ลองกลิ่นแรก Honour Man EDP เป็นกลิ่นที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011 เป็นกลิ่นที่บรรยายไว้ว่าเป็นกลิ่นที่ทำให้หวนรำลึกถึงอดีต เรื่องราวของความสัมพันธ์อะไรทำนองนั้น มีโน๊ตกลิ่นที่ยกมาจากเว็บไซต์ระบุไว้ระเอียดเลย
- Top Notes: Pink Pepper, Black Pepper.
- Heart Notes: Geranium, Nutmeg, Elemi.
- Base Notes: Patchouli, Frankincense, Cedarwood, Vetiver, Tonka Bean, Musk.
กลิ่นเปิดมาแบบกลิ่นพริกไทยฟุ้ง เครื่องเทศซ่าตลบ ให้กลิ่นหอมเย็นแบบเครื่องเทศแห้ง โปร่ง แบบหอมสบายจมูกเลยทีเดียว เป็นกลิ่นที่เหมือนร้านขายยาจีน ร้านขายเครื่องเทศ ปนกับกลิ่นยาแก้ไอน้ำดำที่ไม่ชุ่มฉ่ำ แต่โปร่งเบา ฟุ้งมากมาย กลิ่นหลักๆ รู้สึกได้เท่านี้ แต่ก็รู้สึกถึงกลิ่นแบบ Geranium คลอพอให้กลิ่นดูมีอะไรไม่แห้งเหือดซะทีเดียว เป็นกลิ่นแบบนี้ไปจนช่วงหลังของกลิ่นเลย
กลิ่นนี้มันเฉพาะทางมากจริงๆ ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ได้ลองกลิ่นมาก่อน เป็นกลิ่นหอมแนวเครื่องเทศจ๋า ไม่ฟรุตตี้ ไม่ดอกไม้อะไรทั้งนั้น เครื่องเทศ ไม้หอมทั่งแท่งเลยทีเดียว แต่จะหาว่าไปช่วงกลางมันจะมีกลิ่นหวานแบบกลิ่นน้ำผึ้งตุ่น แซมไม้หอมโปร่งๆ เข้ามาแบบหล่อสไตล์ตะวันออกกลาง กลิ่นนี้ค่อนข้างหนัก เนื้อกลิ่นดูโปร่ง ฝุ่นที่อาจจะแสบจมูกได้บางครั้ง เข้ากับอากาศที่ไม่ร้อนมากได้ เหมาะสุดเวลากลางคืน
ต่อมา Gold Man EDP เป็นกลิ่นแรกๆ ของแบรนด์ที่ออกมาตั้งแต่ปี 1983 บรรยายกลิ่นไว้ว่าเป็นกลิ่นที่ Sultan Qaboos มอบเป็นของขวัญให้กษัตริย์ทั่วโลกทีไ่ด้พบปะ กลิ่นที่แสดงถึงความมั่งคั่งของสุลดาลของโอมาน มีโน๊ตกลิ่นของ
- Top Notes: Rose, Lily of the Valley, Frankincense
- Heart Notes: Jasmine, Orris, Myrrh
- Base Notes: Ambergris, Civet, Musks, Cedarwood, Sandalwood, Oakmoss, Patchouli
กลิ่นเปิดมาแบบกลิ่นดอกไม้ Flaral แบบ Vintage จัดๆ กลิ่นแบบ Lily of The Valley หมอเหนอะๆ คาวๆ พอกลิ่นเริ่มแห้งสักพักกลิ่นเให้ความฉุน ทึบแบบกลิ่นนน้ำหอมเก่าตามโกดังญี่ปุ่น เป็นกลิ่นที่ชวยงุนงง ว่านี่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ปรุงในยุคใหม่จริงหรือนี่ ช่วงกลางของกลิ่นให้กลิ่นหอมแห้งของดอกไม้ แบบกลิ่นดอกมะลิยุคเก่า อบอุ่นด้วยเครื่องเทศพวก Ambergris กับความคาวคมๆ แนวกลิ่น Civet คลอมาแบบไม่เปิดเผยตัว ช่วงหลังของกลิ่นเมื่อทุกอย่างเริ่มปล่อยตัวลง เซ็ตตัวได้ที่แล้วให้กลิ่นที่หอมนุ่มแนวเครื่องเทศแห้ง ปน Civet คาว เขียวบางๆ ดูอบอุ่น Cozy ใช้ได้ แต่ช่วงท้ายของกลิ่นทิ้งความสาบไว้บนผิวรุนแรงไปหน่อยไม่ชอบเลย
กลิ่นมันหอมนะอย่าเข้าใจผิด แต่กลิ่นเปิดและโทนกลิ่นหลักๆ มันให้อารมณ์น้ำหอมผู้หญิงยุคเก่าชัดเจนเลยทีเดียว อย่างกับ Chanel N5 ยุคที่ออกมาใหม่ๆ ซะอย่างนั้น มีความ Floral ฟุ้งระเบิด ระเบ้อ กลิ่นดอกไม้แห้งๆ ปนกลิ่นแบบ Civet ที่เชิญชวนให้ดม กลิ่นคมชัดแบบนีเนี่ย เอาตรงๆ ไม่กล้าเอาไปใช้งานจริงในปัจจุบันเลย เอาไว้ฉีดก่อนนอนพอได้อยู่สำหรับคนที่ชอบกลิ่นแนว Vintage กลัวใช้ตอนกลางวันแล้วคนจะเบือนหน้าหนีหน่ะสิ มันไม่เข้ากับยุคสมัยสักเท่าไหร่ สมกับรีวิวต่างประเทศที่ว่ากลิ่นมันให้อารม์ของ Old Lady Fragrance ซะจริงๆ
[[ บทความข้างต้นเป็นความเห็นส่วนบุคคลที่ได้ลองใช้สินค้า เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลที่นำมาเล่าเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีจุดประสงค์ชี้นำ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าที่ใช้งานเท่านั้น ความคิดเห็นหรือประสบการณ์การใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โปรดทำความเข้าใจ และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการอ่านด้วยตัวบุคคลเอง ]]
#VintageMonday #PerfumeFriday