คาดหวังเอาไว้มากกับอุปกรณ์เสริมของแท้ว่าจะต้องดีกับตัวเครื่อง S8+ ที่ซื้อมาแน่นอน เพราะคิดว่าน่าจะออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่ก็ผิดหวังจนได้ ทำไงได้ละก็ที่ผ่านมาทาง Samsung ทำอุปกรณ์เสริมออกมาใช้งานได้ดีมากเลยคาดหวังไว้ว่าน่าจะดีเหมือนเดิม

ลองใช้ L’Oréal ELSEVE Extraordinary Oil Eclat Imperial สีชมพู

L’Oréal ELSEVE Extraordinary Oil Eclat Imperial สีชมพู ขนาด 100 มล. ราคา 279 บาท (จาก Watsons)

สีนี้มาในกล่องขนาดใหญ่ และหนักกว่าปกติ ทั้งที่ปริมาณเท่ากัน คือ 100 มล.  ดูที่ฉลากจะเห็นว่าเป็นรุ่นนำเข้า แกะกล่องออกมาก็จะพบว่าขวดนั้นเป็นแก้ว ไม่ใช้ขวดพลาสติกเหมือนสีปกติที่ขายอยู่ และขนาดขวดก็ใหญ่กว่าขวดพลาสติกด้วย ทำให้ดูพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก สมกับที่หาซื้อยากกว่าสีปกติ  จริงๆ ที่หาซื้อไม่ได้นี่เพราะโปรลดราคานะ ตอนราคาปกติ 300 กว่าบาทนี่เหลือเต็มขั้น พอมีโปรปุ๊ปหายไปจากชั้นปั๊ปเลย กล่องนี้ได้มาจากร้าน Watsons เหลือ 2 กล่อง

สีชมพูนี้ตามโฆษณาบอกว่ามีกลิ่นกุหลาบ เลยอยากลองซื้อมาทดสอบกลิ่นว่าเป็นกลิ่นกุหลาบจริงหรือเปล่า ถ้าไม่หอมหรือไม่มีกลิ่นก็ใช้อยู่ดี ขวดเก่าใกล้หมดแล้ว เพราะมันใช้ดีจริง ใช้ใส่ผมตอนผมหมาดๆ พอแห้งแล้วผมนุ่มกับลื่นดีชอบมาก

น้ำมันยังคงไม่มีสีเหมือนรุ่นอื่นๆ แต่มีกลิ่นหอมกุหลาบจริงๆ ในน้ำมัน เป็นกลิ่นแบบน้ำหอมกุหลาบ หอมดี กลิ่นไม่แรงเท่าไหร่ ใส่ตอนผมหมาดๆ แล้วกลิ่นไม่ค่อยติดผมตอนผมแห้งแล้ว ลองใส่ตอนผมแห้งคราวนี้กลิ่นอยู่ทนนานกว่า ส่วนอย่างอื่นยังคงดีเหมือนเดิม เพียงแต่สีนี้ผมดูเงามากกว่าหน่อย ลูบผมแล้วสัมผัสได้ถึงน้ำมันอยู่เหมือนกัน ผมดูไม่ฟูมาก แต่ไม่ได้ลื่นมือเวลาเอามือสางผมเหมือนขวดเดิม ทำให้ผมดูเหนียวๆ สางผมแล้วติดมือพันกันไม่ลื่นมือเหมือนเก่า สรุปแล้วจากที่ได้ลองใช้เองสีนี้สีชมพูพิเศษที่กลิ่นกุหลาบหอม แต่ไม่ได้ทำให้ผมลื่นสุดๆ เหมือนสีเดิม *สีเดิมใช้ฝาสีทองครับ

**เพิ่มเติมเห็นว่ามีแบบขวดแก้วสีขาวมาวางขายแล้วในโลตัส ไม่รู้กลิ่นอะไรเหมือนกัน

แกะกล่อง ขนมทำเอง โรสเซล่า ทำคัพเค้ก ชุด DIY My Cupcake

โรสเซล่า ทำคัพเค้ก ชุด DIY My Cupcake ราคา 20 บาท

ขนม DIY ชุดนี้เป็นชุดทำคัพเค้กด้วยตัวเอง ในกล่องจะมีเวเฟอร์ถ้วยคัพเค้ก ซีเรียลรูปดาว ช็อกโกแลต 3 รส เยลลี่เชอร์รี่ เม็ดป๊อปสำหรับโรยหน้ามาให้พร้อม มีวิธีทำด้านหลังกล่อง

พอได้ลองทำดูแล้วก็ไม่ยุ่งยากเท่าไร ทำได้ง่ายๆ อาจจะวุ่นวายตอนบีบช็อกโกแลตแต่ทำเสร็จแล้วก็สนุกดี ขนมชุดนี้อร่อยด้วยนะช็อกโกแลตไม่หวานมากเหมือนชุดก่อน สำหรับชุดนี้ถ้าเราทำได้เด็กก็ทำได้แน่นอน